ตูน บอดี้สแลม เปิดใจก่อนวิ่ง เบตง-แม่สาย ลั่นถึงตายก็ไม่เสียดายชีวิต

          ตูน บอดี้สแลม เปิดใจก่อนวิ่ง เบตง-แม่สาย เพื่อหาเงินซื้ออุปกรณ์ทางการแพทย์ให้กับ 11 รพ. เผยหากตัวเองตายก็ไม่เป็นไร

          หลังนักร้องหนุ่ม ตูน บอดี้สแลม ได้เดินทางถึง อ.เบตง จ.ยะลา เพื่อเตรียมออกวิ่งกับโครงการ "ก้าวคนละก้าวเพื่อ 11 โรงพยาบาลทั่วประเทศ" จัดทำขึ้นเพื่อหาเงินบริจาคซื้ออุปกรณ์ทางการแพทย์ให้กับ 11 โรงพยาบาลที่ยังขาดแคลน โดยเป้าหมายครั้งนี้จะเป็นการวิ่งจากสุดเขตแดนใต้ไปจนถึงเหนือสุดแดนสยาม บนระยะทาง 2,191 กิโลเมตร วิ่ง 55 วัน เบตง - แม่สาย ซึ่งครั้งนี้เป็นก้าวที่ไกลที่สุดในชีวิตของ ตูน บอดี้สแลม เป็นที่เรียบร้อยและเตรียมตัวออกวิ่งในวันที่ 1 พฤศจิกายน 2560 นั้น (อ่านข่าว พร้อมแล้ว ! ตูน บอดี้สแลม ถึงเบตง เตรียมออกวิ่งก้าวคนละก้าว 1 พ.ย. นี้)
          ล่าสุด (30 ตุลาคม 2560) หนุ่มตูน ก็ได้ออกมาเปิดใจถึงเรื่องนี้ผ่านรายการ ทางช่อง 3 ว่า จริง ๆ ไม่ได้คิดว่าเป็นความรับผิดชอบของตน แค่อยากทำอะไรที่เราสามารถทำได้ มันคือพลังของคนไทยคนละเล็กคนละน้อยที่ออกมาช่วยกัน จากคนที่จ้องมองเราอยู่ เราก็แค่อยากสื่อสารให้คนกลุ่มนี้ได้รับรู้ปัญหาที่เรารู้มา ตนไม่ได้คิดว่าทุกอย่างเป็นความรับผิดชอบของตนที่ต้องทำทุกอย่างให้ดีขึ้นเพราะจะไม่มีความสุข จะมองว่ามันเกินตัว แต่ตนคิดว่าตนช่วยสื่อสารให้ทุกคนเข้าใจได้ ตนตั้งต้นจากความสุข ความสนุกที่ได้ทำ


          โดย หนุ่มตูน ยังเผยอีกว่า ตอนตนวิ่งไปบางสะพาน ลึก ๆ ในใจก็ไม่รู้ว่ามันจะเป็นได้หรือเปล่า ทุกคนก็รู้สึกว่ามันยาก แต่ก็ทำจากสิ่งที่น่าจะเป็นไปได้ วางแผนสิ่งต่าง ๆ ซึ่งครั้งนี้ก็น่าจะเป็นไปได้ ถ้าเราวางแผนดี ๆ ซึ่งก็อาจจะมีปัญหาบ้าง มีบาดเจ็บ ต้องพีคเกินที่วางไว้ หรือการยกเลิกเส้นทางต่าง ๆ แต่เรารู้ตัวว่าทำอะไรและทำในสิ่งที่รู้ตัวทำในสิ่งที่เราอยากทำ ซึ่งการช่วยโรงพยาบาลมันเป็นเรื่องใหญ่และต้องใช้เงินจำนวนมากที่จะเห็นการเปลี่ยนแปลงอย่างเป็นรูปธรรม

          ถ้าตนจัดงานวิ่งแค่ 10 กิโลเมตรในสวนสาธารณะที่กรุงเทพฯ ก็อาจจะมีคนสมัครมาวิ่ง แต่สุดท้ายก็อาจจะลืมว่าปลายทางเราเอาเงินไปทำอะไร เหรือสิ่งที่เราจะสื่อสารมันใหญ่แค่ไหน มันฉาบฉวยเกินไปที่จะทำ เรื่องที่เราจะสื่อสารมันใหญ่โตกว่านั้นก็ต้องใช้วิธีเกินจริงสักหน่อยให้เขาหันมามอง เรียกแขกให้มามอง ซึ่งเหลืออีก 1 วันก็จะเริ่มวิ่งแล้ว ตนคิดแค่ว่าตนอยากมีสติให้พร้อมวิ่งในวันแรกไปจนจบ มีสติตั้งมั่นอยู่กับเหตุและผล ปลายทางที่ผมจะวิ่งไปเพื่ออะไร


          ส่วนเรื่องการวิ่งในครั้งนี้ที่มีคนมองว่าอาจทำให้เจ้าตัวตายได้นั้น หนุ่มตูน ตอบว่า ตนไม่เสียดายชีวิต แค่คิดว่าทุกคนต้องตาย ถ้าจะเป็นเพราะงานนี้ก็โอเค อาจจะพูดเห็นแก่ตัวไปหน่อย ไม่คิดถึงพ่อแม่หรือคนรัก แต่ตนเชื่อว่า หนึ่ง ตนไม่ตายแน่ๆ แต่หากผมต้องเสียชีวิตจากงานนี้ก็แค่ไม่เป็นไร เพราะตั้งใจจะทำแล้ว อุบัติเหตุมันเกิดขึ้นได้มันไม่แน่นอน แต่ถ้าเอาเรื่องพวกนี้มาเป็นตัวตั้งที่จะทำหรือไม่ทำอะไร ชีวิตมันก็จะไม่ได้ทำอะไรเลย เราคิดว่าจะออกไปเจอนั่นนี่ จะออกไปตาย มันไม่สนุก คืออาจจะมองว่าผมบ้าบอ แต่ปลายทางถ้ามันจะช่วยชีวิตคนได้อีกเยอะแยะมากมายได้ต่อชีวิตเขา ตนมองว่ามันคุ้ม

          หนุ่มตูน ยังได้ปิดท้ายด้วยการขอบคุณคนไทยทุกคนที่เข้ามาช่วยเหลือ คนรอบข้างที่ตนไปรบกวนในครั้งที่แล้ว รวมถึงครั้งนี้ที่จะเกิดขึ้นก็หวังว่าจะได้รับการช่วยเหลือไม่ต่างจากครั้งที่แล้ว โครงการของเราอยากให้คนเห็นค่าของเงินจำนวนน้อย ๆ จากคนเยอะ ๆ ตนอยากจะได้เงิน 10 จากทุกคนเอามากองรวมกัน แล้วไปกระจายให้กับ 11 โรงพยาบาล เพื่อช่วยชีวิตคน


ภาพและข้อมูลจาก NANAKE555, Instagram artiwara, rachwinwong