หมอก้อง สรวิชญ์ ไม่ซีเรียสกระแสนักแสดงคลื่นลูกใหม่ผุดขึ้นเยอะ เผย กำลังเรียนรู้งานเบื้องหลังกองละคร ย้ำชัด ยังโสด
ยอมปล่อยให้ดาวรุ่งดวงใหม่แซงหน้าเข้ามาโลดแล่นในวงการ สำหรับนักแสดงหนุ่มดีกรีนายแพทย์ หมอก้อง สรวิชญ์ ที่จะสังเกตได้ชัดว่าช่วงหลัง ๆ ผลงานละครส่วนใหญ่ที่ได้รับจะเป็นละครช่วงเย็นทั้งนั้น ล่าสุด (9 กรกฎาคม 2558) มีโอกาสได้เจอตัวหมอก้องที่งานบวงสรวงละครของค่ายทีวีซีน กระปุกดอทคอมเลยไม่พลาด เข้าไปให้หมอก้องอัพเดทผลงานและชีวิตให้ฟังกันซะหน่อย
ได้ยินว่าปีนี้ขอรับงานละครเยอะขึ้น ?หมอก้อง : ไม่เยอะ ก็ปกตินะ เรื่องหมอผีไซเบอร์ถ่ายตั้งแต่ปีที่แล้ว แต่เพิ่งจะได้ออนแอร์ ส่วนเรื่อง ปาฏิหาริย์รักแม่โพสพ ก็ใกล้ปิดกล้องแล้ว จริง ๆ ปีที่แล้วงานเยอะกว่านี้อีก ก็มีอยู่ 2 เรื่องที่ถ่ายเสร็จไปแล้ว คือ นายยิ้มมะยมหวาน กับ บุษบาหน้าตลาด แต่ยังไม่ได้ออนแอร์
ช่วงหลังเห็นมีแต่ผลงานมีแต่ละครตอนเย็น ?หมอก้อง : อันนี้ต้องแล้วแต่ทางช่อง เพราะส่วนใหญ่ทางช่องจะให้เล่นช่วงนี้มากกว่า อาจจะต้องขึ้นอยู่กับช่วงนั้นด้วยว่ามันมีละครอะไรที่มีบทเหมาะกับเรา แล้วเราเล่นได้หรือเปล่า ซึ่งถ้าเราเล่นได้ เขาก็จะให้เราเล่น
มีโอกาสจะได้เลื่อนขั้นบ้างหรือเปล่า ?หมอก้อง : ถ้าตอบตามความเป็นจริง ก็เคยคิดนะว่า ถ้าต้องขึ้นไปเล่นละครหลังข่าว ซึ่งแนวละครแต่ละช่วงมันต่างกัน แนวของละครเย็นที่เคยเล่นมันไม่ใช่แนวละครชีวิตที่จริงจังเหมือนละครหลังข่าวสักเท่าไหร่ แต่ถ้าถามว่าอยากเล่นละครแบบนั้นไหม ก็อยาก แต่ทุกอย่างมันก็ต้องขึ้นอยู่กับความเหมาะสมที่ตัวเราเองก็ไม่สามารถไปกำหนดว่าตัวเราเองเหมาะสมได้ ต้องให้ผู้ใหญ่ทางช่องเป็นคนพิจารณา
เคยของานละครกับผู้ใหญ่ทางช่องบ้างไหมหมอก้อง : เคยครับ แต่ตอนนั้นยังเด็ก ๆ ช่วงเข้าวงการใหม่ ๆ อยากเล่นแบบนี้ แบบนั้น แต่สุดท้ายมันก็ไม่ใช่หน้าที่เราครับ เพราะยิ่งเราเป็นนักแสดงในสังกัดช่องด้วย ไม่ควรเรื่องเยอะ ละครมันก็มีหลายแนว ถ้าจะให้ทุกคนได้เล่นในแนวที่ตัวเองอยากเล่น มันเป็นไปไม่ได้หรอกครับ
แล้วหมอก้องโอเคหรือเปล่า ?หมอก้อง : ผมโอเคครับ ผมเชื่อว่าผู้ใหญ่เขามองกว้างกว่าเราแน่นอน ผมยกสิทธิ์การตัดสินใจให้กับผู้ใหญ่แล้ว ผู้ใหญ่ก็จะช่วยดูแลและตัดสินใจว่าสิ่งไหนเหมาะสมกับตัวเราที่สุด
เชื่อใจกับทางช่องไหม ?หมอก้อง : ผมอยู่กับช่อง 3 มา 7 ปีแล้วครับ และไม่คิดจะไปไหนแล้วด้วย ยิ่งตอนนี้ก็มีโอกาสได้เรียนรู้การทำงานเบื้องหลัง ก็ยิ่งได้เรียนรู้และเข้าใจถึงปัญหาของการทำงานมากขึ้น ซึ่งข้อจำกัดในการเรื่องนักแสดงมันเยอะ
แล้วงานเบื้องหลังตอนนี้ทำอะไรอยู่ ?หมอก้อง : ตอนนี้ยังเป็นเด็กฝึกงานกองถ่ายเรื่อง แรงตะวัน ของพี่ไก่ วรายุฑ อยู่ครับ งานหลัก ๆ ก็ได้ทำบท ผมเป็นคนเลือกนวนิยายเรื่อง แรงตะวัน แล้วก็มาคุยกับคนเขียนบทว่าอยากปรับบทเพิ่มบทตรงไหน เพราะละครกับหนังสือมันต่างกันโดยสิ้นเชิง เราก็ต้องเพิ่มความคิดเราเข้าไป และก็จะมีช่วยเรื่องการดูนักแสดงใหม่ ๆ ด้วย
อนาคตมีโอกาสจะผันตัวมาเป็นผู้จัดหรือเปล่า ?หมอก้อง : อนาคตมันบอกยากครับ ถ้าถามว่าอยากทำงานตรงนั้นไหม ก็อยากครับ แต่ตอนนี้ด้วยความสามารถเรามันยังไม่ถึง ยังคงอีกห่างไกล เพราะงานเบื้องหน้ากับงานเบื้องหลังมันต่างกันมาก คืองานเบื้องหน้าความรับผิดชอบมันก็คือบทของตัวเราเอง แต่งานเบื้องหลังมันเยอะแยะมากมายหลากหลายขั้นตอน ต้องดูแลทุกอย่าง
ผู้ใหญ่ว่าอย่างไรบ้างกับการทำงานเบื้องหลัง ?หมอก้อง : ก็คงต้องฝึกงานตรงนี้ไปเรื่อย ๆ ชีวิตต้องเรียนรู้อีกเยอะ ถ้าถึงเวลาที่เราพร้อมเมื่อไหร่ พี่ไก่กับทางช่องก็คงจะบอกเองว่าเราพร้อม เพราะถ้าเราไปทำงานแบบไม่พร้อมมันก็เละครับ
ทำงานบันเทิงทั้งเบื้องหน้าเบื้องหลังแบบนี้ กับอาชีพหมอมีผลกระทบหรือเปล่า ?หมอก้อง : ตอนนี้ก็เรียนเพิ่มด้วยครับ กำลังเรียนชีวอนามัยหลักสูตร 2 เดือนอยู่ ถ้าถามว่ามีผลกระทบกับเรื่องเรียนไหม ตอนนี้มีครับ ซึ่งถ้ามันเป็นงานที่จำเป็นจริง ๆ ก็ต้องขออนุญาตมา
แล้วเรื่องหัวใจเป็นอย่างไรบ้าง ?หมอก้อง : ความรักก็เคยมีครับ แต่ไม่เห็นกันเอง อาจจะเป็นเพราะด้วยจังหวะที่มาถามด้วยแหละ แต่ตอนนี้ไม่มีนะ
แล้วตอนนั้นความรักเป็นอย่างไรบ้าง ทำไมถึงเลิกคุยกัน ?หมอก้อง : ลองคุยกันแล้วมันไปด้วยกันไม่ได้ เพราะถ้าคุยกันแล้วมันไม่ใช่ เราก็ต้องเปิดโอกาสให้เขาได้ไปหาสิ่งที่ใช่สำหรับเขา และตัวเราเองก็ต้องเดินต่อไป ซึ่งเราบอกไม่ได้หรอกว่าชีวิตเราจะหยุดที่คนคนนี้
แล้วตอนนี้เปิดใจให้ใครบ้างหรือเปล่า ?หมอก้อง : เปิดครับ ไม่เคยปิดเลย สเปคระบุไม่ได้แล้ว ยิ่งโตขึ้นก็ยิ่งรู้ว่าไม่ต้องมีสเปคหรอก สมมุติเดิน ๆ ไป พอมองหน้ากัน เฮ้ย ! คนนี้ใช่ก็คือใช่ เวลาเราจะชอบใครมันหาเหตุผลไม่ได้ด้วยซ้ำ อย่าพยายามยัดเยียดใส่เหตุผลเข้าไป เพราะถ้ามันไม่ใช่ก็คือไม่ใช่
มีมอง ๆ ใครไว้บ้างไหม ?หมอก้อง : ไม่มีครับ ไม่ได้โกหกเลย ไม่มีจริง ๆ
รู้สึกว่าช่วงนี้กระแสความดังจะดรอปลงกว่าที่ผ่านมา ?หมอก้อง : ผมว่าผมไม่เคยดังอยู่แล้วนะ ตอนนี้ผมก็อยู่ในวงการมา 7 ปี เรียกว่าดาวรุ่งไม่ได้แล้ว ถ้าถามผมเมื่อ 3-4 ปีก่อน กับถามผมตอนนี้ คำตอบมันก็จะต่างกัน ยิ่งตอนนี้ได้ทำงานเบื้องหลังด้วย เรายิ่งได้รู้ว่า เราต้องเป็นทั้งนักแสดงที่ดีและคนเป็นคนที่ทำงานละครที่ดีด้วย
ยิ่งตอนนี้นักแสดงคลื่นลูกใหม่มีเยอะมาก รู้สึกหวั่นบ้างไหม ?หมอก้อง : ผมดีใจนะ จะได้เรียกตัวน้อง ๆ มาร่วมงานได้ แต่ถ้าถามว่าหวั่นไหม ตอบในฐานะนักแสดงคือมีผลกระทบแน่นอน ยิ่งตัวเลือกเยอะ โอกาสที่เราจะถูกเลือกก็จะมีน้อยลง แต่ส่วนตัวผมก็ไม่ได้ซีเรียสอะไร
