x close

สิวฮอร์โมน เกิดจากอะไร รักษายังไง บอกเลยไม่ยากอย่างที่คิด !

          สิวฮอร์โมน เกิดจากอะไร วิธีรักษาต้องทำยังไง ไม่ต้องกังวลไปค่ะสาว ๆ สิวฮอร์โมนเป็นได้ก็หายได้ เพราะวิธีทำให้สิวหายนั้นไม่ยากอย่างที่คิด
วิธีรักษาสิว

          ถือเป็นหนึ่งในปัญหาหนักอกหนักใจสำหรับคนทุกรุ่นทุกวัยอยู่เสมอ สำหรับการเป็น "สิว" บริเวณใบหน้า โดยเฉพาะอย่างยิ่งกับสิวช่วงก่อนมีประจำเดือน หรือที่เรียกกันว่า "สิวฮอร์โมน" ที่มักจะมีอาการรุนแรงมากกว่าปกติ ทั้งเจ็บ ทั้งบวมแดง แถมยังขึ้นในบริเวณใกล้เคียงกันจนทำให้สาว ๆ หลายคนมีความกังวลว่าจะสามารถหาวิธีแก้ไขหรือวิธีรับมือกับสิวฮอร์โมนอย่างไรได้บ้าง เอาเป็นว่าเพื่อช่วยให้สาว ๆ หายกลุ้มใจ วันนี้กระปุกดอทคอมจะพาไปทำความรู้จักกับ สิวฮอร์โมน รวมถึงวิธีดูแลตัวเองและวิธีรักษาสิวฮอร์โมนที่ถูกต้องกันค่ะ

สิวฮอร์โมน เกิดจากอะไร ?


          สำหรับ สิวฮอร์โมน มักมีสาเหตุหลัก ๆ มาจากภาวะฮอร์โมนที่ไม่สมดุลกันในร่างกาย เช่น ประจำเดือนผิดปกติ มีความเครียด อารมณ์หงุดหงิด ซึ่งทางการแพทย์จะเรียกว่าอาการผิดปกติก่อนมีรอบเดือน  Premenstrual Syndrome หรือ PMS และอาจเป็นไปได้ว่าบางคนมีฮอร์โมนเพศชาย (หรือ ฮอร์โมนแอนโดรเจน) ในสัดส่วนที่เยอะกว่าฮอร์โมนเพศหญิง คือ มีผิวมัน รูขุมขนกว้าง และขนดก โดยที่สิวฮอร์โมนนั้น จะมีลักษณะเป็นสิวอักเสบ เป็นตุ่มแดงขนาดใหญ่หรือมีอาการสิวเห่อขึ้นบริเวณรอบปาก คาง และแก้ม ซึ่งส่วนใหญ่มักจะเป็นในช่วงก่อนมีประจำเดือน


วิธีรักษาสิว

สิวฮอร์โมน รักษายังไง ?

วิธีรักษาและดูแลตนเองเมื่อเป็น สิวฮอร์โมน สามารถทำได้ดังต่อไปนี้...

          1. ล้างหน้าให้สะอาด อย่างอ่อนโยน วันละ 2 ครั้ง ทั้งตอนเช้าและตอนกลางคืน ด้วยสบู่ที่อ่อนโยนและมีคุณสมบัติในการรักษาสิว ทั้งนี้ในระหว่างที่เป็นสิวให้หลีกเลี่ยงการขัดผิวหน้าไปก่อน เพราะการขัดผิวจะทำให้ผิวหน้าระคายเคือง และอาจทำให้สิวหายยากหรือเป็นรอยสิวหนักกว่าเดิม ทั้งนี้สำหรับใครที่กำลังมองหาสบู่รักษาสิว ถ้ายังไม่รู้ว่าใช้ตัวไหนดี ลองมาดูคำแนะนำกันได้เลยค่ะ (สบู่รักษาสิว 9 ตัวช่วยสุดเริดของสาวหน้าสิวที่ใช้ดีจนอยากบอกต่อ !)

          2. ทายารักษาสิว ทั้งแบบโลชั่น หรือครีมทาสิวที่มีคุณสมบัติช่วยลดอาการอักเสบ ด้วยการนำมาแต้มหรือทาเป็นประจำทุกครั้งหลังล้างหน้าหรือตอนที่สิวเริ่มขึ้น เพื่อช่วยบรรเทาอาการสิวให้ทุเลาลง ทั้งนี้ถ้าอยากรู้ว่า ครีมรักษาสิว ยี่ห้อไหนดี ลองคลิกไปดูกันเลย... (10 ครีมรักษาสิวยอดนิยมของคุณสาว ๆ)

          3. รับประทานยาที่มีส่วนช่วยปรับระดับฮอร์โมนให้อยู่ในภาวะที่เป็นปกติและมีความสมดุล รวมถึงยาปฏิชีวนะ ยาในกลุ่มวิตามินเอ หรือยาแก้อักเสบที่ช่วยฆ่าเชื้อสิวและบรรเทาอาการอักเสบสิวให้ยุบลงได้อย่างรวดเร็ว แต่อย่างไรก็ดียาปฏิชีวนะ และยาในกลุ่มวิตามินเอ อาจส่งผลต่อตับ ไต และอาจส่งผลต่อการตั้งครรภ์ได้ ดังนั้นการรับประทานยาประเภทนี้ควรอยู่ในการดูแลและควบคุมโดยแพทย์ หากคิดจะรับประทานยาควรปรึกษาแพทย์เสียก่อน

          4. ใช้เลเซอร์รักษาสิว และทำทรีตเมนต์สำหรับคนเป็นสิว โดยทำเป็นประจำสัปดาห์ละ 1-2 ครั้งหรือตามคำแนะนำของแพทย์ เพื่อลดอาการหน้ามัน ลดอาการอักเสบของสิว รวมถึงช่วยให้รอยแดงสิวลดลงได้

          5. ปรับเปลี่ยนการรับประทานและการดูแลตนเองให้มากขึ้น โดยการหันมารับประทานผักและผลไม้สด ๆ ที่มีกากใยและช่วยชะล้างสารพิษตกค้าง ทั้งยังช่วยเพิ่มฮอร์โมนเอสโตรเจนที่ส่งผลดีต่อผิวพรรณ หลีกเลี่ยงอาหารไขมันสูง อาหารที่อาจมีฮอร์โมนปะปน เช่น นมวัว เนื้อสัตว์ นอกจากนี้ควรใส่ใจเรื่องการออกกำลังกาย และการลดน้ำหนักให้อยู่ในเกณฑ์ที่เหมาะสม เพื่อช่วยปรับฮอร์โมนให้กลับมาสมดุลและเข้าสู่ภาวะปกติ

วิธีรักษาสิว

          6. ชาเขียว รักษาสิวฮอร์โมนได้ รู้ไหมว่า ชาเขียว มีคุณสมบัติช่วยรับมือกับผิวมันและต่อสู้กับสิวได้ เพราะชาเขียวสามารถยับยั้งเอนไซม์ที่ไปกระตุ้นต่อมไขมันผลิตซีบัมได้ดี ซึ่งวิธีก็คือให้ใช้น้ำชาเขียวทาบริเวณหัวสิว ทิ้งไว้ประมาณ 10-20 นาทีแล้วล้างออก หากทำเป็นประจำทุกวัน สิวจะยุบตัวลงได้เร็ว และยังช่วยป้องกันการเกิดสิวใหม่ได้อีกด้วย

          เมื่อเข้าใจสาเหตุและวิธีรักษาสิวฮอร์โมนกันไปแล้ว คราวนี้ก็ถึงเวลากำราบสิวฮอร์โมนให้อยู่หมัดโดยไม่ต้องมานั่งปวดใจกับสิวเห่อ ๆ ก่อนมีรอบเดือนอีกต่อไปแล้วล่ะค่ะ ที่สำคัญอย่าลืมพักผ่อนให้เพียงพอและอย่าเครียดมากเกินไปนะคะ เดี๋ยวสิวบุกหนักกว่าเดิมแล้วจะหาว่าไม่เตือน อิอิ


เรื่องที่คุณอาจสนใจ
สิวฮอร์โมน เกิดจากอะไร รักษายังไง บอกเลยไม่ยากอย่างที่คิด ! อัปเดตล่าสุด 29 พฤศจิกายน 2564 เวลา 11:48:02 176,030 อ่าน
TOP