หัตถการลดริ้วรอยและกระชับรอบดวงตามีอะไรบ้าง ใครที่อยากบำรุงรอบดวงตาและลดริ้วรอยรอบดวงตาอย่างเร่งด่วน ควรทำหัตถการความงามอะไร ตามมาดูกัน
หลายต่อหลายคนที่มีปัญหารอบดวงตา ไม่ว่าจะเป็นริ้วรอย ความหมองคล้ำ ถุงใต้ตา ตาลึกตาโหล จนถึงขนาดว่าบำรุงรอบดวงตาดีแค่ไหนก็ไม่หาย จนมองหาหัตถการความงามที่ช่วยดูแลจุดนี้ได้ ว่าแต่หัตถการลดริ้วรอยรอบดวงตาและกระชับรอบดวงตามีอะไรบ้าง กระปุกดอทคอมจะพาไปทำความรู้จักแต่ละประเภทกัน
หัตถการลดริ้วรอยและกระชับรอบดวงตามีอะไรบ้าง
ใครที่กำลังสนใจหัตถการต่าง ๆ ที่ช่วยดูแลรอบดวงตา ลองมาดูกันค่ะ
1. การใช้คลื่นพลังงาน (Energy-Based Devices)
- Ulthera (อัลเทอร่า) : ใช้คลื่นเสียงอัลตราซาวด์ความถี่สูง เพื่อส่งพลังงานลงไปยังชั้นผิวหนังลึก ๆ กระตุ้นการสร้างคอลลาเจน ทำให้ผิวยกกระชับขึ้นทันที และเห็นผลชัดเจนเต็มที่ใน 3 เดือน ผลลัพธ์อยู่ได้นานกว่า 1 ปี
- Thermage (เทอร์มาจ) : ใช้คลื่นความถี่วิทยุ (Radio Frequency - RF) เพื่อส่งความร้อนไปกระตุ้นคอลลาเจนในชั้นหนังแท้ ช่วยลดรอยตีนกา ถุงใต้ตา และหนังตาตก Thermage Eye เป็นเทคโนโลยีที่ออกแบบมาเพื่อทำบริเวณเปลือกตาโดยเฉพาะ
- EMFACE Eyes : เป็นนวัตกรรมที่ผสานพลังงานเพื่อแก้ปัญหาความหย่อนคล้อย ร่องใต้ตา ถุงใต้ตา และริ้วรอยเล็ก ๆ พร้อมเสริมสร้างความแข็งแรงให้โครงสร้างผิวและกล้ามเนื้อ
2. การฉีดสารเพื่อลดริ้วรอยและเติมเต็ม
- Botox (โบท็อกซ์) : เป็นการฉีดสารคลายกล้ามเนื้อเพื่อลดริ้วรอยที่เกิดจากการแสดงสีหน้า เช่น รอยตีนกา หรือรอยย่นเล็ก ๆ ใต้ตา ให้ผลลัพธ์รวดเร็ว
- Filler (ฟิลเลอร์) : เป็นการฉีดสารเติมเต็ม ไฮยาลูโรนิก แอซิด (Hyaluronic Acid) เพื่อเติมเต็มร่องลึกใต้ตา แก้ปัญหาใต้ตาลึก หรือเบ้าตาลึก ทำให้ผิวดูฟูและอิ่มขึ้น
- Rejuran (รีจูรัน) / Mesotherapy (เมโสใต้ตา) : เป็นการฉีดสารบำรุงผิวหรือสารสกัดจาก DNA ปลาแซลมอน (สำหรับ Rejuran) เพื่อฟื้นฟูและกระตุ้นการสร้างคอลลาเจน ทำให้ผิวรอบดวงตาแข็งแรงขึ้น
3. วิธีอื่น ๆ
- Laser (เลเซอร์) : เช่น Vbeam laser, Q-Ray, CO2 laser เป็นเลเซอร์ที่ช่วยกระตุ้นการสร้างคอลลาเจน หรือลดเลือนริ้วรอย ทำให้รอยย่นใต้ตาค่อย ๆ จางลง
- การฉีดไขมัน (Fat Grafting) : เป็นการนำไขมันจากส่วนอื่นของร่างกายมาฉีดเติมเต็มบริเวณใต้ตาที่ยุบตัวหรือเป็นร่องลึก
จะเห็นได้ว่าหัตถการเกี่ยวกับรอบดวงตามีมากมาย แต่รอบดวงตาเป็นบริเวณที่บอบบาง ดังนั้นการเลือกหัตถการที่เหมาะสมที่สุดควรปรึกษาแพทย์ผิวหนังหรือแพทย์ด้านความงามที่มีประสบการณ์ เพื่อประเมินสภาพผิวและปัญหาของดวงตาอย่างละเอียดค่ะ






