x close

หญิงทุ่มเทรีดน้ำหนัก จาก 108 เหลือ 54 กก. ไม่ใช่เพื่อตัวเอง แต่เพื่อชีวิตคนที่เธอรัก




          แม่ลูก 2 ชาวออสเตรเลีย อยากบริจาคไตให้สามี แต่ทำไม่ได้ เพราะน้ำหนักเกิน ตัดสินใจรีดน้ำหนัก จาก 108 กก. เหลือ 54 กก. ในที่สุด เพื่อช่วยชีวิตคนที่เธอรัก
ลดน้ำหนัก

          ถ้าชีวิตของคนที่เรารักกำลังตกอยู่ในความเสี่ยง ถ้าเขากำลังป่วยหนักและกำลังจะถึงจุดที่เลวร้ายที่สุด แล้วเราคือตัวเลือกเดียวและตัวเลือกสุดท้ายที่จะทำให้เขามีชีวิตอยู่ได้ เชื่อว่าหลาย ๆ คนคงยอมทำทุกอย่างเพื่อให้เขามีชีวิตรอด แม้ว่าจะต้องเสียสละอย่างใหญ่หลวงก็ตาม นั่นคือสิ่งที่เกิดขึ้นกับคุณแม่ลูก 2 ชาวออสเตรเลีย ที่ชื่อ ซีนนารา สตาเลนฮอฟ โดย แมตต์ สามีของเธอ ถูกวินิจฉัยว่าป่วยเป็นโรคทูเบอรัส สเคลอโรซิส (tuberous sclerosis) หรือโรคความผิดปกติทางพันธุกรรม ซึ่งส่งผลกระทบต่อไตของเขา มันเสื่อมอายุและมีสภาพเหมือนกับไตคนแก่อายุ 70-80 ปี ทั้ง ๆ ที่เขายังอายุไม่มาก ทางเดียวที่เขาจะมีชีวิตรอดต่อไปได้คือต้องได้รับการปลูกถ่ายไตใหม่ ซีนนาราผู้เป็นทุกข์จึงยินดีบริจาคไตให้สามี

          ข่าวดีก็คือ ผลตรวจต่าง ๆ ระบุว่าไตของเธอสามารถเข้ากับเขาได้ดี แต่ข่าวร้ายก็คือ เธอไม่สามารถเป็นผู้บริจาคได้ เนื่องจากน้ำหนักตัวเธอมากเกินไป เมื่อซีนนารารับรู้เรื่องนี้ เธอจึงตัดสินใจเปลี่ยนแปลงชีวิตตัวเองเสียใหม่ ยอมทำทุกอย่างที่ไม่เคยคิดจะทำมาตลอดชีวิต ไม่ใช่เพื่อตัวเธอเอง แต่เพื่อคนที่เธอรัก

          เรื่องราวของซีนนาราถูกหยิบยกมารายงานโดยเว็บไซต์ไลฟ์บัซ เมื่อวันที่ 22 เมษายน 2561 โดยในช่วงกลางปี 2558 ซีนนารามีน้ำหนักตัวมากถึง 108.9 กิโลกรัม และเธอจำเป็นต้องลดลงให้เหลือ 72 กิโลกรัม ซึ่งเป็นน้ำหนักตัวของเธอก่อนจะมีลูก เธอถึงจะสามารถบริจาคไตให้กับสามีได้ และเธอตระหนักได้ว่าเธอจำเป็นต้องเปลี่ยนแปลงชีวิตตัวเองอย่างเร่งด่วน เพราะแพทย์กล่าวกับเธอว่า ตราบใดที่เธอยังชอบกินเค้กอยู่ทั้งวันแบบนี้ เธอก็ไม่สามารถช่วยชีวิตคนที่เธอรักได้

ลดน้ำหนัก

          การที่คนมีน้ำหนักตัวมากอย่างซีนนารา อยู่ดี ๆ ก็ลุกขึ้นมาออกกำลังเพื่อรีดน้ำหนักทั้งที่ไม่เคยทำมาก่อน มันไม่ใช่เรื่องง่ายเลย เรียกว่าโหดหินสุด ๆ ยังได้ ความรู้สึกหลังจากออกไปวิ่งได้ 2-3 ครั้ง มันทรมานมาก แข้งขา ข้อต่อต่าง ๆ มันเจ็บปวดรวดร้าวไปหมด ซีนนาราเริ่มเครียดเพราะความกดดันที่เธอแบกเอาไว้บนบ่า เธอคิดว่าลำพังแค่การออกกำลังกายเพียงอย่างเดียว ไม่มีทางทำให้เธอลดน้ำหนักตัวลงได้รวดเร็วตามใจนึก และเธอคงช่วยสามีไม่ทัน เธอจึงตัดสินใจเข้ารับการผ่าตัดกระเพาะอาหาร โดยเธอแอบไปทำโดยที่ไม่ได้บอกคนที่บ้าน

          หลังจากการผ่าตัดเสร็จสิ้นลง ซีนนาราก็สาบานกับตัวเองว่าเธอจะเปลี่ยนแปลงการใช้ชีวิตทุกอย่าง เธอไม่คิดผ่าตัด ดูดไขมัน หรือทำอะไรเพื่อลดน้ำหนักทางลัดอีก โดย 1 สัปดาห์หลังการผ่าตัด ซีนนาราเริ่มควบคุมอาหารอย่างเคร่งครัดไปพร้อม ๆ กับการออกกำลังกาย เริ่มต้นจากการเดินในระยะสั้น ๆ เมื่อร่างกายเริ่มคุ้นชิน เธอก็เริ่มต้นออกวิ่งสลับกับเดิน หลังจากนั้นก็วิ่งได้มากขึ้น เธอพัฒนาตัวเองมากขึ้นเรื่อย ๆ และจากหญิงร่างใหญ่น้ำหนักเกิน 100 กิโลกรัม ก็กลายเป็นหญิงแข็งแรงที่สามารถวิ่งมาราธอนได้ และน้ำหนักตัวก็ลดไปมากกว่า 50 กิโลกรัม

ลดน้ำหนัก

          "ฉันเข้ารับการผ่าตัดกระเพาะอาหารในเดือนกุมภาพันธ์ 2559 และเริ่มออกกำลังกายแบบ boot camp ในเดือนพฤษภาคม ฉันออกวิ่งครบ 5 กิโลเมตรได้สำเร็จเป็นครั้งแรกในเดือนกันยายน และในเดือนมีนาคม 2560 ฉันก็วิ่งต่อเนื่องได้ 10 กิโลเมตร ฉันตัดสินใจลงแข่งขันวิ่งฮาล์ฟมาราธอนเป็นครั้งแรกในเดือนกันยายน 2560 ค่ะ และในการวิ่งอัลตรามาราธอน เมื่อเดือนมีนาคม 2561 ฉันก็เข้าร่วมด้วยค่ะ" ซีนนารา กล่าวถึงพัฒนาการด้านการออกกำลังกายของเธอ ตลอดช่วง 2 ปีที่ผ่านมา

          สำหรับสุขภาพของแมตต์นั้น ก็ย่ำแย่ลงตามลำดับ ไตของเขาทำงานได้แค่ 28 เปอร์เซ็นต์เท่านั้น แต่การปลูกถ่ายก็ยังไม่สามารถทำได้ทันที เพราะต้องรอจนกว่าการทำงานของไตจะลดลงเหลือ 15-20 เปอร์เซ็นต์ อีกประเด็นที่น่าเป็นห่วงก็คือแพทย์พบว่ามีเนื้องอกอยู่ในไตของแมตต์ ถ้าเนื้องอกนี้คือเนื้อร้ายที่เป็นเซลล์มะเร็ง เขาจะต้องได้รับการฟอกไตเป็นเวลา 2 ปี ถึงจะสามารถปลูกถ่ายได้ อย่างไรก็ตาม ครอบครัวก็ยังมองโลกในแง่ดีและมีความหวัง ซีนนาราพร้อมบริจาคไตให้สามีได้ทุกเมื่อ และเธอจะยังคงออกกำลังกายทุกวัน เพื่อให้ร่างกายแข็งแรง จนกว่าวันนั้นจะมาถึง

ลดน้ำหนัก

ลดน้ำหนัก

ลดน้ำหนัก

ลดน้ำหนัก

ลดน้ำหนัก

ลดน้ำหนัก

ลดน้ำหนัก

ภาพจาก เฟซบุ๊ก TheShrinkingWife
ข้อมูลจาก dailymail.co.uk


เรื่องที่คุณอาจสนใจ
หญิงทุ่มเทรีดน้ำหนัก จาก 108 เหลือ 54 กก. ไม่ใช่เพื่อตัวเอง แต่เพื่อชีวิตคนที่เธอรัก อัปเดตล่าสุด 24 เมษายน 2561 เวลา 11:54:30 16,447 อ่าน
TOP