ครูชลธี ธารทอง เปิดใจเหตุฟ้องหย่าเมีย หึงหวงหนักถึงขั้นทำร้ายร่างกาย อยากได้ชีวิตอิสระคืน ยืนยัน น้องเกด แค่ลูกศิษย์ ที่บอกจะแต่งงานแค่แซวเล่น ด้านครูปุ้ม ลั่น มีหลักฐานแต่ยังไม่งัดมาแฉ เพราะยังรัก ที่ผ่านมาดูแลอย่างดี ครูแค่เคี้ยวข้าวอย่างเดียว
จากกรณี นายสมนึก ทองมา อายุ 83 ปี หรือ ครูเพลงชลธี ธารทอง ศิลปินแห่งชาติสาขาศิลปะการแสดง (นักแต่งเพลงลูกทุ่ง) ปี 2542 ออกมาเปิดเผยว่าขณะนี้กำลังอยู่ระหว่างฟ้องหย่าภรรยา นางศศิวิมล ทองมา หรือ ครูปุ้ม อายุ 51 ปี ซึ่งอยู่กินกันตั้งแต่ปี 2536 และจดทะเบียนสมรสกันในปี 2538 พร้อมประกาศว่าหลังคดีความเสร็จสิ้นจะแต่งงานกับ น.ส.สกุลนัฐธิดา แจ้งประสงค์ หรือ เกด อายุ 29 ปี ทันที (อ่านข่าว : ครูเพลง ชลธี ธารทอง ฟ้องหย่าเมีย ลั่นคดีจบเมื่อไร แต่งเมียใหม่รุ่นหลานทันที)
ล่าสุด (18 พฤษภาคม 2562) รายการทุบโต๊ะข่าว ทางช่องอมรินทร์ ทีวี รายงานว่า ครูชลธี ธารทอง เปิดใจว่า ตนฟ้องหย่าภรรยา เพราะความหึงหวงที่มากเกินไป ตนเป็นบุคคลมีชื่อเสียง ย่อมมีคนมาห้อมล้อม แต่กลับถูกหึงหวงถึงขั้นทำร้ายร่างกาย ทนมานานกว่า 20 ปี ตนอยากเป็นอิสระ เพราะตนเป็นศิลปิน อยากมีความสงบเพื่อทำงานเพลง อยากใช้ชีวิตที่เหลืออยู่สร้างสรรค์ผลงานออกมาสู่โลก ตนตั้งใจจะตายคาปากกาเพราะชอบแต่งเพลง การทะเลาะกันเช่นนี้ ถือว่าขัดอุดมการณ์ของตน
สำหรับ เกด เป็นแฟนคลับ เป็นเด็กที่ชอบประกวดร้องเพลง ตนเป็นอาจารย์ที่เกดนับถือ เขาเป็นคนซื่อ คุยสนุก ไม่มีเล่ห์เหลี่ยม แต่สังคมมองตนว่าเป็นเฒ่าหัวงู แต่ก็ไม่อยากสนใจ อยากบอกว่าทุกคนเข้าใจผิด เรื่องนี้ตนอธิบายกับภรรยาแล้ว ซึ่งเกดไม่ใช่สาเหตุของการหึงหวง เพราะภรรยาหึงหวงมานานแล้ว ใครเข้าใกล้ตนก็ลำบาก
การฟ้องหย่าในครั้งนี้ ตนอยากให้ทุกอย่างจบ เราอยู่ร่วมกันไม่ได้แล้ว ขอแค่ชีวิตอิสระคืน ตนไม่สนใจทรัพย์สินใด ๆ ส่วนที่ภรรยาอ้างว่ามีหลักฐานพยานนั้น ตนไม่กังวลเพราะอยู่ที่ศาลจะเชื่อหรือไม่ ซึ่งตนบริสุทธิ์ใจกับเหตุการณ์นี้ ส่วนที่บอกจะแต่งงานกับเกด เป็นแค่การพูดแซวเล่นเท่านั้น
ด้าน น.ส.สกุลนัฐธิดา หรือ เกด ชี้แจงว่า เหตุการณ์นี้มีผลกระทบกับจิตใจพอสมควร เพราะมีคอมเมนต์ด่าไปถึงพ่อแม่ หากจะว่าอะไรขอให้ลงที่ตนคนเดียว อย่าลามไปถึงครอบครัว เพราะแม่ตนป่วยอยู่ ตนรักเคารพครูชลธีแบบพ่อ ไม่มีอะไรมากกว่านั้น ในบางครั้งที่ครูชลธีป่วย ตนก็มีโอกาสได้ดูแล ขับรถไปรับ-ส่งบ้าง ยืนยันไม่ได้มาปอกลอก เพราะตนก็มีเงินเก็บอยู่แล้ว ไม่เคยขอเงินครูใช้
ขณะที่ นางศศิวิมล หรือ ครูปุ้ม เปิดใจทางโทรศัพท์ว่า จิตใจตอนนี้เข้มแข็งขึ้น ตอนนี้ตนยังไม่นำหลักฐานที่มีอยู่ออกมา เพราะยังห่วง ยังรัก และยังอยากให้ครูชลธีคิดว่าเรื่องที่ครูเขียนในสำนวนศาลเป็นเรื่องจริงหรือไม่ ตลอดเวลาที่อยู่กันมา ร่วมทุกข์ร่วมสุขกันมา ครูชลธีมีหน้าที่ดูแลค่าใช้จ่ายบ้านก็จริง แต่ตนก็ช่วยเรื่องการดูแล ครูชลธีทำอย่างเดียวคือเคี้ยวข้าว ขนาดใส่กางเกงไม่ได้ ตนก็ใส่ให้ ใส่ถุงเท้าไม่ไหว ตนก็ใส่ให้ ครูชลธีไม่ต้องทำอะไรเลย
ทั้งนี้ ตนรักครูชลธีเหมือนเทพคนหนึ่ง ใครจะมาแตะต้องหรือด่าว่าเสียหายไม่ได้ ตนยอมตายแทนครูได้ แต่วันนี้เมื่อครูไปมีคนใหม่ ทำไมต้องเอาเรื่องไม่ดีมาใส่ตน ถ้าเรื่องที่เขาแถลงทั้งหมดเป็นเรื่องจริง ขอให้ฟ้าผ่าตนตาย พรุ่งนี้ขอให้ตนตายได้เลย นอกจากนี้ ตนดูแลลูกทั้ง 2 คนของครูอย่างดี ลูกคนโตเรียนมา ไม่มีงาน ตนก็เปิดสอนเทควันโดให้ที่โรงเรียน ลูกคนเล็ก ตนดูแลส่งเขาเรียนตั้งแต่ ป.6 กระทั่งจบ ป.ตรี ลูกคนเล็กพูดกับตนว่า ทุกวันนี้หนูได้ดีเพราะน้า อย่างไรก็ตาม ตนยังรักครูชลธี และห่วงท่านเสมอ แต่ไม่ได้รักในฐานะสามีแล้ว รักในฐานะคนคนหนึ่ง
อ่านรายละเอียดเพิ่มเติมจาก
, 
จากกรณี นายสมนึก ทองมา อายุ 83 ปี หรือ ครูเพลงชลธี ธารทอง ศิลปินแห่งชาติสาขาศิลปะการแสดง (นักแต่งเพลงลูกทุ่ง) ปี 2542 ออกมาเปิดเผยว่าขณะนี้กำลังอยู่ระหว่างฟ้องหย่าภรรยา นางศศิวิมล ทองมา หรือ ครูปุ้ม อายุ 51 ปี ซึ่งอยู่กินกันตั้งแต่ปี 2536 และจดทะเบียนสมรสกันในปี 2538 พร้อมประกาศว่าหลังคดีความเสร็จสิ้นจะแต่งงานกับ น.ส.สกุลนัฐธิดา แจ้งประสงค์ หรือ เกด อายุ 29 ปี ทันที (อ่านข่าว : ครูเพลง ชลธี ธารทอง ฟ้องหย่าเมีย ลั่นคดีจบเมื่อไร แต่งเมียใหม่รุ่นหลานทันที)
ล่าสุด (18 พฤษภาคม 2562) รายการทุบโต๊ะข่าว ทางช่องอมรินทร์ ทีวี รายงานว่า ครูชลธี ธารทอง เปิดใจว่า ตนฟ้องหย่าภรรยา เพราะความหึงหวงที่มากเกินไป ตนเป็นบุคคลมีชื่อเสียง ย่อมมีคนมาห้อมล้อม แต่กลับถูกหึงหวงถึงขั้นทำร้ายร่างกาย ทนมานานกว่า 20 ปี ตนอยากเป็นอิสระ เพราะตนเป็นศิลปิน อยากมีความสงบเพื่อทำงานเพลง อยากใช้ชีวิตที่เหลืออยู่สร้างสรรค์ผลงานออกมาสู่โลก ตนตั้งใจจะตายคาปากกาเพราะชอบแต่งเพลง การทะเลาะกันเช่นนี้ ถือว่าขัดอุดมการณ์ของตน
สำหรับ เกด เป็นแฟนคลับ เป็นเด็กที่ชอบประกวดร้องเพลง ตนเป็นอาจารย์ที่เกดนับถือ เขาเป็นคนซื่อ คุยสนุก ไม่มีเล่ห์เหลี่ยม แต่สังคมมองตนว่าเป็นเฒ่าหัวงู แต่ก็ไม่อยากสนใจ อยากบอกว่าทุกคนเข้าใจผิด เรื่องนี้ตนอธิบายกับภรรยาแล้ว ซึ่งเกดไม่ใช่สาเหตุของการหึงหวง เพราะภรรยาหึงหวงมานานแล้ว ใครเข้าใกล้ตนก็ลำบาก
การฟ้องหย่าในครั้งนี้ ตนอยากให้ทุกอย่างจบ เราอยู่ร่วมกันไม่ได้แล้ว ขอแค่ชีวิตอิสระคืน ตนไม่สนใจทรัพย์สินใด ๆ ส่วนที่ภรรยาอ้างว่ามีหลักฐานพยานนั้น ตนไม่กังวลเพราะอยู่ที่ศาลจะเชื่อหรือไม่ ซึ่งตนบริสุทธิ์ใจกับเหตุการณ์นี้ ส่วนที่บอกจะแต่งงานกับเกด เป็นแค่การพูดแซวเล่นเท่านั้น
ด้าน น.ส.สกุลนัฐธิดา หรือ เกด ชี้แจงว่า เหตุการณ์นี้มีผลกระทบกับจิตใจพอสมควร เพราะมีคอมเมนต์ด่าไปถึงพ่อแม่ หากจะว่าอะไรขอให้ลงที่ตนคนเดียว อย่าลามไปถึงครอบครัว เพราะแม่ตนป่วยอยู่ ตนรักเคารพครูชลธีแบบพ่อ ไม่มีอะไรมากกว่านั้น ในบางครั้งที่ครูชลธีป่วย ตนก็มีโอกาสได้ดูแล ขับรถไปรับ-ส่งบ้าง ยืนยันไม่ได้มาปอกลอก เพราะตนก็มีเงินเก็บอยู่แล้ว ไม่เคยขอเงินครูใช้
ขณะที่ นางศศิวิมล หรือ ครูปุ้ม เปิดใจทางโทรศัพท์ว่า จิตใจตอนนี้เข้มแข็งขึ้น ตอนนี้ตนยังไม่นำหลักฐานที่มีอยู่ออกมา เพราะยังห่วง ยังรัก และยังอยากให้ครูชลธีคิดว่าเรื่องที่ครูเขียนในสำนวนศาลเป็นเรื่องจริงหรือไม่ ตลอดเวลาที่อยู่กันมา ร่วมทุกข์ร่วมสุขกันมา ครูชลธีมีหน้าที่ดูแลค่าใช้จ่ายบ้านก็จริง แต่ตนก็ช่วยเรื่องการดูแล ครูชลธีทำอย่างเดียวคือเคี้ยวข้าว ขนาดใส่กางเกงไม่ได้ ตนก็ใส่ให้ ใส่ถุงเท้าไม่ไหว ตนก็ใส่ให้ ครูชลธีไม่ต้องทำอะไรเลย
ทั้งนี้ ตนรักครูชลธีเหมือนเทพคนหนึ่ง ใครจะมาแตะต้องหรือด่าว่าเสียหายไม่ได้ ตนยอมตายแทนครูได้ แต่วันนี้เมื่อครูไปมีคนใหม่ ทำไมต้องเอาเรื่องไม่ดีมาใส่ตน ถ้าเรื่องที่เขาแถลงทั้งหมดเป็นเรื่องจริง ขอให้ฟ้าผ่าตนตาย พรุ่งนี้ขอให้ตนตายได้เลย นอกจากนี้ ตนดูแลลูกทั้ง 2 คนของครูอย่างดี ลูกคนโตเรียนมา ไม่มีงาน ตนก็เปิดสอนเทควันโดให้ที่โรงเรียน ลูกคนเล็ก ตนดูแลส่งเขาเรียนตั้งแต่ ป.6 กระทั่งจบ ป.ตรี ลูกคนเล็กพูดกับตนว่า ทุกวันนี้หนูได้ดีเพราะน้า อย่างไรก็ตาม ตนยังรักครูชลธี และห่วงท่านเสมอ แต่ไม่ได้รักในฐานะสามีแล้ว รักในฐานะคนคนหนึ่ง
อ่านรายละเอียดเพิ่มเติมจาก
, 
