ภาพจาก Instagram candy_chaya
เพิ่งได้ตำแหน่งผู้ชนะจากรายการ The Face Thailand 5 สำหรับ แคนดี้ กุลชญา แต่งานนี้ใครจะรู้ว่ากว่าเจ้าตัวจะประสบความสำเร็จแบบนี้เธอต้องผ่านอะไรมามากมาย ทั้งโดนดูถูก ถูกปฏิเสธงาน แถมคุณพ่อ คุณแม่ยังพาไปพบจิตแพทย์หลังรู้ว่าลูกเป็นสาวประเภทสอง
ล่าสุด แคนดี้ ได้มาเปิดใจผ่านทางรายการ คุยแซ่บShow ทางช่อง One31 ที่มี พีเค ปิยะวัฒน์ และ หนิง ปณิตา เป็นพิธีกร
นอกเหนือจากตำแหน่งที่ได้ที่นี่ ไปคว้ารางวัลอะไรที่ประเทศสเปน ?
แคนดี้ : Miss trans star international ค่ะ เมื่อปลายปีที่แล้ว ตอนแรกได้รางวัลที่ประเทศไทย แล้วเป็นตัวแทนประเทศไทยไปประกวดที่สเปน ก็มีนางงามหลาย ๆ ประเทศมารวมกัน พอกลับมาต้นปีปุ๊บก็ออดิชั่นเดอะเฟซเลยค่ะ
เห็นว่าตอนแรกกะจะสมัครขำ ๆ ?
แคนดี้ : ใช่ค่ะ ปีนี้มาดูเชิงไว้ก่อน เดี๋ยวปีหน้าค่อยเอาจริง
แต่ถ้าย้อนกลับไปมีคนดูถูกสารพัด จนถึงขั้นพบจิตแพทย์ ?
แคนดี้ : อันนั้นเป็นเรื่องของตอนเด็ก ตอนที่กำลังตัดสินใจว่าจะเป็นผู้หญิงเลยไหม แต่เรื่องของการดูถูกก็มีเครียดบ้าง จนคิดอยากจะเลิกไปทำงานประจำดีกว่า
โดนดูถูกยังไง ?
แคนดี้ : เธอทำไม่ได้หรอก นู่น นี่ นั่น คือเขาคงมองว่าความฝันเราใหญ่เกินไปสำหรับเขา คือความฝันเรา เราอยากเป็นนางแบบอินเตอร์เนชั่นแนล
ภาพจาก Instagram candy_chaya
ภาพจาก Instagram candy_chaya
คนเหล่านั้นเป็นใคร ?
แคนดี้ : ก็กลุ่มเพื่อนนางแบบด้วยกันนี่แหละ แล้วมีการถูกปฏิเสธงานจากลูกค้าบ้างหลายคน ที่บางทีเราแคสต์งานผ่านแล้ว แต่ว่าเขาคงไม่ได้คุยกับลูกค้าว่าเราเป็น trans นะ ไปถึงปุ๊บหน้างานโดน cancel ประมาณ 2-3 ครั้ง
แสดงว่าการโดน cancel ไม่ได้โดนเพราะรูปลักษณ์หรืออะไร แต่โดนเพราะว่าเราเป็นชาย เราไม่ใช่หญิง ?
แคนดี้ : ใช่ บางครั้งเราไปแคสต์จนได้แล้ว
ตั้งแต่ตอนเด็กเรารู้ตัวเมื่อไร ?
แคนดี้ : จริง ๆ ตั้งแต่จำความได้ คือจำได้ว่าเตรียมอนุบาลไปปุ๊บคุณครูก็ให้แบ่งแถวชาย หญิง เราก็ไปอยู่กลุ่มผู้หญิง
แล้วตอนนั้นคุณพ่อ คุณแม่รู้ไหม ?
แคนดี้ : หนูเชื่อนะคะว่าคุณพ่อ คุณแม่ เขารู้ เขาเห็นพฤติกรรมของลูก แค่ตอนนั้นเขาไม่คิดว่าเราจะเปลี่ยนเป็นผู้หญิงเลย เขาอาจจะคิดว่าเราอาจจะแค่เป็นเกย์ไหม หรือว่าดำรงเพศสภาพเป็นผู้ชายแต่มีลักษณะตุ้งติ้ง
แล้วเรารู้ชัด ๆ ตอนไหนที่อยากเปลี่ยนจากชายมาเป็นหญิง ?
แคนดี้ : ตอนช่วง ม.3 อายุ 15 ปี ก็เริ่มมีการศึกษาว่าเราเห็นรุ่นพี่ทำไมเหมือนผู้หญิงจังเลย เขามีการเทกฮอร์โมน เราก็ไปแอบซื้อมาทาน แล้วพี่ชายจับได้ พี่ชายก็เลยเอาไปฟ้องคุณแม่ วันนั้นก็เลยเป็นการเปิดใจคุยกัน
แล้ววันนั้นพอเปิดใจคุยกันเขารับได้ไหม ?
แคนดี้ : แน่นอนว่าต้องมีการเสียใจเกิดขึ้นอยู่แล้ว แต่ว่าหนูนับถือคุณพ่อ คุณแม่มาก ตอนแรกเราแอบตกใจ เขาบอกจะพาเราไปหาจิตแพทย์ เพราะเขาต้องการคำแนะนำจากคุณหมอสำหรับการเลี้ยงดูว่าจะต้องทำยังไง เพราะว่ากลุ่มคนพวกนี้ค่อนข้างเสี่ยงในสังคม โดนดูถูก อันตราย สามารถหลุดไปนอกลู่นอกทางได้ง่าย
พอรู้ว่าพ่อ แม่คิดขนาดนี้ คือเขาคิดลึกกว่าที่เราคิด ?
แคนดี้ : เราซึ้งมาก เรารู้แค่ว่าเราจะต้องทำยังไงก็ได้ให้เขายิ่งภูมิใจเข้าไปอีก จากที่เราเป็นเด็กดีตั้งใจเรียนอยู่แล้ว เราก็ยิ่งพยายามเข้าไปอีก
พ่อ แม่ เคยอยากให้ประกอบอาชีพนู้น อาชีพนี้ไหม ?
แคนดี้ : แน่นอนค่ะ เพราะว่าผู้ใหญ่เขาจะมองอาชีพนี้ว่าไม่มั่นคง ก็จะมีบ้าง แต่ว่าเราจะแสดงจุดยืนที่ชัดเจน มันจะมีช่วงนึงที่หนูเริ่มเข้ามาทำงานนางแบบ เราก็โดนปฏิเสธงานบ่อย ได้งานบ้างไม่ได้งานบ้าง ก็มีท้อบ้าง เพื่อนก็มีคนดูถูกนู่นนี่นั่นบ้าง จากที่เราโทร. หาท่านยืนกรานจะทำตามความฝัน มีวันนึงหนูโทร. หาเขา แล้วบอกว่าโอเคเดี๋ยวพรุ่งนี้จะสมัครงานประจำนะ แม่ก็ถามว่าทำไม เกิดอะไรขึ้น เหมือนเขารู้ว่าเราอยู่ในช่วงที่ไม่โอเค คุณแม่ก็วิดีโอคอลมาหยิบอัลบั้มภาพอัลบั้มนึงเป็นอัลบั้มที่คุณพ่อตามเก็บรูปเราตั้งแต่เราเริ่มประกวดมิสทิฟฟานี่ จบมหาลัยเกียรตินิยมอันดับ 1 ประกวด miss trans แล้วเขาแอบเก็บรูปทุกคนในเฟซบุ๊กที่เขาแท็กมาทำเป็นอัลบั้มให้เราดู เราร้องไห้ แล้วเราตัดสินใจในวันนั้นว่าเราจะทำต่อไป เรามีพลังสู้มาก ๆ จากที่คิดว่าจะล้มเลิกไม่เอาแล้ว ไม่เป็นนางแบบแล้ว
ในวันที่เราประสบความสำเร็จ แม่เข้ามากอดแล้วพูดว่าอะไร ?
แคนดี้ : แม่เขาไม่มีคำพูดอะไร แม่เห็นว่าเราพยายามและเหนื่อยมาก หนูพูดกับแม่ไปคำเดียวว่า ทำได้แล้วนะ แล้วก็ร้องไห้ มันพูดไม่ออก
