เป็นประเด็นที่ถูกจับตามอง หลังจากที่ ไมค์ พิรัชต์ ยื่นฟ้องศาล เพื่อร้องสิทธิ์ขออำนาจปกครองบุตร ซึ่งก็คือ น้องแม็กซ์เวลล์ ร่วมกับ ซาร่า คาซิงกินี เพราะไม่ได้เจอลูกมาหลายเดือนแล้ว และไม่อยากเป็นแค่พ่อที่จ่ายเงินเลี้ยงดูลูกเพียงอย่างเดียว ขณะที่ฝ่ายหญิงก็ตั้งทนายมาสู้ เพราะไม่อยากเสียลูกไป โดยทั้งสองฝ่ายต่างก็พูดถึงข้อเท็จจริงที่เกิดขึ้น แต่เรื่องราวกลับมีหลายจุดที่ไม่ตรงกัน สร้างความสับสนจนไม่รู้ว่าใครพูดจริงหรือเท็จกันแน่
อ่านข่าว : ไมค์ พิรัชต์ ยื่นศาล ร้องสิทธิ์ปกครองบุตรร่วม ซาร่า - พ้อ ไม่ได้เจอ น้องแม็กซ์เวลล์ หลายเดือนแล้ว
อ่านข่าว : ไมค์ พิรัชต์ - ซาร่า คาซิงกินี พูดไม่ตรงกันหลายจุด งานนี้ใครพูดจริง-เท็จ มาดูกัน !
ล่าสุด (16 กันยายน 2563) ไนน์เอ็นเตอร์เทน เผยบทสัมภาษณ์ของ ไมค์ พิรัชต์ เปิดใจต่อสื่อมวลชน พร้อม ทนายเจมส์ ทนายชื่อดัง เกี่ยวกับประเด็นนี้ว่า เหตุผลที่ไมค์ไปยื่นคำร้องต่อศาล ก็เพื่อให้ได้สิทธิ์เป็นบิดาโดยชอบด้วยกฎหมาย และอำนาจในสิทธิ์ปกครองร่วม ไม่ใช่เป็นสิทธิ์ปกครองแต่เพียงผู้เดียว ฉะนั้นคำว่า "พรากลูก" ไมค์คิดว่ามันไม่น่าจะมาใช้ในกรณีนี้ได้ ไม่อยากให้น้องแม็กซ์เวลล์โตมาเห็นว่าไมค์จะไปพรากลูกจากแม่เขา เพราะการที่ไมค์มีสิทธิ์ในการปกครองร่วม ไม่ได้ทำให้สิทธิ์ในการเป็นมารดาของซาร่าลดลง
ไมค์ พิรัชต์ เผยว่า ไม่ได้เจอลูกมาสักพักแล้ว เจอลูกครั้งสุดท้ายประมาณช่วงเดือนมีนาคม และไม่ได้เจอกันอีกเลยจนช่วงวันเกิดลูกตอนเดือนกรกฎาคม ซึ่งมีเหตุการณ์หลายอย่างที่มันค่อนข้างจะซับซ้อน ไมค์ต้องไปดักเจอที่โรงเรียน หรือใต้คอนโด ทางซาร่าบอกว่าไม่ได้กีดกัน แต่การเจอกันหลังจากที่ไปคุยเรื่องปรับค่าใช้จ่ายต่าง ๆ มันค่อนข้างที่จะยาก
สำหรับเรื่องเวลาไม่ตรงกัน ไมค์ อธิบายว่า มันมีเหตุการณ์หนึ่งที่รู้สึกไม่โอเคคือ ไมค์ไปรอเก้อที่สนามบิน โดยเรื่องเกิดขึ้นตอนวันที่ 8 กรกฎาคม ไมค์บอกซาร่าว่าอยากเจอลูกก่อนฝ่ายหญิงกลับภูเก็ต อยากพาลูกมาเป่าเค้กกับที่บ้าน เพราะใกล้วันเกิดลูกแล้ว วันที่ 10 กรกฎาคม ไมค์พิมพ์บอกว่าจะไปรับที่คอนโดตอนบ่าย 3 ตอนแรกซาร่าจะไม่ให้เจอ กระทั่งมีการพูดคุยตกลงกันใหม่ จึงได้เจอลูก ที่ลงมาพร้อมเพื่อนคนหนึ่งที่อยู่กับซาร่าในคอนโด แต่ปฏิกิริยาของลูกที่มีต่อไมค์ไม่เหมือนเดิม ซึ่งจริง ๆ มีเหตุการณ์แบบนี้มาสักพักหนึ่งแล้ว ที่ลูกเหมือนสับสนอะไรสักอย่าง วันหนึ่งบอกว่ารักไมค์ อีกวันหนึ่งบอกว่าไม่รัก ไม่อยากเจอแล้ว ไมค์จึงรู้สึกว่ามันมีอะไรแปลก ๆ ตรงนี้
ตอนที่เจอลูกครั้งนี้ เหมือนลูกผวา กังวลและกลัวอะไรอยู่สักอย่างหนึ่ง มีการมองไปข้างหลังไมค์ตลอดเวลา ซึ่งมีเพื่อนของซาร่ายืนอยู่ จนลูกของเพื่อนซาร่าชวนแม็กซ์เวลล์ไปว่ายน้ำ วันถัดมาซาร่าก็พิมพ์ถามว่าจะมารับลูกไหม ให้มาส่งลูกที่บ้านตอน 1 ทุ่ม แต่ไม่บอกว่าบินไฟลต์ไหน สนามบินอะไร แต่ไมค์ติดงานไม่สามารถไปรับได้ จึงขอไปรอที่สนามบินเพื่อจะเอาเค้กกับของขวัญไปให้ จึงไปดักรอที่สนามบินตอน 2 ทุ่ม และรอถึง 4 ทุ่ม แต่ก็ไม่มีใครมา ไมค์จึงไปถามที่ประชาสัมพันธ์ว่ารอบสุดท้ายบินกี่โมง พนักงานบอกว่า 1 ทุ่ม ไมค์จึงรู้สึกว่าทำไมต้องโกหก ลูกไม่ได้บินวันนี้
โดยครั้งสุดท้ายที่ได้คุยกับซาร่าคือวันที่ 12 กรกฎาคม ที่เห็นลูกอยู่ฝั่งตรงข้าม ไมค์ถ่ายรูปทันและส่งไปถามว่าทำไมต้องทำแบบนี้ หลังจากนั้นซาร่าก็ไม่ตอบอะไรอีกเลย ถ้าคุยกันเองได้ก็คงไม่ต้องมาขึ้นศาล พูดต่อหน้าสื่อ เรื่องที่ไมค์ถามบ่อยสุดคือเรื่องโรงเรียน ว่าจะเอายังไง จะวางแผนอนาคตลูกยังไง ถ้าจ่ายปีละ 8-9 แสนต่อปี มันไม่ไหว อาชีพดารามันก็ไม่ได้มั่นคง ถ้าวันหนึ่งไมค์ไม่มีงานขึ้นมาจะทำยังไง จึงไปเดินสายไปหาโรงเรียนมาเสนอ และได้มาโรงเรียนหนึ่ง เป็นโรงเรียน 2 ภาษา ค่าเทอม 1.5 แสนบาท ซึ่งเหมือนซาร่าจะรับฟัง แต่ก็ไม่เคยได้คำตอบ ส่วนเรื่องที่ไมค์เสนอคอนโดไปนั้น มีตั้งแต่เรตราคา 4,000-13,000 บาท ทุกอันดูแล้วว่าถ้าไมค์อยู่ได้ ลูกก็ต้องอยู่ได้ มีหลายตัวเลือก แต่ยังไม่ได้บังคับเลยว่าต้องอยู่ที่นั่น
ไมค์ กล่าวว่า ที่ผ่านมามันก็ดี แต่พอไปพูดเรื่องค่าใช้จ่าย ขอลดตรงนั้นนิด ตรงนี้หน่อย มันก็เกิดปัญหาถี่ขึ้นเรื่อย ๆ ไมค์มีคำถามเยอะมาก แต่ที่อยากได้คำตอบที่สุดก็คือ ตอนนี้ลูกเรียนที่ไหน มีที่เรียนหรือเปล่า ตั้งแต่แม็กซ์เวลล์คลอดออกมาวันแรกไมค์จ่ายไป 4 แสนกว่า หลังจากนั้นก็จ่าย 3-5 หมื่น และช่วงแรกที่ลูกยังเป็นทารกอยู่ ก็ให้เดือนละ 3 หมื่น พอใกล้เข้าโรงเรียนก็มีพี่เลี้ยง ให้เดือนละ 1.2 หมื่น คนขับรถ 1.5 หมื่น ค่าประกันอีก 7 หมื่นต่อปี ค่าโรงเรียนเกือบล้านต่อปี งานวันเกิดก็ดูแลทุกครั้ง เงินเดือนอีก 3 หมื่น ไม่รวมที่เพิ่มให้เป็น 4 หมื่น และอื่น ๆ อีกมากมาย รวมถึงฝากเงินเดือนละ 1 หมื่น ให้น้องแม็กซ์เวลล์อีกด้วย ต่อให้ลำบากแค่ไหนก็จะไม่ไปแตะเงินตรงนี้ เพราะเป็นเงินของลูก
เรื่องเซ็นรับรองบุตร ก่อนหน้านี้ตอนลูกเกิดใหม่ ๆ ซาร่าไม่ให้เซ็น ให้รอลูกโตก่อนแล้วให้มาตัดสินเอง แต่ที่ผ่านมาไมค์ก็พยายามไปเจอลูกตลอด ไปทำงานต่างประเทศบ่อย ๆ ไม่ได้แปลว่าไม่รักลูก ไม่ดูแลลูก ส่วนเรื่องที่ลือว่าซาร่าตั้งครรภ์ลูกอีกคนหรือไม่ ไมค์ กล่าวว่า ไม่ใช่เรื่องของไมค์ อยากรู้ต้องไปถามซาร่าเอง เพราะเขารู้อยู่แก่ใจตัวเองอยู่แล้ว
ทนายเจมส์ กล่าวเสริมว่า เรื่องยื่นคำร้อง ยื่นเมื่อเดือนมิถุนายน ก่อนที่จะมีข่าวดาราสาวท้องกลางกองถ่าย มันจึงไม่เกี่ยวกันว่ายื่นเพราะกลัวเรื่องพวกนั้น สมมติว่าในอนาคตซาร่าจะมีครอบครัว มันก็เรื่องของเขา แต่ถ้ามีผลกระทบกับแม็กซ์เวลล์เมื่อไร ไมค์ก็ต้องทำหน้าที่พ่อ
ไมค์ กล่าวว่า การเงียบคือดีที่สุด ถ้าต้องตอบโต้กันผลเสียมันจะไปตกอยู่ที่ลูก ถ้าไมค์แค่โดนด่าจากคนที่ไม่ได้ทำให้ไมค์มีกินมีใช้ ก็ไม่ต้องไปสนใจก็ได้ ทำงานหาเงินเลี้ยงลูกไปเรื่อย ๆ คนที่ชนะรู้สึกชนะจริง ๆ ใช่ไหม มันมีแต่ผู้แพ้ในการต่อสู้ทุกอย่าง แล้วจะพูดทำไม ด่ามาถึงไมค์ ไมค์ไม่ว่า แต่ด่าไปถึงครอบครัวในสิ่งที่พ่อแม่ไม่ได้ทำ ไม่ได้พูด น้องสาวก็โดนไปด้วย แต่ทุกคนก็อดทน และไมค์ก็ขอโทษครอบครัวที่ลากเข้ามาในปัญหาอะไรไม่รู้
ขอบคุณข้อมูลจาก ไนน์เอ็นเตอร์เทน