x close

เอ เชิญยิ้ม เล่าชีวิตต้องสู้ ทำงานตั้งแต่ 9 ขวบ เคยอดถึงขั้นเก็บเศษอาหารกิน !

             เอ เชิญยิ้ม เล่าชีวิตต้องต่อสู้ ดิ้นรนทำงานตั้งแต่ 9 ขวบ เคยลำบากถึงขนาดเก็บเศษอาหารกิน ก่อนผันตัวเป็นตลก และเคยต้องตกงานเพราะเลือกความรัก

             เป็นอีกหนึ่งตลกคนดังที่สามารถสร้างเสียงหัวเราะให้แฟน ๆ ทั้งประเทศ สำหรับ เอ เชิญยิ้ม แต่ในชีวิตจริงของเขากว่าจะมีชื่อเสียงอย่างทุกวันนี้ได้ไม่ใช่เรื่องง่ายเลยจริง ๆ ต้องทำงานมาแล้วหลายอย่าง หนักสุดถึงขั้นไปกินของเหลือจากคนอื่น โดยล่าสุด (5 เมษายน 2562) เอ เชิญยิ้ม ก็ได้มาเปิดใจผ่านทางรายการ คุยแซ่บShow ทางช่อง One31 ที่มีธัญญ่า ธัญญาเรศ และเป็กกี้ ศรีธัญญา เป็นพิธีกร

- ชีวิตวัยเด็กเป็นยังไง ?

             เอ เชิญยิ้ม : เป็นเด็กบ้านแตก คือคุณพ่อกับคุณแม่แยกทางกัน ตั้งแต่ผม 3 ขวบ ผมก็อยู่กับคุณพ่อมาตลอด ตอนเด็ก ๆ ก็มีคำถามเหมือนกันว่าแม่ไปไหน แต่พ่อก็ไม่ได้บอกให้เราเกลียดแม่ พ่อบอกว่ามีเหตุผลของผู้ใหญ่ที่ทำให้ไม่สามารถร่วมชีวิตกันได้ เราก็เข้าใจ อยู่กับพ่อมาตลอดโดยที่คุณพ่อไม่มีภรรยาใหม่เลย

- เคยถามพ่อไหมว่าทำไมแม่ถึงไป ปกติลูกจะอยู่กับแม่ แต่เราอยู่กับพ่อ เพราะอะไร ?

             เอ เชิญยิ้ม : คุณพ่อถึงกับหอบลูกหนีในช่วงที่แยกกัน ต่างคนต่างแย่งลูก พ่อก็หอบลูกหนีไปอยู่ต่างจังหวัด ไปอยู่ในที่ที่แม่ไม่สามารถตามได้

- เคยเจอคุณแม่บ้างไหม ?

             เอ เชิญยิ้ม : เคยเจอเมื่อ 20 ปีที่แล้ว แล้วตอนนี้แม่ก็เสียชีวิตไปแล้ว

- เห็นว่ามีช่วงที่คุณพ่อตกงาน ช่วงนั้นเป็นยังไงบ้าง ?

             เอ เชิญยิ้ม : คุณพ่อก็เปลี่ยนอาชีพจากตลกไปขายของ ไปขายลูกชิ้น ทำหลาย ๆ อย่างเพื่อหาเงินเลี้ยงลูก ในช่วงที่ลำบาก ไม่มีเงินจริง ๆ เราก็ดิ้นรนไปขายเรียงเบอร์ตามตลาดสด ตอนนั้นฐานะทางบ้านยากจน ลำบาก

 

- เริ่มทำงานตั้งแต่อายุเท่าไร ?

             เอ เชิญยิ้ม : ประมาณ 9 ขวบ ตามคุณพ่อไปคาเฟ่ แล้วขึ้นเวทีเล่นตลก เมื่อก่อนเพื่อนพาไปไหนก็ทำหมดเพื่อให้ได้เงิน คือเงินจะซื้อขนมกินในบางวันมันไม่มี เชื่อไหมน้ำอัดลมในยุคนั้นเดือนนึงนับครั้งได้ว่าจะกินได้กี่ครั้ง  

- จำได้ไหมความรู้สึกหดหู่กับอาชีพที่เราได้ทำตอนเด็กคืออาชีพอะไร ?

             เอ เชิญยิ้ม : มันไม่มีนะ มันรู้สึกสนุกกับสิ่งที่ทำ ไม่ได้รู้สึกรันทดหรือหดหู่อะไร

- เห็นว่าอยากทานอาหารฟาสต์ฟู้ดด้วย ?

             เอ เชิญยิ้ม : มันเป็นช่วงตกงาน เราไปหางานห้างแถวบางกะปิ มันเป็นช่วงผลัดเปลี่ยนว่าเราจะเลือกทางไหน คือผมเล่นตลกตั้งแต่เด็ก ๆ พอถึงช่วงสิบกว่าขวบก็มีโอกาสไปทำงานกลางวัน แล้วเราก็ไปหางานแถวฟาสต์ฟู้ดในห้างนั้นแล้วหิวข้าวไม่มีข้าวกิน เงินก็ไม่มี ก็ยืนมองคนที่เขากิน เขาทานเสร็จเขาก็ลุกไป เราก็มองซ้าย มองขวา เราก็ไปนั่งกิน ทีนี้ทางผู้จัดการเขามาเห็นเราก็บอกว่าเราไม่มีงานทำ

- อายไหมตอนเขามาเห็น ?

             เอ เชิญยิ้ม : คือก่อนหน้านั้นเราขึ้นไปสมัคร แล้วเขาจำเราได้ ก็ปรากฏว่าได้ทำงานนั้น ก็ได้เป็นพนักงานเก็บจาน ซึ่งทำงานช่วงแรกยังไม่มีเงินเดือน มื้อกลางวันก็อาศัยตรงนี้

- เรารู้สึกน้อยใจในโชคชะตาบ้างไหม ?

             เอ เชิญยิ้ม : ไม่ครับ ณ ช่วงเวลานั้นเราต้องเอาตัวเองให้รอด พอเงินเดือนเราออกเราก็มีเงินต่อชีวิตในเดือนต่อ ๆ ไป แต่ที่เก็บอาหารทานไม่ได้ทำตลอดนะ ทำแค่ช่วงแรกตอนที่ไม่มีเงินเท่านั้น ถามว่าเพื่อนล้อไหม ไม่ครับ เพราะเราไม่ทำให้คนอื่นเห็น แอบใส่ถุงแอบไปกินในห้องน้ำ

- ด้วยความขยันเห็นบอกว่าหลังจากเก็บจานก็ได้เลื่อนตำแหน่งมาเรื่อย ๆ จนเป็นผู้จัดการ ?

             เอ เชิญยิ้ม : ยังไม่ถึงขั้นผู้จัดการ จากเก็บจานได้สักพักนึงก็ไปเก็บรถเข็นอยู่ลานจอดรถ จากนั้นก็เลื่อนขั้นมาเป็นแพ็กกิ้ง ตอนนั้นเงินเดือนออก 2 ครั้ง ครั้งละ 2 พันกว่าบาท เดือนนึงก็ได้ 4 พันกว่าบาท ถามว่าพอไหม ช่วงนั้นมันก็สิบกว่าขวบคิดว่าเยอะแล้ว จากนั้นก็ไปช่วยเขาโฟนแผนกโปรโมชั่น ก็เลยมาเป็นพนักงานโฟนสินค้า เงินเดือนก็เพิ่มขึ้นนิดหน่อย แต่ก็ยังอยู่ที่ 4 พันกว่าเหมือนเดิม

 

- แล้วผกผันมาเป็นตลกอาชีพตั้งแต่เมื่อไร ?

             เอ เชิญยิ้ม : พอมาเป็นพนักงานแผนกโปรโมชั่น ห้างสาขาใหม่กำลังจะเปิด เขาก็บอกว่าถ้าคุณยอมออกจากที่นี่แล้วไปอยู่สาขาต่างจังหวัด คุณจะได้เลื่อนขั้นเป็นหัวหน้า ในช่วงนั้นมีพี่ที่เป็นตลกเขามาชวน เราก็เลือกระหว่างออกจากงานแล้วไปเล่นตลก กับย้ายไปอยู่ต่างจังหวัดเพื่อได้ตำแหน่ง

- ทำไมถึงเลือกไปเล่นตลก ?

             เอ เชิญยิ้ม : มันเป็นสิ่งที่เรารัก ก็เลยตัดสินใจออกจากงาน ตอนนั้นเราก็ไม่รู้ว่าสิ่งที่ตัดสินใจมันถูกหรือผิด แต่เราคิดว่าการที่เราตัดสินใจมาทำอาชีพตลก มันคือสิ่งที่เรารัก ถึงแม้ว่ามันจะลำบากหรือจะประสบความสำเร็จไหมเราไม่รู้ แต่เราได้อยู่กับสิ่งที่เรารัก

- ครั้งแรกที่เข้าคณะตลกคือคณะอะไร ?

             เอ เชิญยิ้ม : ได้ไปอยู่กับไมเคิล ยิ้ม ตอนนั้นยังไม่ได้ใช้เชิญยิ้ม แล้วก็มีช่วงที่ผลัดเปลี่ยน ตอนนั้นคือ พี่หนู เชิญยิ้ม มาตั้งคณะ พี่ไมเคิลก็เลยบอกว่าฝากน้องด้วย ก็ได้เป็นตัวแถมเข้าไปในคณะ

- ณ ตอนนั้น รายได้ ?

             เอ เชิญยิ้ม : รายได้ก็ดีขึ้นมา วันละประมาณ 2 พันกว่าบาท ตอนนั้นชีวิตเปลี่ยน ผมให้พ่อหยุดทำงานเลย ไม่ต้องไปดิ้นรนอะไรเลย ลูกจะเลี้ยงพ่อเอง

- เห็นว่าโดนพักงาน ?

             เอ เชิญยิ้ม : ใช่ครับ สาเหตุมาจากผมมีแฟน คือตอนนั้นพี่หนูเขาดูแลผมไม่ใช่แค่ลูกน้อง ดูแลในลักษณะเหมือนน้องชาย ตอนนั้นก็กลายเป็นเราตกงาน

- ตอนนั้นเลือกความรัก ไม่เลือกงาน ?

             เอ เชิญยิ้ม : ใช่ครับ แล้วที่มาคบกับแฟนคนนี้ เพื่อน ๆ พี่ ๆ ในคณะเขาก็จะพูดกันว่ามันไปกันไม่รอดหรอก อายุห่างกันตั้ง 11 ปี ก็ไม่คิดว่าผู้หญิงที่เจอวันนั้นจะครองรักกันมาถึง 21 ปี

- เคยโดนล้อไหมว่ามีเมียแก่ ?

             เอ เชิญยิ้ม : มีครับ เวลาเจอเพื่อนเขาก็ถามว่าวันนี้ซื้อหมากให้เมียหรือยัง

- เคยลำบากมาด้วยกันถึงขั้นไหน ?

             เอ เชิญยิ้ม : ตอนนั้นผมก็ตกงาน ทุนทรัพย์ของภรรยาที่มีมาในช่วงแรกก็ดีอยู่ หลัง ๆ มาก็ลำบากอยู่ ช่วงที่มีลูกคนแรก ตลกก็ไปอยู่คณะเล็กลง รายได้ก็น้อยลง บางทีก็ไม่พอกิน ต้องหาอาชีพเสริม ไปขี่มอเตอร์ไซค์รับจ้าง กลางคืนเล่นตลก บางวันรายได้ไม่พอก็ไปเช่าแท็กซี่มาขับ คือดิ้นรนทุกทางเพื่อมาจุนเจือครอบครัว

- ที่มาร้องเพลงมันเกี่ยวไหมที่งานตลกเราลดลง ?

             เอ เชิญยิ้ม : ไม่เกี่ยวครับ แต่ว่ามันจะเกี่ยวเหตุผลที่ว่างานทีวีไม่ได้แน่นเหมือนในช่วง 4-5 ปีที่แล้ว ก็จะมีเวลาว่างที่จะมาทำงานเพลงหรืองานอื่น ๆ ได้บ้าง

 

             ติดตามรายการ คุยแซ่บShow ได้ทุกวันจันทร์-ศุกร์ เวลา 14.00-15.00 น. ทางช่อง One31 Facebook Page : คุยแซ่บShow รับชมย้อนหลังได้ที่ Youtube Channel : Orange Mama

เรื่องที่คุณอาจสนใจ
เอ เชิญยิ้ม เล่าชีวิตต้องสู้ ทำงานตั้งแต่ 9 ขวบ เคยอดถึงขั้นเก็บเศษอาหารกิน ! อัปเดตล่าสุด 7 เมษายน 2562 เวลา 20:58:54 6,687 อ่าน
TOP