สุขภาพช่วงนี้เป็นยังไง สบายดีไหม ?
เสก : ก็ยังทรง ๆ อยู่นะครับ ผมเป็นโรคไบโพลาร์แล้วก็เป็นซึมเศร้าด้วย
ที่บอกว่าอาการทรง ๆ คือตอนนี้หลับได้ปกติ ทุกอย่างปกติ ?
เสก : ต้องกินยาตลอดครับ
มีโอกาสที่เราจะหยุดยาได้ไหม ?
เสก : ทานยาไปตลอดครับ จนกว่าหมอจะสั่งให้หยุด ซึ่งชีวิตปกติ ไปเล่นคอนเสิร์ตสบายครับ
อยากบอกอะไรแฟน ๆ ที่เป็นห่วงเรื่องสุขภาพไหม ?
เสก : ก็ต้องขอบคุณทุกท่านที่เป็นห่วงกันนะครับ ขอให้ทุกคนรู้ว่าผมก็เป็นห่วงแฟน ๆ เหมือนกัน ขอบคุณที่เป็นห่วงและรักกันตลอดมา
เรื่องความรัก พี่กานต์กับพี่เสกคบกันมานานมากตั้งแต่พี่อายุ 17 ปี ?
เสก : ใช่ครับ ความรักของผมกับกานต์มันเหมือนนิยาย แต่งกัน 3 ครั้งแล้วนะ หย่าไป 2 ครั้ง ก็เป็นเรื่องตลกดี ทำให้รู้ว่ากานต์เป็นคนที่รักเรามากที่สุด เราก็รักเขามากที่สุด คนนี้คงเป็นคนสุดท้ายของเรา
กี่ปีแล้วถ้ารวมทั้งหมดที่คบกันมา ตั้งแต่อายุ 17 ปี ?
เสก : 20 กว่าปีแล้วครับ
เจอพี่กานต์ครั้งแรกได้ยังไง ?
เสก : ผมเล่นดนตรีอยู่ในผับ กานต์เขาไปเที่ยว ก็เจอกันที่ผับ เป็นร้านอาหารกึ่งผับ กานต์เขาไปกินข้าวแล้วเจอกัน
ใครปิ๊งใครก่อน ?
เสก : ผมนี่แหละ ตอนนั้นใช้โทรศัพท์บ้านโทร. คุยกัน
มีแต่งเพลงจีบไหม ?
เสก : เพลงของกานต์เยอะมาก เพลงขอตายในอ้อมกอดเธอ เพลงไม่ยอมตัดใจ อะไรอย่างนี้
ที่ผ่านมาเจอมรสุมต่าง ๆ พี่กานต์ก็อยู่ข้าง ๆ พี่เสก ?
เสก : ใช่ครับ เขาอยู่เคียงข้างผมเสมอมา
พี่รู้สึกยังไงบ้าง ?
เสก : ก็รู้สึกดีนะครับ มีคนคนหนึ่งเป็นห่วงเป็นใยเรามาก ไม่ว่าจะไปไหน นี่ถ้าเขาสบายดีเขาคงมา แต่บังเอิญเมื่อวานเขาไปดูดไขมันมา อายุเยอะ ไขมันเริ่มเยอะ เขาเจ็บก็เลยไม่ได้มา
พี่เจอผู้หญิงมากมาย ทำไมถึงเลือกพี่กานต์ ?
เสก : ผมว่ามันเป็นบุพเพสันนิวาสให้มันเป็นแบบนี้ ผมมีเรื่องมีราวอยู่ตลอด ผมต้องเจอคนเยอะ เล่นคอนเสิร์ตไปก็หวั่นไหวไป แต่พอเรากลับมามองก็มีกานต์นี่แหละที่เราจะอยู่ด้วยกันตลอดไป
และอะไรที่ทำให้เราคิดได้ว่าคนนี้คือคนที่จะต้องอยู่ด้วย ?
เสก : ด้วยความรักของเราสองคนด้วย อยู่คนเดียวก็เหงา มาอยู่ด้วยกันดีกว่า
การที่เราเคยคบกัน แล้วห่างหายกันไป แล้วกลับมาคบกันใหม่ ความรู้สึกเหมือนเพลง 14 อีกครั้งไหม ?
เสก : เขามาดูแลพี่มากกว่า มาดูแล เห็นพี่ไม่สบาย เขาก็เป็นห่วงเป็นใยเรา อันนี้แหละที่ทำให้กลับมาแล้วรู้สึกว่ามีคนดูแลเราอยู่
กลับมามีความโรแมนติกเหมือนวัยรุ่นไหม ?
เสก : เหมือนเดิมครับ หวานเหมือนเดิม กานต์เขาเป็นคนน่ารัก เขาเป็นสายโรแมนติกด้วย เห็นเขาชอบวีน แต่จริง ๆ แล้วเขาเป็นคนโรแมนติก วันเกิด วันอะไร ชอบให้ดอกไม้ บางทีเอาพวงมาลัยมาไหว้เรา
เวลาได้พวงมาลัยรู้สึกยังไงบ้าง ?
เสก : ก็แปลกดีนะ เหมือนเขาเป็นเด็กแล้วมาไหว้เรา เราเป็นผู้ใหญ่ เขาคงแบบไหว้สามีบ้าง ก็แปลกดี แต่ก็โรแมนติกดี
พี่เสกเป็นคนโรแมนติกกับภรรยาไหม ?
เสก : ใช่ครับ วันเกิด วันอะไร ก็ซื้อดอกไม้ให้เขา ดอกกุหลาบช่อใหญ่ ๆ เขาชอบดอกกุหลาบ
เห็นบอกว่าทั้งคู่เป็นคนโรแมนติก ทุกเทศกาลจะมีดอกไม้ให้กันเสมอ ?
เสก : ใช่ครับ
วันไม่พิเศษก็แอบให้กันอยู่เรื่อย ๆ ?
เสก : ใช่ครับ
พี่เสกมีความอ้อนหรือมีเสียงสองไหม ?
เสก : ไม่มีครับ มีเสียงเดียว
ในการแต่งงานรอบนี้มีคำมั่นสัญญาอะไรไหม ?
เสก : คงจะอยู่กันไปตลอดชีวิต เพราะจดทะเบียนกัน 3 ครั้งแล้ว แล้วก็เราคิดว่าเราไม่ไปไหนแล้ว ก็คงเหมือนเพลง ขอตายในอ้อมกอดเธอ
ทำไมครั้งนี้ถึงทำให้รู้สึกว่าจะเป็นการแต่งงานครั้งสุดท้ายแล้ว ?
เสก : ต่างคนก็ต่างมีอายุเยอะแล้ว นี่จะ 50 กันแล้ว ก็คงหมดแรงที่จะไปดื้อหรือไปซนที่ไหนแล้ว เราอยู่กันด้วยความเข้าใจ คนเริ่มมีอายุแล้ว
ช่วงนี้จิตใจแข็งแรง ไม่อ่อนไหวง่าย ๆ แน่ ?
เสก : ไม่มีครับ
บรรยากาศในงานแต่งวันนั้นเป็นยังไงบ้าง ?
เสก : ก็สวยดี มีเพื่อนชื่ออั๋นเป็นคนเซตทุกอย่าง ทำทุกอย่าง แล้วก็มีแขกเฉพาะคนสนิทจริง ๆ
แสดงว่าก่อนหน้านั้นที่เราคบกันตอนสมัยวัยรุ่น เราไม่ได้จัดงานแต่งแบบนี้ ?
เสก : ไม่ได้จัดงานแบบนี้ครับ ตอนแต่งงานครั้งแรก ตอนนั้นอยู่ในยุคที่ถ้าคุณเป็นดารา นักร้อง ไม่ค่อยเปิดเผย ต้องปิดข่าว ตอนแรกก็แต่งกันเงียบ ๆ มาครั้งที่ 3 นี่แหละที่มีเลี้ยง มีอะไรกัน
สมัยก่อนที่ไม่กล้าบอกสื่อ ปิดอยู่นานไหม ?
เสก : นาน สงสารลูกมากเลย เวลาลูกจะออกไปไหนกับพ่อก็ต้องออกไปกับแม่เขาส่วนใหญ่ ผมไปด้วยก็ไปแบบแป๊บเดียว เดินห้างอะไรอย่างนี้ ตอนนั้นก็มีชื่อเสียงอยู่ ก็ต้องปิดบังเขา เด็ก ๆ ก็ไม่ค่อยแฮปปี้เท่าไหร่
ได้จัดงานแต่งอีกครั้งวันนั้นตื่นเต้นไหม ในวัยนี้ ?
เสก : จะว่าตื่นเต้นหรือเปล่าคงไม่ตื่นเต้น เพราะว่าแต่งกัน 3 รอบ แต่รอบที่ 3 ค่อนข้างจัดงานแบบเป็นงานเป็นการ ก็ไม่ค่อยตื่นเต้น
ครบรอบแต่งงาน 1 ปีหรือยัง ?
เสก : 1 ปีแล้วครับ ก็ยังคงรักกันเหมือนเดิม
ครบรอบแต่งงานพี่เสกได้โพสต์ภาพคู่กับพี่กานต์ พร้อมแคปชั่นว่า รักเธอตลอดไป ?
เสก : ตอนนั้นรู้สึกมีโมเมนต์โรแมนติก มันเป็นโมเมนต์ที่เป็นแบบนั้นจริง ๆ รักเขาตลอดไป
พี่กานต์นอกจากโรแมนติกแล้ว ยังเป็นสายเปย์อีกด้วย ?
เสก : ล่าสุดซื้อรถให้คันหนึ่ง BMW Series7 ซื้อมาทำไมก็ไม่รู้ ผมก็ไม่ค่อยอยากได้ เพราะไม่ค่อยได้ไปไหน แต่เขาซื้อมาก็ขอบคุณเขามาก
วันนั้นเขาเซอร์ไพรส์ยังไง ?
เสก : กานต์เขาเป็นเจ้าแม่เรื่องการจัดการ เขาแค่โทร. ไปที่ศูนย์รถ แล้วให้เอารถมาดู ผมก็บอกว่าไม่ต้องซื้อหรอก ซื้อทำไม แก่แล้วขับอะไรก็ได้ เขาก็ซื้อให้
แล้วพี่เสกเปย์อะไรให้พี่กานต์บ้าง ?
เสก : เมื่อก่อนผมซื้อของให้เขาเยอะเหมือนกัน ซื้อแหวน ซื้อสร้อย แต่ว่าผมไม่ใช่สายเปย์นะ
ทำไมคู่นี้ชอบซื้อดอกกุหลาบให้กัน ?
เสก : ผมว่าดอกกุหลาบเป็นตัวแทนความรัก โรแมนติกด้วย ส่วนใหญ่จะเป็นสีแดง มันจะบอกถึงความรักที่ร้อนแรง และสีขาว เป็นความรักที่บริสุทธิ์
พี่คิดว่าภาษากายก็สำคัญสำหรับการใช้ชีวิตคู่ ?
เสก : ใช่ครับ
พี่เสกรักอะไรในตัวพี่กานต์ ?
เสก : กานต์เขาเป็นคนจริงใจ จริงจังกับความสัมพันธ์กับแต่ละคน เวลาเขาโกรธเขาก็ด่าเลย เวลาเขาโรแมนติดเขาก็มาให้กอด เรารู้สึกว่าคนนี้เป็นคนจริงใจ ขาลุย
ตอนที่ตัดสินใจกลับมาอยู่ด้วยกัน แต่งงานกัน ลูก ๆ ว่ายังไงบ้าง ?
เสก : ลูก ๆ ก็ดีใจด้วยครับ เพราะว่าหย่ากันไป 5-6 ปีมั้ง พอกลับมาอยู่ด้วยกันรู้สึกว่าเราเป็นครอบครัวแล้ว ต่อไปจะไม่แยกจากกันแล้ว เสือเขาก็ดีใจ เขาเพิ่งเรียนจบมา เขาเป็นคนจัดงานแต่งให้ผมนะ เสือเป็นคนออกแบบ ดีไซน์ร่วมกับพี่อั๋น เสือดีใจมากที่พ่อกับแม่กลับมาอยู่ด้วยกันอีก
ถ้าพี่กานต์ดูอยู่ อยากบอกอะไรกับพี่กานต์ ?
เสก : ผมจะรักเขาตลอดไป
พี่กานต์ฝากจดหมายมาด้วย ?
กานต์ : อยากให้เธอรู้ว่ากานต์รักและภักดีต่อเธอตลอดไป แม้ว่าในวันหนึ่งกานต์ต้องไปหรือไม่มีกานต์แล้ว กานต์ขอให้เธออยู่ให้ได้ เพื่อเป็นเสาหลักให้ลูก ๆ อยู่คนเดียวให้ได้ กานต์ไม่ขอเป็นคิงหรือควีนที่นั่งสบายอยู่บนบัลลังก์ แต่ขอเป็นอัศวินที่กล้าหาญอยู่ในสมรภูมิรบเพื่อปกป้องเธอและลูก ๆ ตลอดไป
รู้สึกยังไงบ้าง ?
เสก : ซาบซึ้งมาก กานต์เขาเป็นคนแบบนี้เลย เขาไฟต์ตลอดเพื่อให้ลูกกับสามีสบาย เขาลำบากไม่เป็นไร
รู้สึกยังไงบ้าง ทุกอย่างที่ผ่านมาเขาทำเพื่อเราตลอดเลย ?
เสก : ก็รู้ตั้งแต่เริ่มต้นแล้ว ถ้าผมไม่ไปซุกซนที่ไหนก็คงอยู่กันด้วยดีมาตลอด ผมเป็นคนที่ซุกซนเอง ทำให้เรื่องต่าง ๆ มันเกิดขึ้น แต่เขาจะคอยดูแล คอยเป็นห่วงเป็นใยเรา
เคยคิดไหมว่าชีวิตหนึ่งเราจะเจอผู้หญิงที่รักเราขนาดนี้ ?
เสก : ไม่เคยนะ ผมไม่เคยเห็นใครรักผมมากขนาดนี้ กานต์เขารักผมมาก รักมากที่สุด เป็นคนที่เราไว้ใจ คนที่เราจะคุยได้ทุกเรื่อง เป็นคนที่เราจะร้องห่มร้องไห้ด้วยกัน แล้วเป็นคนที่จะกอดแล้วมีความสุขด้วยกัน
พี่เสกเป็นคุณพ่อแบบไหน ?
เสก : ผมเป็นคนไม่ดุเลย ให้ลูก ๆ ใช้ชีวิตอย่างปกตินั่นแหละ ตั้งแต่เป็นพ่อมาตีไม่กี่ครั้งหรอก รู้สึกพอตีลูกเสร็จแล้วเรากลับมาเสียใจ ทำไมต้องไปตีเขา
พี่กานต์เขาจะดุกว่า ?
เสก : กานต์เขาจะดุกว่า เขาจะดูแลลูกแบบดุ ๆ มากกว่า ลูกจะกลัวแม่กว่ากลัวพ่อ
ลูก 3 คน นิสัยแตกต่างกันยังไง ?
เสก : ไม่ค่อยแตกต่างนะ เขาจะเงียบ ๆ อยู่ใครอยู่มัน แล้วก็ไปเที่ยวด้วยกันบ้าง อย่างพี่เสือเขาห่างจากพี่กวางไม่เท่าไหร่เขาก็ไปเที่ยวด้วยกันได้ แต่ลอนดอนเขาไม่ค่อยไปเที่ยวกับใคร เขายังเด็กอยู่
พี่เสกหวงลูกไหม ?
เสก : ห่วงและหวงมากครับทั้ง 3 คนเลย ส่วนเรื่องแฟนเราปล่อยเลย เสือเขามีแฟนแล้ว ปล่อยให้เขาใช้ชีวิตตามปกติ ไม่ได้ไปห้ามอะไรเขาเลย แต่เป็นห่วงเวลาเขาออกไปข้างนอก ต้องบอกให้เขาขับรถดี ๆ นะ เดี๋ยวเกิดอุบัติเหตุอะไรขึ้นมา ถ้าดื่มก็ห้ามขับ
ก่อนหน้านี้เราออกคอนเสิร์ตทุกวัน เราบอกลูกหรือแบ่งเวลาให้ลูกยังไง ?
เสก : ช่วงที่มีคอนเสิร์ตเยอะ ๆ คือช่วงที่เขากำลังเป็นวัยรุ่น ก็ให้กานต์เป็นคนดูแลแทน แต่ถ้าไปเล่นต่างประเทศก็ไปด้วยกันหมดเลย
ตอนอยู่เมืองไทย คอนเสิร์ตพี่วันหนึ่ง 2-3 ที่ ตอนนั้นเด็ก ๆ เข้าใจไหม ?
เสก : เวลาไม่อยู่บ้านกานต์เขาก็ดูแล เด็ก ๆ เข้าใจดี
น้องกวางชอบวาดรูป น้องเสือล่ะ ?
เสก : เสือเขาโตแล้ว ตอนนี้มีทำเพลงกับเพื่อน ๆ เป็นเพลงแรป คนละแนวกับผม
คุณพ่อได้ไปแจมไหม ?
เสก : ผมไปแจมมาด้วย ผมไปเล่นกีตาร์ให้เขา ตอนนี้ฟังในยูทูบได้แล้วครับ ชื่อเพลง ทรงเอ
พอลูกออกผลงานของตัวเอง พี่มีกังวลเรื่องอะไรไหม ?
เสก : ใจลึก ๆ ก็กลัวเขาจะกดดันนะ เพราะว่าผลงานของเราที่ทำไว้มันค่อนข้างดี ก็เป็นห่วงเขา สมมติเพลงเขาโด่งดังคงจะดีใจแทนเขาด้วย ถ้าเพลงนี้ยังไม่ดังก็ค่อย ๆ ทำไปเรื่อย ๆ เดี๋ยวก็มีเพลงดังสักเพลง
คุณพ่อเหมือนเป็นคนใจดี แต่คนที่จะเข้ามาในครอบครัวอาจจะมีกังวลและเกร็งเหมือนกัน อย่างเช่นสาว ๆ ที่จะเข้ามาเจอคุณพ่อ เขามีความเกร็งหรือเกรงใจไหม ?
เสก : เขาเข้ามาก็รู้สึกอบอุ่นนะ อย่างเสือมีแฟนแล้ว เวลาแฟนมาก็รู้สึกธรรมดา บ้านเราเป็นบ้านแบบเสรี ใช้ชีวิตง่าย ๆ
แฟนน้องเสือคนนี้ได้เจอแล้วเป็นยังไง ?
เสก : น้องเขาน่ารักดี ก็ไฟเขียว อยากให้เขารักกันตลอดไป
ตอนนี้คลายล็อกแล้ว งานคอนเสิร์ตกลับมาหรือยัง ?
เสก : งานเริ่มกลับมาเยอะแล้ว แต่เขายังไม่มั่นใจว่าเขาจะเปิดได้หรือเปล่า ก็มีติดต่อมาเยอะ มีค้างไว้ก่อน ยังไม่ได้ทำสัญญา ไม่ได้ทำอะไรกัน
พี่ไม่ได้ขึ้นคอนเสิร์ตมานานขนาดไหนแล้ว ?
เสก : นานแล้ว เกือบ 2 ปีที่ไม่ได้เล่นคอนเสิร์ต เหงามาก อยากออกมาเล่นคอนเสิร์ต
วงโลโซตอนนั้นมีด้วยกันกี่คนเริ่มต้น ?
เสก : มี 3 คนครับ ออริจินัล มีพี่เสก พี่ใหญ่ พี่รัฐ พอ 2 ชุดแรกพี่รัฐเขาก็ออกไป ก็มีคนใหม่ พี่กลาง เขามาเล่นแทน
เพลงประสบความสำเร็จตั้งแต่อัลบั้มแรกเลย ?
เสก : ครับ เพลงที่ดังสุดในอัลบั้มแรก คือ ไม่ต้องห่วงฉัน
แล้วทำไมตอนนั้นถึงยุบวง ?
เสก : คนเราเวลาอยู่ด้วยกันนาน ๆ มันมีอีโก้ของตัวเอง ไม่ได้ทะเลาะกันเรื่องอะไรเลย มีปัญหาเรื่องอีโก้ แล้วก็ตอนนั้นพอโด่งดังเสร็จแล้ว ใครก็คิดว่าตัวเองดัง ก็เลยแยกกันไปก่อนดีกว่า แยกกันไป 20 ปี ถึงกลับมารวมกัน
ก่อนจะกลับมารวมกัน ต่างคนต่างแยกไปทำอะไร ?
เสก : ใหญ่ก็ยังเล่นดนตรีอยู่ กลางก็ยังเล่นดนตรี ผมก็ยังทำเพลงของผม
จุดเริ่มต้นของการกลับมารวมตัวในครั้งนี้คืออะไร ?
เสก : คงเป็นความคิดถึงเพื่อนนะครับ มีเพลงหนึ่งชื่อเพลง เราและนาย เป็นเพลงที่บอกได้ดีว่าเราจะเป็นเพื่อนกันตลอดไป ตอนนั้นอาจจะเข้าใจกันผิดนิด ๆ หน่อย ๆ แต่พอกลับมารวมกัน รู้สึกมีพลังมากขึ้น
การกลับมารวมตัวในครั้งนี้พิเศษยังไง ?
เสก : ก็คงเป็นเพื่อนที่กลับมารักกันเหมือนเดิม เมื่อวานไปบันทึกเทปรายการมา และเป็นครั้งแรกที่เล่นด้วยกัน ทั้งตื่นเต้นอะไรด้วย เล่นหลุดกันไปหลุดกันมาเหมือนกัน แต่ก็สนุกดี มันบอกถึงการรักเพื่อนที่ห่างหายไปนาน แล้วกลับมารักยิ่งกว่าเดิม
วงโลโซ จะมีเพลงใหม่ให้ได้ฟังกันไหม ?
เสก : ตอนนี้คิดจะแต่งเพลงใหม่อยู่เหมือนกัน ผมไม่ได้เขียนเพลงมา 2 ปีแล้ว เดี๋ยวหาคอนเซ็ปต์ก่อนจะแต่งให้ฟัง
ติดตามชมคำสัมภาษณ์แบบเต็ม ๆ ได้ในรายการ คุยแซ่บShow ทุกวันจันทร์-ศุกร์ เวลา 13.05-14.05 น. ทางช่อง one31 Facebook Page : คุยแซ่บShow รับชมย้อนหลังได้ที่ YouTube Channel : Orange Mama