จูบตรงไหนผู้ชายชอบ คำถามคาใจที่ผู้หญิงหลายคนต้องคิดทุกครั้งแน่ ๆ เวลา Kiss เพราะผู้หญิงเราต่างก็อยากให้ผู้ชายประทับใจในการจูบทุกครั้งจนลืมไม่ลง ว่าแต่ว่าจูบตรงไหนผู้ชายชอบกันล่ะ แล้วถ้าเราจูบแก้มเขาบ่อย ๆ เขาจะชอบไหมนะ หรือจริง ๆ แล้วเขาชอบให้จูบในจุดที่เราไม่เคยจูบมาก่อนกันแน่ล่ะเนี่ย
สิ่งที่หลายคนมองข้ามในความสัมพันธ์นอกจากการบอกรักกันแล้ว เรื่องเล็ก ๆ น้อย ๆ อย่างการแสดงความรักด้วยการจูบก็สำคัญไม่แพ้กัน ซึ่งเคยมีผลวิจัยของมหาวิทยาลัยออกซฟอร์ด ในหัวข้อเรื่อง Examining the Possible Functions of Kissing in Romantic Relationships หรือแปลเป็นไทยได้ว่า "ทดสอบความเป็นไปได้ว่าการจูบมีผลต่อความสัมพันธ์แบบโรแมนติกได้อย่างไร" โดยได้สำรวจความคิดเห็นจากผู้ชายกว่า 308 คน และผู้หญิงกว่า 594 คน
ผลปรากฏว่าการจูบที่ดีและจูบกันทุกวันโดยไม่ต้องมีโอกาสพิเศษอะไรมาเกี่ยวข้อง ส่งผลให้ความสัมพันธ์ในระยะยาวดีขึ้นได้จริง ต่างจากความสัมพันธ์ระยะสั้นที่การจูบจะมีขึ้นเฉพาะก่อนหรือระหว่างมีเซ็กส์เท่านั้น ดังนั้นแล้วผลการวิจัยนี้จึงเป็นข้อพิสูจน์อย่างดีเลยว่า จูบสำคัญกับชีวิตคู่มากมายขนาดไหน เมื่อรู้ว่าจูบสำคัญขนาดนี้แล้วถ้าอย่างนั้นเรามาดูกันดีกว่าค่ะว่าจูบแบบไหนถึงจะมัดใจคนรักได้
เป็นคำถามที่ฟังดูเหมือนตอบยากแต่จริง ๆ แล้วไม่ใช่เรื่องยากอะไรเลยค่ะคุณสาว ๆ เพราะคุณผู้ชายที่รักของเราไม่ได้เดาใจยากขนาดนั้นสักหน่อย ขอเพียงแค่คุณเริ่มเข้าหาผู้ชายก่อนเพื่อตัดปัญหาเรื่องความขี้อายไม่กล้าแสดงออก จากนั้นก็จูบเขาบ่อย ๆ อย่างนุ่มนวลทุกวันก็เท่านั้นเอง จำไว้ง่าย ๆ เลยนะคะ "จูบผู้ชายก่อน จูบบ่อย ๆ จูบทุกวัน เติมความหวานให้กันมาก ๆ" แค่นั้นแหละค่ะที่ผู้ชายชอบ
ก่อนจะได้รู้กันว่าจูบตรงไหนผู้ชายถึงจะชอบ เรามาดูวิธีจูบกันก่อนดีกว่าว่าจูบยังไงถึงจะถูกวิธี และช่วยให้ไม่เคอะเขินได้ด้วย
บางครั้งการจูบกันก็ช่างเขินอายเสียจนไม่กล้าเอ่ยเป็นคำพูด ถ้าอย่างนั้นลองส่งเป็นภาษากายด้วยการจ้องตาแล้วเผยอริมฝีปากดูสิคะ วิธีการไม่ยากเลย แค่เพียงจ้องมองไปที่ชายหนุ่มของเรา เผยอปากเล็ก ๆ ให้ดูรู้ว่าเราพร้อมจูบแล้วนะ ง่าย ๆ แค่นี้เองค่ะ ลองทำตามนะคะ
ค่อย ๆ เริ่มจูบอย่างช้า ๆ ไม่ต้องเร่งรีบ อย่าให้ริมฝีปากชนกันแรงเกินไปและอย่าทำให้มีเสียงดังจ๊วบจ๊าบจนเกินเหตุ จูบแบบทะนุถนอมให้ดูโรแมนติกก็พอแล้ว
เรื่องนี้ต้องระวังเป็นพิเศษเลยนะคะ เพราะการจูบกันแต่ละครั้งเราแทบจะระวังท่าทางการจูบไม่ค่อยได้ น้ำลายก็พร้อมจะไหลออกมาได้เสมอ หากรู้ตัวว่าน้ำลายเริ่มมากเกินไปแล้วควรกลืนไปทันทีจะดีกว่า
หลายคนเวลาจูบก็มักจะจูบดูดดื่มเสียจนลืมหายใจ ซึ่งอาจจะทำให้เหนื่อยเอาได้ง่าย ๆ ลองฝึกจูบไปด้วยหายใจทางจมูกไปด้วยจะช่วยได้มาก หรือถ้าทำไม่ได้จริง ๆ ก็หยุดพักจูบซะก่อนค่อยจูบอีกรอบแล้วกัน
หากรู้สึกเคอะเขินจนไม่รู้ว่าต้องวางมือไว้ที่ไหนดี ลองวางมือไปที่หัวไหล่ของคุณผู้ชายดูก็ได้ แล้วคุณผู้ชายก็จะโอบเอวเรากลับเอง ได้ทั้งที่วางมือได้ทั้งคนโอบกอดในคราวเดียวกัน
เมื่อตัดความขี้อายที่มีและฝึกจูบจนชินแล้ว คราวนี้เรามาดูกันดีกว่านะคะว่าต้องจูบตรงจุดไหนดี คุณผู้ชายเขาถึงจะชอบและอยากให้เราจุ๊บตรงนั้นไปเรื่อย ๆ
หลายคนอาจแปลกใจสักหน่อยว่าทำไมต้องไปจูบกันหลังคอด้วย จูบที่ต้นคอไม่ได้หรือไง เพราะการจูบหลังคอมักจะเป็นการจู่โจมจูบแบบผู้ชายไม่รู้ตัวเลยนี่คะว่าตอนนี้เขากำลังจะโดนจูบนะ หากคุณผู้หญิงเข้าไปสวมกอดเขาจากทางด้านหลังแล้วโน้มตัวขึ้นไปจูบหลังคอคุณผู้ชายสักหนึ่งจุ๊บ รับรองได้ว่าวันนั้นทั้งวันเขาจะเขินเราจนแก้มแดงเลยล่ะค่ะ
อีกหนึ่งจุดบนร่างกายที่แสดงความกำยำของชายหนุ่มได้อย่างชัดเจน เพราะหัวไหล่ของชายหนุ่มจะมีความกว้างมากกว่าไหล่ของหญิงสาว หากผู้หญิงคนไหนลองได้จูบหัวไหล่ซึ่งเป็นจุดสำคัญจุดหนึ่งที่ผู้หญิงมองข้ามแต่ผู้ชายมักจะภูมิใจ ถึงขั้นมีคำกล่าวที่ว่า "ไหล่มีไว้ให้เธอซบ" พอคุณผู้หญิงทั้งซบทั้งจูบไหล่กว้าง ๆ นั้นทุกวัน คุณผู้ชายคงหลงจนหนีไปไหนไม่รอดแน่
จุดที่คาดไม่ถึงอีกหนึ่งจุด แต่จูบทีไรคุณผู้ชายเขาทั้งเขิน ทั้งเสียว ทั้งจั๊กจี้กันเชียวแหละ ลองจุ๊บไปที่ใบหูทั้งขอบหรือข้างในหูของเขาดูนะคะ หรือใครยังเคอะเขิน ไม่เคยจูบตรงจุดนี้มาก่อน ลองเริ่มด้วยการกระซิบข้างหูเบา ๆ ก่อน ขอแค่ให้ปากเราแนบชิดใบหูของเขาแค่นี้ก็เขินกันม้วนต้วนทีเดียวล่ะ
นอกจากการจับมือกันจะทำให้เขินได้แล้ว การจุ๊บลงไปที่ฝ่ามือก็ทำให้ฟินได้ไม่แพ้กัน แต่โดยปกติแล้วผู้ชายมักจะเป็นฝ่ายจูบมือผู้หญิงมาแต่ไหนแต่ไร หากผู้หญิงลองจุ๊บไปที่มือของคุณผู้ชายอย่างแผ่วเบาเขาคงจะเขินเราน่าดู ก็เห็นว่ามีแต่ในละครนี่นา พระเอกจุ๊บมือนางเอก พอมาชีวิตจริงนางเอกจุ๊บมือพระเอกดูบ้างคงน่ารักไม่เบา
แผ่นหลังกว้าง ๆ ของคุณผู้ชายที่ไม่ค่อยโดนสัมผัสสักเท่าไหร่ หากแผ่นหลังพูดได้คงบ่นน้อยใจน่าดูที่ไม่ค่อยมีใครมาใส่ใจ ลองจุ๊บแผ่นหลังเวลาคุณผู้ชายถอดเสื้อดูสิคะ เขาคงแปลกใจน่าดู มิหนำซ้ำคราวหน้าคงจะเอ่ยปากให้เราจูบหลังเขาเองอีกด้วย
ใคร ๆ ต่างก็ชอบหอมและถูกหอมแก้ม ก็แหมขนาดเห็นเด็กเล็กน่ารัก ๆ เรายังมันเขี้ยวขอหอมแก้มเขาอยู่บ่อย ๆ แล้วถ้าเป็นคุณแฟนสุดน่ารักของเรามีหรือที่เราจะไม่มันเขี้ยวอยากหอมแก้มเขาบ้าง แต่หอมแก้มมันน่าเบื่อไปแล้ว ลองจุ๊บปากประทับไปบนแก้มเขาสักจุ๊บดูสิคะ งานนี้มีเขินกันทั้งคนจุ๊บคนถูกจุ๊บแน่
ขึ้นชื่อว่าจูบจะจูบตรงไหนคงไม่ฟินเท่าจูบที่ปาก จะจูบแบบธรรมดาแค่ริมฝีปากชนกันหรือจูบแบบแลกลิ้นกันเลยก็ยังได้ ขอแค่หมั่นจูบกันทุกวันคุณผู้ชายทั้งหลายก็พอใจแล้ว แต่ที่สำคัญควรดูแลกลิ่นปากให้ดีก่อนจะจูบด้วยนะคะ หากตื่นเช้ามาแล้วยังมีกลิ่นปากอยู่ก็แอบไปเข้าห้องน้ำแปรงฟันก่อนสักนิด เพื่อที่หนุ่ม ๆ ของเราจะได้ประทับใจกับจูบแรกยามเช้าไปทั้งวัน
อานุภาพของการจูบรุนแรงไม่เบาเลยนะคะ แค่ริมฝีปากไปสัมผัสบนร่างกายของอีกคนแค่นี้ก็ทำให้เขินหรือรู้สึกดีได้แล้ว คู่รักหลายคู่ที่คบหากันมานานแล้วอาจจะละเลยการจูบไปบ้าง อยากให้ลองกลับมาเติมความหวานด้วยการจูบกันอีกครั้งดู รับรองว่าความสัมพันธ์ของคุณต้องกลับมาดีและรู้สึกผูกพันแนบแน่นเหมือนรักกันช่วงแรกแน่ ๆ
ผลปรากฏว่าการจูบที่ดีและจูบกันทุกวันโดยไม่ต้องมีโอกาสพิเศษอะไรมาเกี่ยวข้อง ส่งผลให้ความสัมพันธ์ในระยะยาวดีขึ้นได้จริง ต่างจากความสัมพันธ์ระยะสั้นที่การจูบจะมีขึ้นเฉพาะก่อนหรือระหว่างมีเซ็กส์เท่านั้น ดังนั้นแล้วผลการวิจัยนี้จึงเป็นข้อพิสูจน์อย่างดีเลยว่า จูบสำคัญกับชีวิตคู่มากมายขนาดไหน เมื่อรู้ว่าจูบสำคัญขนาดนี้แล้วถ้าอย่างนั้นเรามาดูกันดีกว่าค่ะว่าจูบแบบไหนถึงจะมัดใจคนรักได้
ผู้ชายชอบจูบแบบไหน
เป็นคำถามที่ฟังดูเหมือนตอบยากแต่จริง ๆ แล้วไม่ใช่เรื่องยากอะไรเลยค่ะคุณสาว ๆ เพราะคุณผู้ชายที่รักของเราไม่ได้เดาใจยากขนาดนั้นสักหน่อย ขอเพียงแค่คุณเริ่มเข้าหาผู้ชายก่อนเพื่อตัดปัญหาเรื่องความขี้อายไม่กล้าแสดงออก จากนั้นก็จูบเขาบ่อย ๆ อย่างนุ่มนวลทุกวันก็เท่านั้นเอง จำไว้ง่าย ๆ เลยนะคะ "จูบผู้ชายก่อน จูบบ่อย ๆ จูบทุกวัน เติมความหวานให้กันมาก ๆ" แค่นั้นแหละค่ะที่ผู้ชายชอบ
จูบยังไงดี !!
1. ส่งสัญญาณให้รู้ว่าพร้อมจูบ
บางครั้งการจูบกันก็ช่างเขินอายเสียจนไม่กล้าเอ่ยเป็นคำพูด ถ้าอย่างนั้นลองส่งเป็นภาษากายด้วยการจ้องตาแล้วเผยอริมฝีปากดูสิคะ วิธีการไม่ยากเลย แค่เพียงจ้องมองไปที่ชายหนุ่มของเรา เผยอปากเล็ก ๆ ให้ดูรู้ว่าเราพร้อมจูบแล้วนะ ง่าย ๆ แค่นี้เองค่ะ ลองทำตามนะคะ
2. บรรจงจูบอย่างแผ่วเบาช่วยเพิ่มความโรแมนติกได้
ค่อย ๆ เริ่มจูบอย่างช้า ๆ ไม่ต้องเร่งรีบ อย่าให้ริมฝีปากชนกันแรงเกินไปและอย่าทำให้มีเสียงดังจ๊วบจ๊าบจนเกินเหตุ จูบแบบทะนุถนอมให้ดูโรแมนติกก็พอแล้ว
3. ระวังอย่าให้น้ำลายไหลเลอะเทอะระหว่างจูบ
เรื่องนี้ต้องระวังเป็นพิเศษเลยนะคะ เพราะการจูบกันแต่ละครั้งเราแทบจะระวังท่าทางการจูบไม่ค่อยได้ น้ำลายก็พร้อมจะไหลออกมาได้เสมอ หากรู้ตัวว่าน้ำลายเริ่มมากเกินไปแล้วควรกลืนไปทันทีจะดีกว่า
4. อย่ามัวแต่จูบจนลืมหายใจ
หลายคนเวลาจูบก็มักจะจูบดูดดื่มเสียจนลืมหายใจ ซึ่งอาจจะทำให้เหนื่อยเอาได้ง่าย ๆ ลองฝึกจูบไปด้วยหายใจทางจมูกไปด้วยจะช่วยได้มาก หรือถ้าทำไม่ได้จริง ๆ ก็หยุดพักจูบซะก่อนค่อยจูบอีกรอบแล้วกัน
5. วางมือให้ดีไม่ต้องมีเคอะเขิน
หากรู้สึกเคอะเขินจนไม่รู้ว่าต้องวางมือไว้ที่ไหนดี ลองวางมือไปที่หัวไหล่ของคุณผู้ชายดูก็ได้ แล้วคุณผู้ชายก็จะโอบเอวเรากลับเอง ได้ทั้งที่วางมือได้ทั้งคนโอบกอดในคราวเดียวกัน
7 จุดอ่อนสุดฟิน ที่จูบไปตรงไหนผู้ชายก็ชอบ
เมื่อตัดความขี้อายที่มีและฝึกจูบจนชินแล้ว คราวนี้เรามาดูกันดีกว่านะคะว่าต้องจูบตรงจุดไหนดี คุณผู้ชายเขาถึงจะชอบและอยากให้เราจุ๊บตรงนั้นไปเรื่อย ๆ
1. จูบผู้ชายที่หลังคอ
หลายคนอาจแปลกใจสักหน่อยว่าทำไมต้องไปจูบกันหลังคอด้วย จูบที่ต้นคอไม่ได้หรือไง เพราะการจูบหลังคอมักจะเป็นการจู่โจมจูบแบบผู้ชายไม่รู้ตัวเลยนี่คะว่าตอนนี้เขากำลังจะโดนจูบนะ หากคุณผู้หญิงเข้าไปสวมกอดเขาจากทางด้านหลังแล้วโน้มตัวขึ้นไปจูบหลังคอคุณผู้ชายสักหนึ่งจุ๊บ รับรองได้ว่าวันนั้นทั้งวันเขาจะเขินเราจนแก้มแดงเลยล่ะค่ะ
2. จูบผู้ชายที่ไหล่
อีกหนึ่งจุดบนร่างกายที่แสดงความกำยำของชายหนุ่มได้อย่างชัดเจน เพราะหัวไหล่ของชายหนุ่มจะมีความกว้างมากกว่าไหล่ของหญิงสาว หากผู้หญิงคนไหนลองได้จูบหัวไหล่ซึ่งเป็นจุดสำคัญจุดหนึ่งที่ผู้หญิงมองข้ามแต่ผู้ชายมักจะภูมิใจ ถึงขั้นมีคำกล่าวที่ว่า "ไหล่มีไว้ให้เธอซบ" พอคุณผู้หญิงทั้งซบทั้งจูบไหล่กว้าง ๆ นั้นทุกวัน คุณผู้ชายคงหลงจนหนีไปไหนไม่รอดแน่
3. จูบผู้ชายที่หู
จุดที่คาดไม่ถึงอีกหนึ่งจุด แต่จูบทีไรคุณผู้ชายเขาทั้งเขิน ทั้งเสียว ทั้งจั๊กจี้กันเชียวแหละ ลองจุ๊บไปที่ใบหูทั้งขอบหรือข้างในหูของเขาดูนะคะ หรือใครยังเคอะเขิน ไม่เคยจูบตรงจุดนี้มาก่อน ลองเริ่มด้วยการกระซิบข้างหูเบา ๆ ก่อน ขอแค่ให้ปากเราแนบชิดใบหูของเขาแค่นี้ก็เขินกันม้วนต้วนทีเดียวล่ะ
4. จูบผู้ชายที่มือ
นอกจากการจับมือกันจะทำให้เขินได้แล้ว การจุ๊บลงไปที่ฝ่ามือก็ทำให้ฟินได้ไม่แพ้กัน แต่โดยปกติแล้วผู้ชายมักจะเป็นฝ่ายจูบมือผู้หญิงมาแต่ไหนแต่ไร หากผู้หญิงลองจุ๊บไปที่มือของคุณผู้ชายอย่างแผ่วเบาเขาคงจะเขินเราน่าดู ก็เห็นว่ามีแต่ในละครนี่นา พระเอกจุ๊บมือนางเอก พอมาชีวิตจริงนางเอกจุ๊บมือพระเอกดูบ้างคงน่ารักไม่เบา
5. จูบผู้ชายที่แผ่นหลัง
แผ่นหลังกว้าง ๆ ของคุณผู้ชายที่ไม่ค่อยโดนสัมผัสสักเท่าไหร่ หากแผ่นหลังพูดได้คงบ่นน้อยใจน่าดูที่ไม่ค่อยมีใครมาใส่ใจ ลองจุ๊บแผ่นหลังเวลาคุณผู้ชายถอดเสื้อดูสิคะ เขาคงแปลกใจน่าดู มิหนำซ้ำคราวหน้าคงจะเอ่ยปากให้เราจูบหลังเขาเองอีกด้วย
6. จูบผู้ชายที่แก้ม
ใคร ๆ ต่างก็ชอบหอมและถูกหอมแก้ม ก็แหมขนาดเห็นเด็กเล็กน่ารัก ๆ เรายังมันเขี้ยวขอหอมแก้มเขาอยู่บ่อย ๆ แล้วถ้าเป็นคุณแฟนสุดน่ารักของเรามีหรือที่เราจะไม่มันเขี้ยวอยากหอมแก้มเขาบ้าง แต่หอมแก้มมันน่าเบื่อไปแล้ว ลองจุ๊บปากประทับไปบนแก้มเขาสักจุ๊บดูสิคะ งานนี้มีเขินกันทั้งคนจุ๊บคนถูกจุ๊บแน่
7. จูบผู้ชายที่ปาก
ขึ้นชื่อว่าจูบจะจูบตรงไหนคงไม่ฟินเท่าจูบที่ปาก จะจูบแบบธรรมดาแค่ริมฝีปากชนกันหรือจูบแบบแลกลิ้นกันเลยก็ยังได้ ขอแค่หมั่นจูบกันทุกวันคุณผู้ชายทั้งหลายก็พอใจแล้ว แต่ที่สำคัญควรดูแลกลิ่นปากให้ดีก่อนจะจูบด้วยนะคะ หากตื่นเช้ามาแล้วยังมีกลิ่นปากอยู่ก็แอบไปเข้าห้องน้ำแปรงฟันก่อนสักนิด เพื่อที่หนุ่ม ๆ ของเราจะได้ประทับใจกับจูบแรกยามเช้าไปทั้งวัน
อานุภาพของการจูบรุนแรงไม่เบาเลยนะคะ แค่ริมฝีปากไปสัมผัสบนร่างกายของอีกคนแค่นี้ก็ทำให้เขินหรือรู้สึกดีได้แล้ว คู่รักหลายคู่ที่คบหากันมานานแล้วอาจจะละเลยการจูบไปบ้าง อยากให้ลองกลับมาเติมความหวานด้วยการจูบกันอีกครั้งดู รับรองว่าความสัมพันธ์ของคุณต้องกลับมาดีและรู้สึกผูกพันแนบแน่นเหมือนรักกันช่วงแรกแน่ ๆ