ดีเจเอกกี้ เผยชีวิตผกผันก่อนเรียนจบ หลังใช้เวลาเรียนมา 12 ปีเต็มกว่าจะคว้าปริญญาตรี ตอนนั้นทั้งติดแฟน หึงแฟน ทำงานไปด้วยเรียนไปด้วย เลยไม่ดีสักอย่าง แต่มามีจุดเล็ก ๆ ที่คิดได้ จนชีวิตสวยเริดอย่างทุกวันนี้
ภาพจาก Instagram djeaky
ชีวิตในรั้วมหาวิทยาลัยนั้น ถือเป็นช่วงชีวิตหนึ่งที่ดีที่สุดสำหรับใครหลาย ๆ คน ทั้งได้เริ่มเป็นอิสระเต็มที่ ได้เจอเพื่อนที่รัก และมุ่งมั่นกับการเรียนเพียงอย่างเดียว แต่จะเป็นอย่างไรหากชีวิตในมหาวิทยาลัยไม่ใช่แค่ 4 ปี แต่เป็น 12 ปีแบบดีเจเอกกี้
โดยล่าสุด (27 ธันวาคม 2561) ดีเจเอกกี้ ได้ออกมาเผยให้ฟังถึงชีวิตที่ผกผันของตัวเองว่า ตนใช้เวลากว่าที่จะเรียนจบปริญญาตรีคือ 12 ปี โดยช่วงระยะเวลา 8 ปีนั้นตนดรอปเรียน และมาเรียน 4 ปี ส่วนสาเหตุที่ดรอปเรียนนั้น เนื่องจากตอนนั้นคิดว่า ตัวเองต้องทำงานช่วยครอบครัว คิดว่าหยุดเรียนไปก่อนค่อยมาว่ากัน ตนรับทำงานเล็กงานน้อยไม่เกี่ยงเงิน อีกทั้งวิชาที่เรียนนั้นก็ยาก ถอดใจ ไม่มีเวลา ขี้เกียจเรียน และยังมีเรื่องความรัก ที่ทุ่มเทโดยขาดสติ
โดยล่าสุด (27 ธันวาคม 2561) ดีเจเอกกี้ ได้ออกมาเผยให้ฟังถึงชีวิตที่ผกผันของตัวเองว่า ตนใช้เวลากว่าที่จะเรียนจบปริญญาตรีคือ 12 ปี โดยช่วงระยะเวลา 8 ปีนั้นตนดรอปเรียน และมาเรียน 4 ปี ส่วนสาเหตุที่ดรอปเรียนนั้น เนื่องจากตอนนั้นคิดว่า ตัวเองต้องทำงานช่วยครอบครัว คิดว่าหยุดเรียนไปก่อนค่อยมาว่ากัน ตนรับทำงานเล็กงานน้อยไม่เกี่ยงเงิน อีกทั้งวิชาที่เรียนนั้นก็ยาก ถอดใจ ไม่มีเวลา ขี้เกียจเรียน และยังมีเรื่องความรัก ที่ทุ่มเทโดยขาดสติ
ภาพจาก Instagram djeaky
อย่างไรก็ตาม ตนเคยไปดูหมอดู และซินแสก็ทักมาว่า ตนเรียนจบแน่นอน แต่จบช้า และถ้าเรียนจบชีวิตจะสบาย ตนจะรวยด้วยปาก ซึ่งตอนเรียนไม่ว่าจะทำงานหนักขนาดไหนก็ได้แค่นั้น เป็นทั้งดีเจตอนตี 2 อัลบั้มเดี่ยวในชีวิตก็ไม่ได้ออก
สุดท้าย จุดพลิกผันมาอยู่ที่ตนอกหัก แล้วคิดได้ ตนจึงลุกขึ้นมาใส่ใจตัวเอง ปล่อยให้เป็นแบบนี้ชีวิตมีแต่จะพัง ตนจึงกลับไปเรียนให้จบ หยุดเรื่องความรัก ตั้งใจทำงาน ตั้งใจเรียน และคว้าปริญญาตรีใบแรกได้ตอนที่อายุ 30 ปี
หลังจากนั้น ชีวิตของตนก็ดีขึ้นอย่างที่ซินแสว่า จนกลายเป็นดีเจเอกกี้ในปัจจุบัน
"ชีวิตผมไม่เคยคาดหวังว่าต้องไปถึงจุดไหน ผมทำทุกอย่างด้วยใจ ด้วยความสุข ไม่ชอบการแก่งแย่งเพื่อให้ได้มา ไม่ชอบเปรียบเทียบกับใครเลย เอาตัวเองเป็นที่ตั้ง คิด และพัฒนาตัวเอง ทำงานให้ทุกคนมีความสุข ชีวิตจะขึ้นจะลง ฟ้าลิขิตไว้แล้ว แค่เราไม่ทำชั่ว ไม่ทำร้ายใครลับหลัง คิดได้นะแต่ไม่ต้องทำ ยับยั้งชั่งใจให้ได้กับเรื่องที่ไม่ควรเป็นพอ"
แม้จะใช้เวลานาน แต่สุดท้ายก็ผ่านมาได้ ขอปรบมือให้เอกกี้นะคะ
สุดท้าย จุดพลิกผันมาอยู่ที่ตนอกหัก แล้วคิดได้ ตนจึงลุกขึ้นมาใส่ใจตัวเอง ปล่อยให้เป็นแบบนี้ชีวิตมีแต่จะพัง ตนจึงกลับไปเรียนให้จบ หยุดเรื่องความรัก ตั้งใจทำงาน ตั้งใจเรียน และคว้าปริญญาตรีใบแรกได้ตอนที่อายุ 30 ปี
หลังจากนั้น ชีวิตของตนก็ดีขึ้นอย่างที่ซินแสว่า จนกลายเป็นดีเจเอกกี้ในปัจจุบัน
"ชีวิตผมไม่เคยคาดหวังว่าต้องไปถึงจุดไหน ผมทำทุกอย่างด้วยใจ ด้วยความสุข ไม่ชอบการแก่งแย่งเพื่อให้ได้มา ไม่ชอบเปรียบเทียบกับใครเลย เอาตัวเองเป็นที่ตั้ง คิด และพัฒนาตัวเอง ทำงานให้ทุกคนมีความสุข ชีวิตจะขึ้นจะลง ฟ้าลิขิตไว้แล้ว แค่เราไม่ทำชั่ว ไม่ทำร้ายใครลับหลัง คิดได้นะแต่ไม่ต้องทำ ยับยั้งชั่งใจให้ได้กับเรื่องที่ไม่ควรเป็นพอ"
แม้จะใช้เวลานาน แต่สุดท้ายก็ผ่านมาได้ ขอปรบมือให้เอกกี้นะคะ
