มินดา ฟ้องกลับ แซ็ค ชุมแพ โต้เรียกเงิน 2 ล้าน ค่าเสียเวลาคบ แฉปมยืมเงิน !

           สืบเนื่องจากกรณีข่าว มินดา มีทรัพย์สิน พร้อมทนายเจมส์ นิติธร แก้วโต เดินทางมาศาลอาญา ถ.รัชดาภิเษก เพื่อเข้าให้การไต่สวนมูลฟ้อง หลังยื่นฟ้อง แซ็ค ชุมแพ ในข้อหาหมิ่นประมาท จากเหตุการณ์ตั้งโต๊ะแถลงข่าวบิดเบือนว่ามีการเรียกร้องเงิน 2 ล้าน เป็นค่าเสียเวลาคบกัน และกล่าวหาว่าประกาศว่าท้อง ทั้งที่ไม่เป็นความจริง ทำให้ได้รับความเสื่อมเสียและอับอายนั้น

           อ่านข่าว : มินดา น้ำตานองหน้า สาวไส้ แซ็ค หมดเปลือก ด้านแม่ลั่นมีฐานะ ไม่ต้องเรียกเงิน 2 ล้าน !!

           ล่าสุด (7 ตุลาคม 2562) รายการโหนกระแส รายงานบทสัมภาษณ์ มินดา มีทรัพย์สิน ถึงเรื่องดังกล่าว โดยมินดาเดินทางมาพร้อมทนายเจมส์ และมีการโฟนอินสัมภาษณ์ ตั้ม สามารถ ผู้จัดการส่วนตัวของ แซ็ค ชุมแพ คู่กรณี

           มินดา : ตอนแรกไม่รู้ค่ะ พี่สาวที่มาด้วยกันเขาโดนก่อน หลังจากนั้นหมายหนูก็ตามมา

           ทนาย : เนื้อหาในสำนวนประมาณว่า มาให้ข่าวทำให้แซ็คเขาเสียหาย เรื่องเงินบางจำนวนที่พูดไม่ได้ เพราะเป็นเนื้อหาในคดี เป็นจำนวนเงินที่ไม่ได้เคลียร์

           มินดา : เขาบอกว่าหนูเรียกเงิน เรียกค่าเสียเวลาคบ แต่ในแชตมันไม่มีค่ะ ไม่เคยเรียกร้อง แชตที่เขาเอาออกมา เขาเอาออกมาไม่หมด เป็นแชตที่คุยกับคุณแม่เขา ไม่มีบอกว่าขอเรียกเงิน 2 ล้าน เขาเข้าใจตีความแบบนั้น แต่ในการคุยกัน มันไม่มีว่าเป็นค่าเสียเวลาคบค่ะ

           ทนาย : พอเกิดเรื่อง คุณแม่แซ็คซึ่งถือว่าเป็นผู้ใหญ่ ก็เข้ามาเคลียร์กับมินดาว่าจะจบยังไงได้บ้าง น้องเสียหายยังไงบ้าง น้องก็แจกแจงว่าระหว่างคบ เขาต้องเสียประโยชน์ตรงไหนบ้าง แต่สุดท้ายการสนทนาก็แล้วแต่ ไม่ได้หมายความว่าจะเอา ไม่ใช่ เขาบอกว่าแล้วแต่แม่

           ทนาย : จริง

           มินดา : มันพิสูจน์ได้

           ทนาย : มันมีหลักฐานการโอนเงิน มีแชตคุยกัน

           มินดา : มีสลิปที่โอนค่ะ

           ทนาย : แต่อย่างที่บอกประเด็นมีการคุยกันนิดเดียว แต่พอกระจายออกไปในวงกว้างก็มีการแตกประเด็นข้อเท็จจริงออกไป มีการใส่ไข่ทำให้ประเด็นความเสียหายกระจายไปกว้าง ยิ่งใส่ไข่ยิ่งทำให้เสียหายกับน้องมากขึ้น เดิมทีน้องไม่มีเจตนาจะฟ้อง มาปรึกษาผม ผมบอกว่ากระแสมันจบก็จบ

           มินดา : ไม่ใช่ค่ะ

           ทนาย : เป็นกระบวนการของศาลครับ ศาลท่านเห็นว่าเป็นคดียอมความกันได้ ทั้งสองฝ่ายตกเป็นจำเลยทั้งคู่ ฝั่งหนึ่งก็เป็นผู้ต้องหา ฝั่งหนึ่งก็ถูกฟ้องอยู่ ศาลท่านเลยเห็นว่าคุยกันดีไหม ทางฝั่งโน้นบอกว่าโอเค คุยได้

           ตั้ม : น้องผมมันพูดไม่เป็นครับ เมื่อกี้ที่คุยกับทนาย โทร. มาบอกว่า ศาลบอกว่าทางน้องขอให้คุณแซ็คไปไกล่เกลี่ยเอง ผมบอกว่าก็ได้ แต่เวลาไม่มี น้องติดคิวทุกวัน ถ้าจะได้เวลาก็เดือนกุมภาพันธ์ แต่ศาลบอกว่าช้าไป ก็เลยขอนัดวันเรียบร้อยแล้ว

           ตั้ม : พูดไปผมก็ผิดอีก ไม่พูดดีกว่า

           ทนาย : ระบายความรู้สึกได้

           ตั้ม : ไม่ระบายดีกว่า ขนาดบวกเลขยังผิดเลย ระบายไปเดี๋ยวผมก็ผิดอีก

           ตั้ม : ไม่ใช่หรอกครับ

           มินดา : ตามภาพเลยที่มีการ์ดมาดึง

           ตั้ม : การ์ดเขาทำตามหน้าที่ ผมไม่ได้ไปสั่งเขา วันนั้นเป็นงานอีเวนต์ ตามกระบวนการมีการ์ดมาดูแลนักร้อง มีคนเข้าไปประชิดการ์ด การ์ดกันเป็นเรื่องธรรมดา

           ตั้ม : อยู่จันทบุรีครับ

           ทนาย : ผมว่าไกล่เกลี่ยก็เป็นผลดีกับสองฝ่าย คดีนี้ไม่ได้ร้ายแรงอะไร ผมเข้าใจสถานการณ์ที่เขาต้องการแถลงข่าวเพื่อแก้ปมต่าง ๆ แต่การแถลงอะไรก็แล้วแต่ แม้เป็นข้อเท็จจริง แต่ถ้าทำให้คนอื่นเสียหายต้องคิดเยอะหน่อย