เรียบเรียงข้อมูลโดยกระปุกดอทคอม
ขอขอบคุณภาพประกอบจาก คุณ Annabelle Marianne สมาชิกเว็บไซต์พันทิปดอทคอม
ณเดชน์ ญาญ่า 3 แซบ ตอน 2 ชวนมาฟินกันต่อกับความน่ารักของคู่จิ้นฟินเว่อร์แห่งวงการ แบบว่าชัดเจนสุด ๆ เลยอ่ะ
น่ารักสุด ๆ ไปเลยเนอะกับคู่จิ้นแห่งวงการ ณเดชน์-ญาญ่า ที่เมื่อสัปดาห์ก่อนควงคู่กันมาออกรายการ 3 แซบ ให้แฟนคลับได้กรี๊ดกร๊าดกับความ (แอบ) หวานของคู่นี้ ณเดชน์ ญาญ่า คู่จิ้นแห่งวงการ ฟินกระจายใน 3 แซบ ดูไปเขินไปแต่แหม...คืนนั้นเวลาหมดซะก่อน ยังชมกันไม่เต็มอิ่มเลยอ่ะ ไม่เป็นไร งั้นมาจิ้นกันต่อในรายการ 3 แซบที่ออกอากาศเมื่อคืนวันพุธที่ 5 มีนาคม 2557 เลยจ้า
หลังจากเม้าท์กันอย่างสนุกสนาน ก็มาพูดถึงเรื่องบุญเรื่องกุศลกันบ้างดีกว่า รู้ไหมว่า ณเดชน์ มีแผนจะลาบวชอยู่เหมือนกัน โดยตั้งใจว่าจะบวชช่วงก่อนอายุ 25 ปี พูดมาแบบนี้พิธีกรเลยแซวกลับซะเลยว่า "บวชแล้วจะเบียดเลยหรือเปล่าจ๊ะ" ก็เห็นหนุ่มแบรี่เคยบอกว่าอยากจะแต่งงานสักอายุ 28 นี่นะ หนุ่มแบรี่เลยแจงว่า เคยพูดไว้จริงเพราะเห็นว่าเป็นอายุที่เหมาะสม แต่เอาเข้าจริง ๆ มันก็อาจไม่ใช่อย่างนั้นก็ได้ เห็นมีหลายคนเคยพูดไว้แบบนี้ แต่กว่าจะได้แต่งก็อายุ 35 ปีไปแล้วก็มี
แล้วเห็นว่า ณเดชน์-ญาญ่า เคยพูดว่าอยากทำงานอย่างอื่นนอกเหนือจากการเป็นนักแสดงด้วย ญาญ่าเลยรีบบอกว่า "หนูมีไอเดียเยอะเลยค่ะ" ถ้าตอนนี้ก็อยากเรียนต่อทางจิตวิทยา เพื่อไปเป็นที่ปรึกษาในโรงเรียนหรือตามออฟฟิศ ส่วนณเดชน์อยากเปิดมูลนิธิเล็ก ๆ ช่วยเหลือเด็กในต่างจังหวัด เด็กผู้ยากไร้ ชวนเพื่อน ๆ ไปสร้างโรงเรียนให้น้อง ๆ ก็น่าจะดี
และต้องยอมรับเลยว่าชั่วโมงนี้ทั้งคู่มีชื่อเสียงโด่งดังมาก ๆ แม้ว่าอายุยังน้อยแต่ก็มีภาระรับผิดชอบเยอะไม่ใช่เล่น ณเดชน์ เลยออกปากเลยว่า การเข้ามาในวงการทำให้ชีวิตของเขาเปลี่ยนไปเยอะจริง ๆ ที่เห็นชัดเลยก็คือเป็นผู้ใหญ่มากขึ้น และมีสิ่งดี ๆ เข้ามารอบตัวเรามากขึ้น ส่วนหนึ่งที่ทำให้เขามีวันนี้ได้ก็คือครอบครัว และกำลังใจจากแฟน ๆ บวกกับตัวเขาเป็นคนง่าย ๆ สบาย ๆ ไม่คิดอะไรเลย อุปสรรคที่เข้ามาก็เลยผ่านไปเร็ว เพราะเขาไม่ใส่ใจกับเรื่องที่ไม่เกิดประโยชน์
ฟาก ญาญ่า ก็บอกเหมือนกันว่า ชีวิตเธอเปลี่ยนไปตรงที่ความคิดเป็นผู้ใหญ่มากขึ้น ได้รู้ว่าความรับผิดชอบคืออะไร และยังได้เปิดหูเปิดตาเห็นสิ่งใหม่ ๆ ในโลกนี้ที่คนอายุเท่านี้อาจจะยังไม่ได้เห็นด้วย
ว่าแล้วพิธีกรเลยชงซะเลยว่า "แล้วชีวิตเปลี่ยนไปไหมเมื่อมีณเดชน์เข้ามา ? " คำถามนี้ทำเอาญาญ่าเขินเลย ก่อนจะบอกว่า "เปลี่ยนไปค่ะ เพราะในโลกนี้ไม่มีใครเหมือนผู้ชายคนนี้อีกแล้วค่ะ" (ตอบให้แฟนคลับฟินซะด้วย อิอิ) ก่อนจะรีบอธิบายว่า "เป็นเพราะนิสัยของพี่เค้าค่ะ นาน ๆ ที่จะเจอคนที่จริงใจขนาดนี้" ว้าว !
คำตอบนี้ทำเอาณเดชน์หน้าแดงเลยนะ ณเดชน์ เลยรีบออกตัวว่า "ก็รู้สึกดีที่เจอน้องเหมือนกัน เพราะเป็นคนนิสัยดี น่ารัก สนุกสนานเฮฮา และมีมารยาทดีมาก เป็นน้องคนหนึ่งที่น่ารักมาก ๆ เวลาเห็นน้องยิ้มก็มีความสุขด้วยครับ" ตอบแบบนี้แฟนคลับก็กรี๊ดสิจ๊ะ
เห็นน่ารักกันขนาดนี้ หลายคนคงอยากรู้แล้วเนอะว่าแล้วจริง ๆ ความสัมพันธ์ของคนทั้งคู่ขีดเส้นอยู่ตรงไหนกันแน่ ญาญ่า ขอตอบก่อนเลยว่า "สำหรับหนูได้เจอพี่ณเดชน์เยอะที่สุด เจอแทบทุกวัน ขนาดเพื่อนหนูยังแทบไม่ได้เจอเลย ถ้า ณ จุดนี้ ไม่มีใครที่หนูสนิทมากกว่าพี่เค้าแล้ว สนิทที่สุดแล้ว"
คำตอบนี้ทำให้ ณเดชน์ พยักหน้าเหมือนกัน ก่อนจะชี้แจงว่า รู้สึกดีกับน้อง แต่ถ้าจะถามถึงสถานภาพจริง ๆ ก็ยังไม่ถึงที่เรียกว่าแฟน ส่วนญาญ่าก็บอกว่า เราสองคนไม่มีเส้นที่จะบอกว่าเป็นแฟน เพราะเราไม่ได้คิดเรื่องนี้
"คือทั้งชีวิตของหนูก็จะมีครอบครัว เพื่อนที่มหาวิทยาลัย แต่เพื่อนก็ไม่ได้สนิทเท่ากับที่คนที่เราทำงานด้วยกันทุกวัน อย่าง คิม พี่หมาก พี่ณเดชน์ หนูชอบตรงที่ไม่ว่าเราไม่ได้เจอหน้ากันนานแค่ไหน แต่ถ้าได้เจอกันเราก็ยังเหมือนเดิม เราเลยไม่มีเส้น เพราะเป็นกลุ่มที่ติดกัน" ก่อนจะหันไปถามพี่ชายว่า "ไม่มีเส้นเนอะ"
ณเดชน์ เลยรีบพยักหน้ารับ "ใช่ครับ ไม่มีเส้น" แต่ก็มิวายถูกพิธีกรถามกลับว่า "แล้วคุณล่ะล้ำเส้นบ่อยไหม" ณเดชน์แอบเขินก่อนตอบว่า "ไม่ล้ำครับ เพราะไม่มีเส้นไง คือที่เป็นอยู่ทุกวันนี้ก็ดีแล้ว" (แหม...แต่คนตอบนี่หน้าแดงจริงอะไรจริง ^^)
งานนี้ พิธีกรเลยงัดคำถามของแฟนคลับมาอ่านถามกันสด ๆ ซะเลยว่า "เมื่อไรพี่จะเปิดตัวกันคะ" ณเดชน์เลยรีบแจงว่า "ก็ไม่ได้มีอะไรปิดบังนะ นี่ยังไม่ชัดเจนอีกเหรอครับ" (กรี๊ดกระจายอีกรอบ)
ต่อด้วยคำถามที่ว่า "แหวนที่น้องญาญ่าใส่ ใครให้เหรอคะ" เพราะเห็นญาญ่าชอบใส่แหวนวงหนึ่งที่นิ้วนางข้างซ้าย ญาญ่าก็เคลียร์ให้ฟังว่า ทางครอบครัวของเธอไม่ได้ถือว่านิ้วนางซ้ายเป็นนิ้วที่ใช้สวมแหวนแต่งงาน แต่จะสวมแหวนที่นิ้วนางข้างขวา เพราะฉะนั้น เธอถึงใส่แหวนมือซ้าย ทุกคนในครอบครัวก็จะเป็นอย่างนี้ ส่วนที่ว่าใครให้แหวนนั้น จริง ๆ เป็นแหวนของเธอเอง ชอบดีไซน์สวยดี แต่ที่ใส่นิ้วนางก็เพราะเธอใส่นิ้วอื่นไม่ได้ แค่นั้นเองล่ะ
อีกหนึ่งคำถาม "ณเดชน์จะแต่งงานเมื่อไร ชอบลูกครึ่งใช่ไหม" เจ้าตัวพยักหน้าว่า ใช่ครับ ชอบลูกครึ่ง "แล้วถ้าพี่ณเดชน์ติดเกาะกับญาญ่าสองคนโดยไม่มีมือถือ พวกพี่จะทำอะไรกัน" ณเดชน์เลยบอกว่าโชคดีเคยเล่นละครเกมร้ายเกมรัก เลยรู้วิธีเอาตัวรอดเวลาติดเกาะ เขาก็จะใช้ให้น้องไปเก็บมะพร้าว ส่วนตัวเองจะลงไปหาปลา
ว่าแล้วก็ให้สองคนนี้แซวกันหน่อยดีกว่า เพราะคู่นี้เขามีนิสัยบางอย่างที่ตรงข้ามกัน อย่าง ญาญ่า จะออกทโมน ๆ หน่อย พี่ณเดชน์เลยแซวว่าเวลาน้องเดินจะเดินขาแบะ ๆ กร่าง ๆ เหมือนผู้ชาย ญาญ่าเลยแซวพี่กลับว่า พี่ณเดชน์เป็นคนที่มีความเป็นผู้หญิงสูงอยู่เหมือนกัน เพราะแต่งหน้าทำผมเป็น ถักนิตติ้งเป็น แล้วเวลาเดินก็จะชอบเดินก้นเด้ง ๆ เพราะเป็นคนที่มีก้นงอนมาก ก่อนจะลุกขึ้นสาธิตให้ดู เล่นเอาฮาทั้งห้องส่งเลย
ณเดชน์ เลยเล่าให้ฟังว่าที่มีนิสัยแบบนี้ เพราะครอบครัวมีแต่ผู้หญิงหมด อยู่กับผู้หญิงเยอะก็เลยเข้าใจผู้หญิง ที่แต่งหน้าทำผมได้ก็เรียนมาจากพี่ ๆ ช่างแต่งหน้านี่เอง แต่ถ้าไม่เชื่อก็ขอโชว์ฝีมือการแต่งหน้าทำผมน้องสาวให้ดูซะเลย เอ...แต่ไหง ทำไปทำมาเหมือนจะแกล้งน้องมากกว่าเปล่าเนี่ย ละเลงซะสนุกไปเลย 555
งานนี้ รายการเลยให้ญาญ่าเอาคืนพี่ชายด้วยดีกว่า (ชอบแกล้งน้องดีนัก) ญาญ่าเลยหยิบอายไลน์เนอร์ที่พกมาจากบ้านมาละเลงซะจัดเต็ม (แต่สีหน้าดูเคียดแค้นมาก ๆ 555) สนุกสนานกันทั้งพี่ทั้งน้อง น่ารักสุด ๆ
ก่อนจะจบรายการ พิธีกรขอยิงอีกหนึ่งคำถามว่า เห็นทั้งคู่สนิทกันมากขนาดนี้ ถ้าเกิดวันใดวันหนึ่งใครอีกคนมีแฟนจะเป็นอย่างไร ณเดชน์ เลยบอกว่า "ก็คงสนิทกันไปแบบนี้เรื่อย ๆ ล่ะครับ"
ถ้าถามถึงความประทับใจที่ได้รู้จักกัน ญาญ่า บอกว่า ตั้งแต่รู้จักพี่ณเดชน์เมื่อ 5 ปีแล้ว วันนี้เขาก็ยังมีอัธยาศัยดีเหมือนเดิม เป็นจุดที่ประทับใจมาก ๆ ไม่มีคนอื่นแบบนี้แล้วในโลก ส่วน ณเดชน์ ก็รู้สึกประทับใจน้องที่เป็นผู้หญิงจิตใจดี เป็นคนที่คุยด้วยง่าย ไม่มีอีโก้ พร้อมตบท้ายด้วยประโยคเด็ดว่า "ถ้าเจอผู้หญิงแบบนี้ก็น่าจะเป็นความโชคดีของผู้ชายคนหนึ่งแล้วล่ะ" พิธีกรเลยชงกลับซะเลยว่าอยากจะเป็นผู้ชายที่โชคดีคนนั้นไหมล่ะ ณเดชน์เลยตอบเอาใจแฟนคลับสุด ๆ ว่า "ถ้าเป็นผู้ชายคนนั้นก็ดีครับผม"
แหม...ปิดท้ายรายการก็ยังไม่เลิกหวานนะเนี่ย แล้วแบบนี้จะไม่ให้แฟนคลับฟินจนยิ้มแก้มปริเก็บไปฝันหวานได้อย่างไรล่ะเนี่ย ยอมรับเลยล่ะว่าคู่นี้เขาน่ารักจริง ๆ นะ