วันที่ 17 กันยายน 2565 มาดามกุ๊งกิ๊ง เจ้าแม่ขาเมาท์จากเดลินิวส์ออนไลน์ เผยข่าวเมาท์ดาราสาวรายหนึ่ง ที่ก่อนจะแต่งงานนิสัยดีไม่เรื่องมาก แต่หลังจากแต่งงานกับคนรวยก็นิสัยเปลี่ยนไป หน้ามือเป็นหลังมือเลยทีเดียว โดยเล่าว่า มีดาราสาวคนหนึ่งซึ่งแต่งงานแล้ว เธอเป็นดารามานานและมีผลงานการแสดงมากมาย ทางด้านสามีเป็นคนรวยมีฐานะ พูดจาดี เป็นผู้ชายสุภาพ
โดยก่อนแต่งงาน ดาราสาวพยายามทำลุคสวย ๆ เอาไว้ เพื่อให้เหมาะสมกับตระกูลของสามี และก็ได้แต่งงานกัน ทั้งคู่เป็นคู่รักที่ดูน่ารักมาก
ต่อมามีชายคนหนึ่งที่คร่ำหวอดในวงการบันเทิงพอสมควร ก่อนหน้านี้ก็เคยร่วมงานกับดาราสาว แต่ล่าสุดเมื่อได้ร่วมงานกับดาราสาวอีกครั้งก็ทนไม่ไหว เผลอเล่าให้มาดามกุ๊งกิ๊งฟังระหว่างไปดื่มกันว่า…
ดาราคนนี้เป็นคนเก่งเลย มุ่งมั่นตั้งใจทำงานตัวเป็นเกลียว ไม่มีบ่นสักคำ เป็นคนหวาน ๆ สุภาพ ๆ หน่อย แต่บางมุมก็ห้าวนิด ๆ ย้อนไปก่อนแต่งงาน เป็นคนไม่ถือตัวเท่าไร คนเล่นคนแซวก็ได้หมดและไม่ต้องดูแลอะไรมาก เธอก็ถ่ายละครได้ แต่เมื่อแต่งงานกับคนรวยไปแล้ว ไม่รู้ว่าลมอะไรหรือโดนใครเข้าสิง นิสัยถึงได้รวยขึ้นผิดหูผิดตา
เริ่มตั้งแต่การถามนักแสดงด้วยกันว่าแบรนด์เนมนี้เคยซื้อไหม ถามว่าเคยมีไหม คำพูดลักษณะดูเหยียดเลย นอกจากนี้ คนเล่าต่อกันมาว่า ก่อนหน้านี้เวลาดาราสาวจะไปไหนในกองถ่ายไม่ต้องมีคนคอยติดตาม แต่เดี๋ยวนี้ไม่ได้ ต้องเยอะเข้าไว้และต้องมีคนพัดปรนนิบัติตลอด
ไหนจะเรื่องการถอดแหวนเพชรที่ใส่เล่น ๆ ไว้กับทีมงานอีก เมื่อก่อนดาราสาวจะฝากแหวนและอื่น ๆ ไว้กับทีมงานมานานแล้ว แต่พอแต่งงานกับคนรวยปุ๊บ การฝากแหวนรีบบอกเลยว่าอย่าหายนะ อย่าเป็นรอยนะ มันแหวนน้ำดี ใคร ๆ ก็ซื้อยากและแพงมาก คำถามคือ จะบอกทำไม ?!
แต่คำที่ชีอยากได้ยิน คือ อุ๊ย ! รวยอะ อิจฉา อยากรวยแบบนี้ ทั้งสวยทั้งเริด โอโห้ !! ทำแบบนี้จนคนเขาลือต่อ ๆ กันมา มาดามกุ๊งกิ๊ง ยังทิ้งท้ายด้วยว่า ระวังไปอวดรวยกับคนที่รวยมาก ๆ รวยจริง ๆ แล้วเขาจะสวนกลับให้ รวยนิดหน่อยเหมือนเศรษฐีใหม่ แต่ทำตัวเป็นเทพธิดา “อ๋อ.. ชีก็เทพธิดานะ แต่เป็นเทพธิดาซาตานอะ”
