ทาสกินแคร์แบบแซนด์วิชคืออะไร มีข้อดีต่อการดูแลผิวหน้าไหม และจะต้องบำรุงผิวยังไงบ้าง เรามาหาคำตอบการใช้สกินแคร์แบบนี้ไปพร้อม ๆ กัน
หลายคนมีสกินแคร์เต็มโต๊ะ แต่บางครั้งก็ยังรู้สึกว่า ดูแลผิวหน้าทุกอย่างแล้ว แต่ผิวยังไม่ค่อยเปล่งปลั่ง หรือ ใช้ผลิตภัณฑ์บางชนิดแล้วผิวแห้ง แดง ลอก แนวทางหนึ่งที่เริ่มได้รับความนิยมคือ การทาสกินแคร์แบบแซนด์วิช ซึ่งช่วยให้การใช้ผลิตภัณฑ์บำรุงผิวต่าง ๆ ซ้อนทับกันได้อย่างมีประสิทธิภาพมากขึ้น และลดโอกาสที่ผิวจะรู้สึกระคายเคือง วันนี้เรามาทำความเข้าใจให้ชัด ๆ กัน
การทาสกินแคร์แบบแซนด์วิชคืออะไร
ยกตัวอย่างง่าย ๆ เช่น ถ้าใช้เรตินอยด์ซึ่งอาจทำให้ผิวแดง ลอก หรือแห้งได้ เทคนิคแซนด์วิชอาจจะเป็นการทาครีมหรือมอยส์เจอร์เบา ๆ ก่อน แล้วตามด้วยเรตินอยด์ แล้วปิดท้ายด้วยมอยส์เจอร์หนา ๆ เพื่อประกบเรตินอยด์ไว้ เหมือนแซนด์วิชขนมปังด้านบนและล่าง
ทาสกินแคร์แบบแซนวิชทำยังไง
- ล้างหน้าและเตรียมผิว – ใช้คลีนเซอร์ที่อ่อนโยน เช็ดหน้าให้สะอาด แต่ไม่ต้องเช็ดให้แห้งจนเกินไป ผิวควรมีความชื้นเล็กน้อย
- ชั้นแรก – ทามอยส์เจอไรเซอร์หรือเซรั่มที่เน้นความชุ่มชื้นเพื่อเป็นเกราะให้ผิว ก่อนที่ผลิตภัณฑ์ประเภทแอ็คทีฟจะเข้าไป
- ชั้นกลาง – ใช้ผลิตภัณฑ์ที่มีแอ็คทีฟ เช่น เรตินอยด์ วิตามินซี หรือไฮดรอกซีแอซิด เลือกตามสภาพผิวและจุดประสงค์
- ชั้นสุดท้าย – ปิดท้ายด้วยมอยส์เจอไรเซอร์ที่มีความเข้มข้นมากขึ้น เพื่อช่วยล็อกสิ่งที่ทาก่อนหน้า และช่วยลดการระคายเคือง
- ปรับให้เหมาะสมกับสภาพผิวและเวลา – ถ้าเป็นกลางวันให้ใช้แบบเบา ๆ หรือเลือกมอยส์เจอไรเซอร์เนื้อบางเบา แล้วตามด้วยกันแดด ถ้าเป็นกลางคืนอาจเลือกครีมที่เนื้อหนาขึ้นได้
ข้อแนะนำเพิ่มเติม :
- รอให้แต่ละชั้นซึมซับสักนิดก่อนลงชั้นถัดไป ไม่จำเป็นต้องรอนานแต่ให้รู้สึกว่าไม่เหนียวหรือจับตัวกัน
- เลือกผลิตภัณฑ์ที่เหมาะกับผิว ไม่จำเป็นต้องซื้อใหม่ทุกชิ้น หากมีอยู่แล้วและสามารถใช้ได้ก็ปรับวิธีใช้ก็พอ
- หากเพิ่งเริ่มใช้ผลิตภัณฑ์ประเภทแอ็คทีฟ ให้เริ่มช้า ๆ และใช้เทคนิคแซนด์วิชช่วยให้ผิวปรับตัวได้ดีขึ้น
ทาสกินแคร์แบบแซนด์วิชมีข้อดี-ข้อเสียอย่างไรบ้าง
ข้อดี
- ลดโอกาสระคายเคือง โดยเฉพาะกับผิวที่ใช้ผลิตภัณฑ์ประเภทแอ็คทีฟเป็นครั้งแรกหรือผิวแห้ง - แพ้ง่าย การมีมอยส์เจอไรเซอร์ห่อก่อนและหลังช่วยให้ผิวไม่โดน “รุก” โดยผลิตภัณฑ์ประเภทแอ็คทีฟมากจนเกินไป
- ล็อกความชุ่มชื้นได้ดีขึ้น ชั้นมอยส์เจอร์ด้านบนช่วยกักเก็บน้ำในผิว ลดการสูญเสียน้ำจากผิว
- ปรับให้ใช้ผลิตภัณฑ์ประเภทแอ็คทีฟได้สม่ำเสมอมากขึ้น เมื่อผิวไวต่อผลิตภัณฑ์ประเภทแอ็คทีฟน้อยลง ก็สามารถใช้ได้บ่อยขึ้นหรือใช้ได้นานขึ้น ซึ่งช่วยให้เห็นผลลัพธ์ได้ชัดขึ้น
ข้อเสีย
- อาจทำให้ผลิตภัณฑ์ประเภทแอ็คทีฟซึมได้น้อยลง ถ้าทามอยส์เจอไรเซอร์หนามากเกิน หรือใช้มอยส์เจอไรเซอร์ตัวแรกไม่เหมาะ อาจทำให้ผลิตภัณฑ์ประเภทแอ็คทีฟซึมผิวน้อยลงหรือทำงานไม่เต็มที่
- ต้องใช้เวลาและความเอาใจใส่มากขึ้น การลงสกินแคร์หลายชั้นอาจทำให้ขั้นตอนนานขึ้น และถ้าใช้ผลิตภัณฑ์หลายชิ้นเกินไปอาจรู้สึกเหนอะหนะหรือหนักผิว
- ไม่เหมาะกับทุกวันหรือทุกส่วนของผิว สำหรับผิวมันมากหรือในช่วงที่ใช้ผลิตภัณฑ์ประเภทแอ็คทีฟแรงมาก อาจจะไม่ต้องใช้แบบแซนวิชทุกครั้ง เพราะอาจเกินความจำเป็นและทำให้ผิวอึดอัด
ข้อควรระวังในการทาสกินแคร์แบบแซนด์วิช
การจะทาสกินแคร์แบบแซนด์วิชก็มีข้อควรระวังเหมือนกันค่ะ ดังนี้จึงควรดูให้ถี่ถ้วนก่อนทา
- เลือกผลิตภัณฑ์ที่เข้ากันได้ ถ้าใช้ผลิตภัณฑ์ประเภทแอ็คทีฟที่รุนแรง เช่น เรตินอยด์หรือ AHA/BHA แล้วใช้มอยส์เจอร์ที่มีส่วนผสมแรง ๆ ร่วมอาจทำให้ผิวระคายเคืองได้
- อย่าใช้มอยส์เจอร์หนาเกินก่อนชั้นแอ็คทีฟ หากชิ้นล่างหนาเกินไป อาจดักผลิตภัณฑ์ประเภทแอ็คทีฟไว้ไม่ให้ซึมเข้าสู่ผิว
- ตรวจดูผิว ถ้าผิวเริ่มแดง ลอก หรือมีสิวใหม่ ๆ ให้ลดความถี่ของผลิตภัณฑ์ประเภทแอ็คทีฟหรือชั้นแซนด์วิชลง
- ช่วงกลางวันอย่าลืมกันแดด ถึงจะใช้เทคนิคแซนด์วิช แต่ว่าแสงแดดยังคงเป็นสาเหตุหลักของการทำลายผิว
- อย่าใช้เทคนิคนี้กับทุกชั้นผลิตภัณฑ์ ไม่จำเป็นต้องใช้ทุกวันหรือทุกผลิตภัณฑ์ เช่น ชั้นที่ไม่มีผลิตภัณฑ์ประเภทแอ็คทีฟเลยอาจไม่จำเป็นต้องทำก็ได้






