ลำไย ไหทองคำ ไม่หวั่น หลังอดีต ผจก. ฟ้อง ยอมรับว่านอยด์ ที่โดนด่าอกตัญญู

          ลำไย ไหทองคำ ไม่กังวลใจ หลังถูกอดีตผู้จัดการยื่นฟ้อง เชื่อทุกคนรู้อยู่แก่ใจ แต่ยอมรับว่านอยด์ เพราะโดนกล่าวหาว่าอกตัญญู
          ยังคงฮอตและกระแสแรงอย่างต่อเนื่อง สำหรับนักร้องลูกทุ่งสาวเซ็กซี่ ลำไย ไหทองคำ แต่นอกจากจะมีงานร้องเพลงและอีเวนต์เข้ามาอย่างไม่ขาดสายแล้ว ก็ยังมีเรื่องราววุ่นวายให้ปวดหัวเช่นกัน เพราะคดีความที่ ณรงค์วัฒน์ ยันตะพันธ์ หรือ บ่าวเอก เมืองสกล อดีตผู้จัดการ ได้ยื่นฟ้องร้องสาวลำไย และ ประจักษ์ชัย เนาวรัตน์ ผู้บริหารค่ายไหทองคำซึ่งเป็นผู้จัดการของลำไยคนปัจจุบัน ยังคาราคาซังไม่จบ

          โดยวันที่ 26 สิงหาคม 2561 รายการห้องข่าวบันเทิง ทางช่องเวิร์คพอยท์ ได้มีโอกาสพูดคุยกับเจ้าตัว จึงได้สอบถามถึงกรณีคดีความที่เกิดขึ้น โดย ลำไย กล่าวว่า เรื่องนี้ตนได้ให้ทนายเป็นคนจัดการ ส่วนตัวไม่หนักใจ เพราะเชื่อว่าทุกคนรู้อยู่แก่ใจ และอยากให้ทุกอย่างจบด้วยดีไม่อยากให้มีปัญหา สำหรับข่าวที่ออกมานั้น แม้ว่าจะโดนกระแสโซเชียลโจมตีบ้าง แต่ก็ไม่ได้กระทบงานแต่อย่างใด แต่ก็ยอมรับว่ารู้สึกนอยด์ที่โดนกล่าวหาว่าอกตัญญู


          สำหรับรายละเอียดคดีความของลำไยนั้น ข้อมูลจากสำนักข่าวไอเอ็นเอ็น ระบุว่า บ่าวเอก ได้ยื่นฟ้อง ลำไย ไหทองคำ และ ประจักษ์ชัย ผู้จัดการและผู้บริหารค่ายไหทองคำ ในความผิดต่อ พ.ร.บ.ลิขสิทธิ์ พ.ศ. 2537 ตั้งแต่เดือนมิถุนายน 2560 โดย ลำไย และผู้จัดการ ได้ยื่นขอเจรจาไกล่เกลี่ยในช่วงเดือนกุมภาพันธ์-มิถุนายน 2561

          สัญญาที่บ่าวเอกและลำไยมีปัญหากันนั้น เป็นสัญญาที่ลงนามกันทั้ง 2 ฝ่าย มีกำหนดสัญญา 5 ปี เริ่มตั้งแต่วันที่ 12 สิงหาคม 2557 - 12 สิงหาคม 2562 และจากการไกล่เกลี่ย ผลคือทั้งสองฝ่ายตกลงกันไม่ได้ เนื่องจากฝั่งลำไยและผู้จัดการได้ปฏิเสธการจ่ายค่าเสียหายจำนวน 3 ล้านบาท ซึ่งอ้างว่าแพงเกินไป ศูนย์ไกล่เกลี่ยจึงส่งคดีกลับเข้าสู่การพิจารณาคดีอีกครั้ง

          นายธนดล ธรณ์ธนากุล หรือ ทนายโจ ทนายของบ่าวเอก กล่าวว่า ศาลได้นัดคู่กรณีมาเจรจาไกล่เกลี่ย 3-4 ครั้งแล้ว แต่อีกฝ่ายหลบเลี่ยงมาโดยตลอด ไม่เคยมาด้วยตัวเองเลยสักครั้ง

          ทั้งนี้ศาลทรัพย์สินทางปัญญาและการค้าระหว่างประเทศกลาง ได้นัดไต่สวนพยานปากแรก ซึ่งก็คือ บ่าวเอก เมื่อวันที่ 20 สิงหาคม ที่ผ่านมา และจะนัดสอบพยานปากที่สอง คือ นายชายชมภู ไชยคำ อายุ 48 ปี พยานฝ่ายโจทก์ ผู้ซึ่งลำไยเคยนับถือเป็นพ่อบุญธรรม ในวันที่ 10 กันยายน

          หลังจากนั้น ศาลจะพิจารณาว่าคดีมีมูลหรือไม่ ถ้าศาลประทับรับฟ้องความ ทั้งสองฝ่ายก็จะต้องมารับฟังคำสั่งศาลต่อไป