ปวดหลังช่วงเอว หรือปวดหลังส่วนล่าง อาจไม่ใช่แค่การปวดเมื่อยธรรมดา แต่อาการปวดหลังช่วงเอว หากเป็นมาก ๆ หรือเรื้อรัง อาจเป็นสัญญาณเตือนของโรคบางอย่าง
สาว ๆ ที่นั่งทำงานอยู่ในท่าเดิมนาน ๆ อาจทำให้มีอาการปวดหลังช่วงเอว หรือปวดหลังส่วนล่างกันบ้าง ซึ่งหากเป็นมาก ๆ จนเรื้อรังอาจส่งผลกระทบต่อสุขภาพผู้หญิง การใช้ชีวิตประจำวัน รวมไปถึงเป็นสัญญาณเตือนของโรคบางอย่าง วันนี้กระปุกดอทคอมจึงได้รวบรวมสาเหตุของอาการปวดหลังช่วงเอว และวิธีรักษาอาการปวดหลังช่วงเอวมาบอกต่อกัน เพื่อที่หลายคนจะได้รับมืออย่างถูกต้องและทันท่วงที ตามมาดูกันเลยค่ะ
ปวดหลังช่วงเอว มีลักษณะอย่างไร
ปวดหลังช่วงเอว หรือปวดหลังส่วนล่าง คือ อาการปวดที่เกิดขึ้นตั้งแต่บริเวณหลังชายโครงไปถึงส่วนล่างของแก้มก้น หรืออาจมีอาการปวดร้าวลงขา เกิดได้ทั้งจากการเสื่อมและโรคของกล้ามเนื้อ เอ็น กระดูก และหมอนรองกระดูกสันหลัง ซึ่งเป็นอาการปวดที่พบบ่อยที่สุดของโรคทางออร์โธปิดิกส์ หรือโรคทางกระดูกและข้อ
ปวดหลังช่วงเอว เกิดจากอะไร
อาการปวดหลังช่วงเอว หรือปวดหลังส่วนล่าง อาจเกิดได้จากหลายสาเหตุด้วยกัน ได้แก่
- น้ำหนักตัวมากเกินไป ทำให้กระดูกต้องรับน้ำหนักเยอะ
- การนั่งหรือยืนผิดท่าเป็นเวลานาน ๆ
- นอนหรือนั่งอยู่ในท่าเดิมซ้ำ ๆ
- ไม่ออกกำลังกาย ไม่ค่อยได้ยืดเหยียดกล้ามเนื้อ
- การออกกำลังกายหรือเล่นกีฬาบางชนิดที่ต้องเอี้ยวตัวเป็นเวลานาน เช่น ตีกอล์ฟ โบว์ลิ่ง และเทนนิส เป็นต้น
- การใช้งานร่างกายอย่างหักโหมเกินไป อาจทำให้เกิดการบาดเจ็บบริเวณเอวและหลัง
- อาการปวดหลังส่วนล่าง บางคนจะเกิดในช่วงก่อนประจำเดือนมา 1-2 วัน หรือขณะที่มีประจำเดือน หลังจากนั้นอาการจะหายไปเอง
- ตั้งครรภ์ ต้องแบกรับน้ำหนักที่เพิ่มขึ้นจากน้ำหนักของทารกในครรภ์
- เกิดจากโรคเกี่ยวกับกระดูกสันหลัง เช่น โรคความเสื่อมข้อติดกระดูกสันหลัง, โรคของหมอนรองกระดูก, โรคช่องกระดูกสันหลังตีบ, โรคกระดูกสันหลังติดเชื้อ รวมไปถึงโรคมะเร็งกระดูกสันหลัง
อาการปวดหลังส่วนล่าง มีกี่ระยะ
อาการปวดหลังส่วนล่างสามารถแบ่งเป็นระยะต่าง ๆ ได้ดังนี้
- อาการปวดหลังแบบเฉียบพลัน คือ อาการปวดหลังที่มีอย่างต่อเนื่องน้อยกว่า 6 สัปดาห์
- อาการปวดหลังกึ่งเฉียบพลัน คือ อาการปวดหลังที่มีอย่างต่อเนื่องมากกว่า 6 สัปดาห์ แต่ไม่เกิน 3 เดือน
- อาการปวดหลังเรื้อรัง คือ อาการปวดหลังที่มีอย่างต่อเนื่องมากกว่า 3 เดือน
วิธีป้องกันอาการปวดหลังช่วงเอว
สามารถทำได้หลายวิธี โดยขึ้นอยู่กับระดับอาการปวดหลังของแต่ละคน ดังนี้
- รักษาน้ำหนักตัวให้อยู่ในเกณฑ์ที่เหมาะสม ไม่อ้วนจนเกินไป
- ออกกำลังกายเป็นประจำ เสริมสร้างความแข็งแรงส่วนหลัง
- ไม่นั่งทำงานนานจนเกินไป จัดโต๊ะ-เก้าอี้ให้นั่งสบาย
- ปรับเปลี่ยนพฤติกรรม เช่น นั่งและยืนในท่าที่ถูกต้อง ไม่นอนท่าเดิมนาน ๆ
- ใส่รองเท้าส้นสูงแค่ยามจำเป็น ควรเลือกใส่รองเท้าที่เดินสบาย เช่น รองเท้าส้นเตี้ย
- งดยกหรือแบกของหนักเกินกำลัง ถ้าต้องยกของอย่าก้มตัวลงไป แต่ให้งอเข่า หลังตรง แล้วใช้แรงขาดันตัวขึ้นมา
ปวดหลังช่วงเอว รักษายังไง
การรักษาอาการปวดหลังช่วงเอว นอกจากรักษาตามอาการป่วยแล้วยังสามารถบรรเทาอาการปวดได้ดังต่อไปนี้
- ทาครีมบรรเทาอาการปวด หรือรับประทานยาแก้ปวดหลัง ยาแก้อักเสบ เป็นต้น
- การนวดแก้ปวดหลัง
- นอนพัก 2-3 วัน ลดการเคลื่อนไหวร่างกายที่อาจกระทบกระเทือนหลังส่วนล่าง
- ใช้การประคบเย็นช่วยลดการอักเสบและบวม
- ใช้การประคบร้อน หรือการลงไปแช่ในน้ำอุ่น ช่วยบรรเทาอาการปวดกล้ามเนื้อ
- ยืดเหยียดกล้ามเนื้อ เช่น ฝึกโยคะ
- การจัดกระดูก
- ทำกายภาพบำบัดแก้อาการปวดหลัง
- การฝังเข็ม ครอบแก้ว ตามแบบฉบับแพทย์ของแผนจีน
- การผ่าตัด หากรักษาด้วยวิธีอื่น ๆ แล้วไม่ดีขึ้น และยังมีอาการปวดมากขึ้น เช่น มีอาการปวดร้าวตามเส้นประสาท เริ่มมีอาการชาหรืออ่อนแรง เป็นต้น
ทั้งนี้ หากมีอาการปวดหลังช่วงเอวเรื้อรังก็ควรรีบไปพบแพทย์เพื่อหาสาเหตุที่แท้จริง เพราะถ้าปล่อยไว้นานอาจกลายเป็นโรคที่รุนแรงและรักษาหายยากขึ้น
ขอบคุณข้อมูลจาก : nakornthon.com, kdmshospital.com, healthline.com