ตั๊กแตน ชลดา
ตั๊กแตน ชลดา ซูเปอร์สตาร์ลูกทุ่งขวัญใจมหาชน (Lisa)
ด้วยยอดดาวน์โหลดเพลงเป็นหลักล้านจากแฟน ๆ คงบอกได้ว่าเพลงลูกทุ่งของสาวรากหญ้าคนนี้ฮอตฮิตติดใจคนฟังทั่วทั้งเมืองมากขนาดไหน...
การที่เราจะมีโอกาสนั่งคุยกับซูเปอร์สตาร์ลูกทุ่งสาวเมืองโคราช ตั๊กแตน - ชลดา ทองจุลกลาง ไม่ใช่เรื่องง่าย ๆ เลย ด้วยความฮอตของเธอนั้นทำให้มีงานเข้ามาอยู่ตลอด ล่าสุดผลสำรวจความนิยมพบว่า ยอดการดาวน์โหลดริงโทนจากเพลงของเธอเป็นหลักล้าน!... ส่วนยอดจำหน่ายอัลบั้มก็วิ่งฉิวฝ่ากระแสเทปผีซีดีเถื่อนไปอย่างลอยลำ นั่นเพราะวันนี้แฟนเพลงของเธอใช่มีแค่คนต่างจังหวัด หากแผ่ขยายในกลุ่มคนเมือง โดยเฉพาะวัยรุ่นและคนทำงานสาวกเพลงสตริงให้หันมาฟังเพลงลูกทุ่งกันบ้าง จึงนับว่าเป็นก้าวกระโดยบนถนนเพลงลูกทุ่งที่น่าสนใจยิ่งของตั๊กแตนสาวผู้นี้
ข่าวว่ายอดดาวน์โหลดริงโทนของตั๊กแตนเป็นล้านเลยเหรอคะ
ตั๊กแตน : ดีใจมากเลยค่ะ ดีใจที่ยอดดาวน์โหลดสูงขึ้นเรื่อย ๆ ไม่ว่าจะเป็นเพลง "คนเหงาที่เข้าใจเธอ" และที่แรงมาก ๆ ก็เพลง "อยากเป็นคนรัก ไม่อยากเป็นชู้" ต้องขอบคุณแฟนเพลงที่ช่วยกันดาวน์โหลดเข้ามาจนทำให้ยอดโหลดสูงพุ่งขึ้นอันดับหนึ่งได้ หากมองย้อนกลับไปเวทีเฟิร์สสเตจโชว์คงมีความสำคัญกับคุณมาก
ตั๊กแตน : ถือเป็นเวทีเปิดตัวของตั๊กแตนก็ว่าได้ค่ะ เป็นบันไดก้าวแรกที่ทำให้ตั๊กแตนมีผลงานเพลงเป็นของตัวเอง แม้ตอนนั้นยังไม่มีอัลบั้มเดี่ยวก็ตาม แต่ก็มีอัลบั้มรวมและมีเพลง "ขอจองในใจ" ออกมา ถือว่าเป็นเพลงเปิดตัวที่ดีมาก วันนี้ก็ยังนึกถึงตอนที่ประกวด นึกถึงเพื่อน ๆ สมัยประกวดด้วยกัน นึกถึงผู้ใหญ่ที่ให้โอกาสดี ๆ จริง ๆ แล้วเราเป็นลูกทุ่งคนเดียวในการประกวดเลยนะ อันดับหนึ่งก็เป็นน้องไอซ์-ศรัณยู ส่วนอันดับ 2 ก็พี่ป๊อป-แคลอรี่ส์ บลาห์ บลาห์ แล้วตั๊กแตนได้ที่ 3 ซึ่งเป็นเรื่องที่เซอร์ไพรส์มาก โอ้...พระเจ้า เราได้ที่ 3 จริง ๆ เหรอ ดีใจมากค่ะ แต่กว่าจะได้ออกอัลบั้มเดี่ยวก็นานมาก แล้วก็ไม่เปรี้ยงซะด้วย
ตั๊กแตน : ตอนนั้นถึงแม้จะมีรางวัลการันตี มีเพลง "ขอจองในใจ" ที่มีคนรู้จัก แต่กว่าจะได้เข้าแกรมมี่โกลด์กว่าจะได้ออกอัลบั้ม ได้เซ็นสัญญา ต้องเข้ามาเทสต์ถึง 3 รอบ เกือบจะท้อแล้วด้วย ถามว่ายากมั้ย ทุกอย่างยากหมด มันอยู่ที่ความพยายาม โดยเฉพาะกับฝันลม ๆ แล้ง ๆ ที่จะได้ทำอัลบั้ม เป็นเรื่องยากที่จะทำให้กลายเป็นจริงได้ ยิ่งเข้ามา ยิ่งได้สัมผัสก็รู้ว่ากว่าจะทำทุกขั้นตอนให้เป็นผลงานออกมาสู่แฟนเพลงไม่ใช่ง่าย แล้วพอออกชุดแรกก็ไม่ดังแฟนเพลงมาให้การต้อนรับจริง ๆ คือเพลง "ไม่ใช่แฟนทำแทนไม่ได้" ในชุดที่ 2 ตั๊กแตนว่าน่าจะเป็น เพราะโอกาสที่ผู้ใหญ่ให้ เนื่องจากเพลงนี้แต่งโดยครูสลา คุณวุฒิ เป็นเพลงที่มีถ้อยคำเฉียบคม สุดยอดมาก ๆ และเรามีโอกาสได้ถ่ายทอดออกมาอีกอย่างที่ทำให้ประสบความสำเร็จก็คือ แฟนเพลงที่รู้จักเราจากอัลบั้มแรก "หนาวแสงนีออน" ซึ่งเป็นชุดเปิดตัวของตั๊กแตน แนวเพลงเป็นชีวิตสาวบ้าน ๆ ที่เข้ามาทำงานในเมือง แต่ชุดสองจะอิงกับเรื่องความรักจึงโดนใจคนฟังมากกว่า วันนี้มาถึงอัลบั้มชุดที่ 4 แล้ว ตั๊กแตนพัฒนาไปมากขนาดไหนคะ
ตั๊กแตน : ในเรื่องของการร้องมีเยอะค่ะ ชุดแรกต้องเรียกว่ายังร้องเพลงไม่เป็น ตอนนั้นกว่าจะปั้นแต่ละเพลงได้ใช้เวลาหลายวันมาก เพราะตั๊กแตนชอบใช้เสียงดุดัน พอร้องเพลงก็ยังฟังดูเกินไป เวลาเข้าห้องอัดอาจารย์ทุกท่านต้องคอยบอกให้เบา ๆ ลง ตอนนี้เรื่องเสียงร้องดีขึ้นค่ะ สิ่งที่พัฒนาอีกเรื่องคือ มีการแจมเต้นบ้างนิดหน่อย บอกตรง ๆ ไม่ค่อยถนัดเรื่องเต้นเลย ก็อาจดูเด๋อ ๆ ด๋า ๆ อยู่ มาชุดที่ 4 แล้วก็ต้องพัฒนาทักษะการเต้นขึ้นบ้าง แต่ยังไม่ดีพอ (มีน่าถึงมีแต่เพลงแนวช้า ๆ ) ...ก็อาจจะเกี่ยวนะ อีกอย่างกระแสตอบรับจากแฟนเพลงส่วนใหญ่มาจากเพลงช้า ๆ และเป็นเพลงแนวแอบรักซะมากกว่า แล้วถ้าต้องเปลี่ยนไปร้องเพลงแนวอื่น กลัวจะมีผลต่อการยอมรับของแฟนเพลงมั้ย
ตั๊กแตน : ยังไงวันหนึ่งก็ต้องเปลี่ยนนะ ถ้ามันถึงจุดอิ่มตัวกับแนวนี้ คงต้องขึ้นอยู่กับดุลยพินิจของผู้ใหญ่ด้วย เขาจะดูว่าแนวเพลงไหนที่เหมาะกับคาแร็กเตอร์ ของเราในช่วงเวลานั้น ๆ จริง ๆ ก็มีเพลงโคราชที่นำมาประยุกต์ใหม่ให้เข้ากับตั๊กแตนมากที่สุด ที่ผ่านมาก็มีเพลง "จิรักหรือจิหลอก" ในชุดที่ 2 และในชุดล่าสุดก็มีเพลง "บอกแม่ย่าถ้ารักจริง" เป็นเพลงภาษาบ้านของตั๊กแตนเลย ถ้าถามใจจริง ๆ ก็อยากให้มีเพลงโคราชในทุกอัลบั้มด้วยซ้ำ เพราะสามารถบ่งบอกความเป็นตัวเองของตั๊กแตนมากที่สุด และเป็นการรักษาวัฒนธรรมของไทยเราด้วย อาจจะไม่ใช่เพลงดังแบบเพลงรัก ๆ อกหัก แต่เป็นเพลงที่ดีแน่นอน เพราะอะไรเพลงแนวรักอกหักของคุณถึงฮิตมาก ๆ ขนาดมียอดดาวน์โหลดเพลงเป็นหลักล้านได้
ตั๊กแตน : ตั๊กแตนว่าสังคมเรามันเปลี่ยนไปเยอะ อย่างเช่น เรื่องราวในเพลง "อยากเป็นคนรัก ไม่อยากเป็นชู้" มันเกิดขึ้นได้กับทุกคน บางครั้งเราอาจไม่ตั้งใจหรอก อาจไม่รู้จริง ๆ ว่าเขามีแฟนแล้ว แต่บังเอิญอีกฝ่าย รู้ทั้งรู้ว่าตัวเองมีแฟนแล้วก็ยังมาปันใจให้เราเป็นเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นง่ายมาก ในสังคมปัจจุบันมีเยอะ หรือเป็นเพราะสังคมเดี๋ยวนี้มีผู้หญิงมากกว่าผู้ชายก็ไม่รู้นะ (เลยถูกมองว่าคุณเป็นตัวแทนของผู้หญิงที่ตกอยู่ในสถานการณ์แบบนี้)...อาจจะไม่ถึงขนาดนั้น แต่เป็นการเรียกร้องสิทธิในความรักของผู้หญิงที่อยากให้มีคนเห็นใจบ้าง (หัวเราะ) ว่ากันว่าแฟนเพลงของคุณไม่ใช่แค่คนต่างจังหวัดอย่างเดียว แต่เข้าถึงคนเมืองรุ่นใหม่ด้วย
ตั๊กแตน : ดีใจมาก ๆ ที่มีกลุ่มคนฟังเพลงแนวลูกทุ่งมากขึ้น ตอนนี้กลุ่มสตริงหันมาฟังเพลงลูกทุ่งบ้างแล้ว อยากให้ทุกคนรู้จักรากเหง้าของคนไทย เพราะเพลงลูกทุ่งคือรากเหง้าของคนไทยนะคะ ไม่อยากให้ทุกคนหลงลืมไป รู้สึกว่าเพลงลูกทุ่งมีคุณค่ามากขึ้น อยากให้เป็นอย่างนี้ตลอดไป ตั๊กแตนโชคดีที่ได้บทเพลงดี ๆ มาถ่ายทอด และได้ทีมงานที่ดีด้วย คุณเข้าวงการมา 3-4 ปี แต่ดังมากขนาดนี้ถือว่าเร็วนะ
ตั๊กแตน : ตั๊กแตนว่ากำลังดีนะ เพราะกว่าจะได้เข้ามาก็ต้องรอถึง 2 ปีกว่าอัลบั้มแรกจะเสร็จ แล้วก็มีเพลงปีละอัลบั้ม ไม่เร็วไม่ช้าจนเกินไป แต่ช่วงยากที่สุด ก็คงเป็นช่วงเริ่มต้นที่ยังมองไม่เห็นตัวเองว่าจะอยู่ตรงไหนของโลกไปนี้ เป็นช่วงต่อสู้ว่าตัวเองจะได้เป็นนักร้องมั้ย จะได้ทำอัลบั้มรึเปล่า เคยท้อนะ ท้อบ่อยด้วย บางทีก็มีปัญหาเรื่องเงิน เรื่องทางบ้าน เพราะชีวิตเมื่อก่อนลำบากมาก ครอบครัวยากจนทำให้ท้อใจถ้าจะเดินบนเส้นทางนักร้องต่อไป เคยคิดว่าหรือเราจะไปทำอย่างอื่นดี ไม่ต้องเร่ร่อนไปประกวดตาเวทีต่าง ๆ เพื่อตามหาฝัน แต่สุดท้ายแล้วตั๊กแตนก็เลือกเดินตามใจตัวเอง งั้นวันนี้สถานะชีวิตก็คงเปลี่ยนไปเยอะ
ตั๊กแตน : จริง ๆ ทุกอย่างยังเหมือนเดิม แต่สิ่งที่เปลี่ยนไปคือมีคนรู้จักตั๊กแตนมากขึ้น มีแฟนเพลงที่รัก มีฝันที่จะต้องเดินตามและทำต่อไป (โดนกระแสดังแล้วหยิ่งรึยัง) ไม่มีนะ...แล้วก็ไม่กลัวด้วย เพราะเราเป็นยังไงก็ยังเป็นอย่างนั้น ทุกวันนี้ตั๊กแตนยังเดินตลาด กินข้าวแกงจานละ 15 บาท ไม่มีบอดี้การ์ด ไปไหนมาไหนกับเพื่อน ๆ พี่น้อง เรื่องความรักและหัวใจเป็นอย่างไรบ้าง หรือว่าตอนนี้ความรักกลายเป็นของต้องห้าม
ตั๊กแตน : ความรักเป็นสิ่งที่สวยงามนะคะ ทุกคนก็ต้องมีความรักกันทั้งนั้น คนที่ไม่มีนี่สิแปลก สำหรับตั๊กแตนเองสักวันก็ต้องมีความรักอย่างแน่นอน แต่จะช้าหรือเร็ว อืม...แล้วจริง ๆ ก็ไม่มีใครมาห้ามหรอกค่ะ เพราะความรักเป็นสิ่งที่ห้ามกันไม่ได้ แต่มันขึ้นอยู่ที่เราเลือกว่าจะมีความรักรึยัง หรือจะหยุดไว้ก่อนเพื่อทำงาน เพราะตั๊กแตนไม่เคยคิดว่าตัวเองขาดแคลนเรื่องความรัก ตั๊กแตนมีแฟนเพลงเยอะมากที่มอบความรักให้ไปที่ไหนก็ได้รับการต้อนรับที่อบอุ่น ถ้าวันหนึ่งมีความรัก จะประกาศให้แฟนเพลงรับรู้มั้ย
ตั๊กแตน : แน่นอนค่ะ ถ้ามีก็ต้องประกาศแน่ ๆ คงไม่ปิดเอาไว้หรอก (หัวเราะ) ทำไมยิ่งออกอัลบั้มก็ยิ่งสวยวันสวยคืนคะ
ตั๊กแตน : ตั๊กแตนเพิ่งจะมาดูแลตัวเอง ทาครีมทาผิวเมื่อตอนอายุ 20 จริง ๆ เป็นคนรักสวยรักงามเหมือนกัน แต่ไม่มีปัญญาใช้เพราะที่บ้านไม่มีเงินขนาดนั้น พอดีมีโอกาสได้มายืนอยู่จุดนี้ แฟนเพลงให้การต้อนรับ สถานภาพของตั๊กแตนดีขึ้น ก็มีโอกาสได้ดูแลตัวเองมากขึ้น อย่างผิวที่ดำและแห้งกร้านก็พยายามดูแลให้ดีขึ้น หน้าก็ต้องแต่ง เวลาไปเจอะเจอแฟนเพลงเขาจะได้ไม่ผิดหวัง แต่ผมยาวกับหน้าม้าไว้มาตั้งแต่ชุดแรกถึงชุดนี้ เบื่อมั้ย
ตั๊กแตน : เรื่องของเรื่องมันมีที่มาค่ะ เพราะหน้าตาของตั๊กแตนไว้ได้ไม่กี่ทรง พูดตรง ๆ เลยนะ ถ้าเอาหน้าม้าออกไปก็จะดูไม่ค่อยสวยเท่าไหร่เหมือนตอนขึ้นเวทีเฟิร์สสเตจ ดูไม่ได้ (หัวเราะ)...คือหน้ามันได้แค่นี้จริง ๆ ก็เลยสตาฟฟ์มันไว้แบบนี้แหละถามว่าเบื่อมั้ย...ก็ไม่เบื่อนะ เพราะมันทำให้ตั๊กแตนดูดี แต่จริง ๆ ก็อยากไว้ทรงบ้าง อยากมาก... (หัวเราะ) แต่ทำไม่ได้เพราะเราไม่ใช่คนสวยทุกมุมอันนี้ยอมรับตัวเองนะ อันไหนไม่ดีเราก็ต้องปกปิดมุมไหนดูดีสุดก็ต้องเลือกมุมนั้นแหละ ที่กลัวที่สุด ก็คือว่าถ้าเกิดเปลี่ยนทรงผมแล้วแฟนเพลงไม่ให้การยอมรับล่ะ จะทำยังไง เรื่องนี้กลัวกว่าเรื่องไม่สวยอีกนะ (หัวเราะ) ความสุขง่าย ๆ ของตั๊กแตนเป็นยังไงคะ
ตั๊กแตน : การกินค่ะ เป็นคนที่กินอะไรง่าย ๆ บางทีขอข้าวทีมงานจานนึงกับพริกป่นน้ำปลา และหัวหอมสัก 2-3 หัว นึกอยากกินเหมือนสมัยที่เราไม่มีจะกินเคยเป็นมะ...ตั๊กแตนว่าหลายคนที่ผ่านชีวิตยากลำบากน่าจะเคยเป็นนะ อยากกลับไปกินรสชาตินั้น มันอร่อยที่สุด แล้วอาการแบบนี้เกิดขึ้นบ่อยมาก ความสุขรองมาคือการพักผ่อนกับต้นไม้ใบหญ้าเป็นคนชอบป่าเขาและทะเล เพราะที่อีสานไม่มีทะเล ชอบปูเสื่อนอนตามสวนสาธารณะ มันมีความสุขจริง ๆ และที่ชอบอีกอย่างก็คือตีแบด เมื่อก่อนชอบตีปิงปองมาก แต่ตอนนี้กำลังเห่อ ตีแบด พยายามหาเวลาตีแบดเกือบทุกวันก่อนไปเล่นคอนเสิร์ต หากจัดอันดับ ณ เวลานี้ คุณนับเป็นเบอร์หนึ่งในกลุ่มนักร้องลูกทุ่งรุ่นใหม่
ตั๊กแตน : จริง ๆ แล้วไม่มีใครเป็นเบอร์หนึ่ง ขึ้นอยู่กับจังหวะช่วงนั้น ๆ ว่ากระแสเพลงแนวไหนจะมา แต่มาแล้วก็ไปค่ะ แม้ว่าถ้าวัดจากยอดดาวน์โหลดเราอาจจะเป็นอันดับหนึ่ง แต่เมื่อเพลงใหม่เข้ามา เดี๋ยวเราก็ไปแล้ว ตั๊กแตนจึงถือว่าไม่มีใครเป็นเบอร์หนึ่ง เพราะทุกคนทำงานดีที่สุด
จะเบอร์หนึ่งหรือเบอร์ไหนก็คงไม่สำคัญเท่าความรักที่มหาชนมอบให้...นี่คงเป็นความสุขที่ขวัญใจมหาชนคนนี้ต้องมากกว่าสิ่งไหน ๆ
ขอขอบคุณข้อมูลจาก
