เปรี้ยว AF2 กลับมาแล้วพร้อมลุคใหม่ อึ๋มขึ้น สวยกว่าเดิม พร้อมเผยชีวิตที่ผ่านมา งานหดเงินหาย จนเหลือเงินติดบัญชี 2 บาท และต้องไปกู้หนี้นอกระบบ จนเจ้าหนี้ตามทวง
เป็นอีกหนึ่งนักแสดง นักร้องที่อาจจะไม่ค่อยได้เห็นหน้ากันสักเท่าไร อย่างเปรี้ยว AF2 เพราะประสบปัญหาชีวิตงานหด เงินหาย ภาระเยอะ จึงต้องหันพึ่งมีดหมอ หวังเสริมอึ๋มอัปไซส์เรียกงานอีกครั้ง ล่าสุด (14 กันยายน 2560) เปรี้ยว AF2 ได้มานั่งเปิดใจในรายการ คุยเช้า Show ทางช่อง one 31 ที่มี พีเค ปิยะวัฒน์, เต๋อ รัฐนันท์ และเอมมี่ อมลวรรณ เป็นพิธีกร ถึงชีวิตที่พลิกผันจากที่เคยรุ่งเรืองมีชื่อเสียงจากเวทีนักล่าฝัน แต่เมื่อคลื่นลูกใหม่เข้ามาแทนที่ ทำให้ตัวเองถึงกับเจอมรสุมชีวิตครั้งใหญ่เรียกได้ว่าเคยคิดถึงขั้นอยากจะฆ่าตัวตาย
เรื่องของการไปอัปไซส์เพื่อหวังงานจริงหรือเปล่า ไปทำมาเมื่อไร ?
เปรี้ยว : ไปทำมาเมื่อเดือนที่แล้วค่ะ นี่คือรายการแรกที่เปรี้ยวบอกว่าเปรี้ยวไปเสริมหน้าอกมา
มันเกิดอะไรขึ้นถึงอยากไปทำหน้าอก ?
เปรี้ยว : ประเด็นมันขำมากพี่ ตอนนั้นไปเที่ยวกับเพื่อนที่ทะเลอยากจะใส่ชุดว่ายน้ำเซ็กซี่ แล้วถ่ายรูปแบบเหมือนสะบัดผมขึ้นจากน้ำ แล้วชุดชั้นในมันหลุดขึ้นมาเด้งแทนนมแบบเห็นจุก แล้วมันไม่ใช่แค่ครั้งแรกไง
เปรี้ยวรู้ไหมว่าการทำหน้าอกมันเจ็บมาก ?
เปรี้ยว : เอาจริง ๆ นะ หนูไม่รู้ว่ามันจะเจ็บขนาดไหน เคยหาข้อมูลอยู่ แต่ไม่คิดว่ามันจะเจ็บจริง ๆ
เปรี้ยว : คือตอนนี้ยังค่ะ หนูบอกเลยว่ารายการนี้เป็นรายการแรกที่หนูมาบอกว่าไปเสริมมา ยังไม่มีใครรู้ เพื่อนสนิทยังไม่รู้เลย
งานแรกที่อยากจะถ่ายจริง ๆ เพื่อบอกให้รู้ว่าเราเป็นน้องเปรี้ยวคนใหม่อยากถ่ายแบบไหน ?
เปรี้ยว : คือเมื่อก่อนที่หนูยังเป็นนมไข่ดาวอยู่ มีคนติดต่อมาเยอะนะพี่ แต่หนูไม่กล้าถ่ายแนวเซ็กซี่เพราะหนูไม่ใช่แนวนั้น แต่ถ้าตอนนี้มีคนสนใจก็โอเค อยากจะมีสักคอลเลคชั่นหนึ่งที่เก็บไว้
มาพูดถึงช่วงเวลาที่งานหด งานหาย เครียดมากจนถึงขั้นคิดฆ่าตัวตายมันมีช่วงเวลานั้นจริงเหรอ ?
เปรี้ยว : จริงค่ะ มีช่วงเวลานั้นจริง ๆ คือประมาณ 3-4 ปีที่แล้ว เหมือนกับงานมันน้อยลง ด้วยอะไรหลาย ๆ อย่างก็แล้วแต่ มีเด็กรุ่นใหม่เพิ่มด้วย
แล้วทำไมอยู่ ๆ ค่อย ๆ เงียบแล้วหายไปล่ะ ?
เปรี้ยว : ชีวิตในวงการบันเทิงมันขึ้น ๆ ลง ๆ อยู่แล้วค่ะ แต่ด้วยเด็กรุ่นใหม่ด้วยค่ะ
คิดว่าเกี่ยวไหมที่เราเป็นซีซั่น 2 พอมีน้อง ๆ ซีซั่น 3 ขึ้นมาก็เหมือนน้องๆ รุ่นใหม่เข้ามาแทนที่เรา ?
เปรี้ยว : งานมันจะเริ่มดาวน์ลงตอนประมาณซีซั่น 5, 6, 7 แต่โชคดีที่เรายังมีงานอยู่เรื่อย ๆ แต่ด้วยความที่เราเป็นหัวหน้าครอบครัวแล้วงานที่เรามี มันไม่สมดุลกับค่าใช้จ่ายที่เราต้องใช้
เปรี้ยว : ตอนนี้ครอบครัวมี 5 คน คือคุณพ่อ คุณแม่ พี่สาว พี่ชาย แล้วก็เปรี้ยวเอง แต่พี่สาว พี่ชายมีครอบครัวแล้ว เพราะฉะนั้นเราก็จะเป็นคนดูแลคุณพ่อ คุณแม่ เราก็ซื้อบ้านให้ท่านที่อุดรฯ ก็จะมีค่ารถ ค่าบ้าน ค่าใช้จ่ายอะไรทั่วไปที่เราต้องดูแลท่าน เราก็งงนะว่าเกิดอะไรขึ้นกับชีวิตเราตอนนั้น ไม่มีเงินถึงขนาดเราต้องแคะกระปุกที่เป็นเหรียญเพื่อมาใช้
แล้วไหนจะต้องดูแลพ่อแม่อีก ?
เปรี้ยว : ใช่ค่ะ ช่วงนั้นสงสารคุณพ่อ คุณแม่มาก เราไม่ได้ดูแลท่านมานานมาก ช่วงนั้นประมาณ 1 ปีเต็ม ๆ เลย ก็คือท่านต้องใช้จ่ายดูแลตัวเองซึ่งก่อนหน้านั้นเราเป็นคนดูแลท่านตลอด ค่าบ้าน ค่าอะไรเราเป็นคนจ่ายให้หมด แต่เป็นเพราะว่าช่วงนั้นงานเราไม่มีเลยมันก็เลยกลายเป็นว่าให้ท่านดูแลตัวเอง
นอกจากจะกดดันแล้ว ความหวังเริ่มไม่มี ตอนนั้นเราหันมามองพ่อแม่แล้วจิตตก ?
เปรี้ยว : จิตตกมากค่ะ เปรี้ยวรู้สึกว่าทำไมคนเราเกิดมาแล้วต้องทุกข์ขนาดนี้ ตอนนั้นอยู่ห้องคนเดียวทั้งหนี้สินก็มารุมเร้าเต็มไปหมด ด้วยความที่เราต้องหาเงินก็เลยไปกู้หนี้นอกระบบ เขาก็เลยทวง เราทำอะไรไม่ถูก ไม่อยากรับโทรศัพท์ อยากจะหนีหนี้ไปเลย แต่มันก็ต้องเผชิญหน้าอะค่ะ จนแบบทำอย่างไรดี หรือฉันจะไม่อยู่บนโลกใบนี้ดีไหม
คิดถึงจะฆ่าตัวตายเลยเหรอ ?
เปรี้ยว : เคยมีแวบหนึ่งค่ะ แต่ไม่ถึงกับจริง ๆ จัง ๆ คือคิดว่าถ้ามันทุกข์ขนาดนี้ไม่อยู่เลยดีกว่า
ตอนนั้นเงินในบัญชีที่เหลือน้อยที่สุดเหลือเท่าไร ?
เปรี้ยว : 2 บาท !!
พูดถึงหนี้นอกระบบเวลาเขาทวงมันดุนะ มีวิธีการพูดกับเขายังไงถึงผ่านตรงนี้มาได้ ?
เปรี้ยว : เปรี้ยวไม่ค่อยรับโทรศัพท์เลย มันกลายเป็นไม่กล้าเผชิญหน้ากับปัญหา แต่ว่าพอถึงที่สุดแล้วหัวเราจะระเบิดคิดมากจนไม่รู้จะทำยังไงแล้ว โอเค รับมันเถอะ เผชิญหน้ากับเขา แล้วบอกเขาตรง ๆ ว่าเกิดอะไรขึ้นบ้าง เดี๋ยวจะคืน ไม่มี ไม่หนี ไม่จ่าย แต่จ่ายแน่นอนถ้ามี
ช่วงจังหวะที่ล้มตอนนั้นคือเรียกได้ว่าทุกข์ที่สุดในชีวิตแล้วก็ว่าได้ ?
เปรี้ยว : ทุกข์ที่สุดในชีวิตแล้ว เปรี้ยวไม่เคยคิดว่าจะคิดขนาดนั้นมาก่อน เราพูดคุยกับพ่อแม่ตลอดนะว่ารู้สึกแบบนี้ จนพ่อแม่บอกว่าทำไมลูกคิดขนาดนั้น แต่สิ่งหนึ่งที่เปรี้ยวฟื้นขึ้นมาได้จากความหดหู่ตอนนั้นก็คือครอบครัว ที่คอยช่วยเหลือตลอดว่าอย่างไรชีวิตเราก็จะดีขึ้น
แล้วก็มีธรรมะมาช่วยด้วย หันไปหาธรรมะเมื่อไหร่ ?
เปรี้ยว : คือโชคดีตรงที่ได้มีกัลยาณมิตรที่ดี ก็คือพี่แอม ณัฏฐา ชาญเลขา น้องสาวพี่โดโด้ แล้วก็มีพี่พาส AF2 เราสนิทกันอยู่แล้ว เขาแนะนำว่าให้ไปทำบุญกัน คือทั้ง 2 คนเขาปฏิบัติธรรมอยู่แล้ว เปรี้ยวเลยรู้สึกว่าถึงวันที่เราอยากทำอะไรให้ชีวิตมันดีขึ้น เพราะมันทุกข์เหลือเกินเราก็เลยขอเข้าธรรมะแล้วกัน ไปปฏิบัติธรรม
ก้าวเข้าสู่ธรรมะเปรี้ยวได้อะไรจากการที่ตัวเองปฏิบัติธรรม ?
เปรี้ยว : เปรี้ยวได้รู้จักพระพุทธศาสนาอย่างแท้จริงว่าพระพุทธองค์สอนอะไร ให้อะไร คือพระพุทธองค์ตรัสรู้จากทุกข์ เพราะฉะนั้นกลายเป็นว่าเราได้สติและปัญญาในการใช้ชีวิตอย่างมาก แล้วความทุกข์ทั้งหลายที่เจอมา เปรี้ยวดีใจมากที่เปรี้ยวได้เจอมัน มันเป็นของขวัญที่ล้ำค่าที่สุด คือถ้าเราไม่เจอทุกข์ในครั้งนี้ เปรี้ยวก็ไม่สามารถมีสติและมีปัญญาในการใช้ชีวิตนี้ได้
เปรี้ยวเคยคิดอยากจะเป็นถึงบุตรองค์พระสัมมาสัมพุทธเจ้า เข้าใกล้ท่านให้ได้มากที่สุดถึงขนาดอยากจะโกนหัวบวชชีเลยเหรอ ?
เปรี้ยว : ใช่ค่ะ จริง ๆ อันนี้เป็นเป้าหมายของเปรี้ยวตั้งแต่เด็กแล้ว แต่เราลืมไปหมดแล้ว พอตอนเราเข้าวัดถ้ำขวัญเมือง ที่ชุมพร มันเหมือนกลายเป็นเดจาวู เหมือนความฝันเราย้อนกลับมาว่า จริง ๆ แล้วเราอยากบวชตั้งแต่เด็ก
แสดงว่าอีกหน่อยถ้าหมดเรื่องปัญหาต่าง ๆ ก็อยากจะโกนหัวบวชด้วย ?
เปรี้ยว : อันนั้นเป็นเป้าหมายในชีวิตเลยค่ะ
ติดตามรายการ "คุยเช้า Show" ได้ทุกวันจันทร์-ศุกร์ 07.00-08.00 น. ทางช่อง one 31 Facebook Page : คุยเช้าShow และรับชมย้อนหลังได้ที่ Youtube Channel : Orange Mama
