ด้าน เชียร์ ฑิฆัมพร พอรู้เรื่องนี้ก็ได้เผยความในใจว่า ก่อนหน้านี้ หมอเจี๊ยบได้รับการติดต่อมาให้ออก 10 Fight 10 และเชียร์คือคนเดียวที่หมอเจี๊ยบอยากชกด้วย ตอนนั้นเชียร์ไม่คิดอะไรมาก คิดแค่ว่าให้เจ็บกับเพื่อนดีกว่าไปเจ็บกับคนอื่น
อย่างไรก็ตาม พอได้ไปต่อยจริงกลับรู้สึกว่า การต่อยมวยกับเพื่อนยากกว่าการต่อยกับคนไม่รู้จักอีก เพราะกีฬานี้อย่างไรก็ต้องเจ็บ แต่เราทั้ง 2 คนก็ทำเต็มที่ ไปให้สุด วันที่ขึ้นชกเชียร์เหมือนมีหมวก 2 ใบ ใบแรกคือความเป็นเพื่อนกับหมอเจี๊ยบ อีกใบคือเป็นตัวแทนของทีมสีดำ
ทั้งนี้ ก่อนขึ้นครูมวยก็บอกว่าเราไม่จำเป็นต้องต่อยให้เพื่อนเจ็บขนาดนั้น เน้นแค่เข้าเป้าให้ได้คะแนน แต่พอชกจบถึงรู้ว่า หมอเจี๊ยบซี่โครงร้าว จนต้องฉีดยาชาขึ้นชก
"กูรู้ว่ามึงเป็นคนมีสปิริต และตั้งใจจริง ๆ กับทุกเรื่อง แต่สิ่งหนึ่งมึงควรจะบอกกูก่อนที่มันหนักขนาดนี้ กูไม่มีทางยอมให้มึงขึ้นชกแน่ ๆ ให้กูต่อยได้ยังไงทั้ง ๆ ที่ซี่โครงมึงเป็นแบบนี้ มันอันตรายกับชีวิตมึงเกินไปเจี๊ยบ มึงไม่จำเป็นต้องเสี่ยงขนาดนี้ ทุกอย่างมีทางออกเว้ย !!
มึงไม่เห็นหรอกว่าหน้าตากูเป็นยังไงตอนที่รู้เรื่องนี้ และขอไปแล้วว่าอย่าทำอะไรที่เสียงกับชีวิตขนาดนี้อีก สิ่งเดียวที่ดีที่สุดของเรื่องนี้คือ #มึงปลอดภัยนะเจี๊ยบ นี่คงเป็นสิ่งที่อยากจะเขียนบอกมึง #ขอบคุณที่ทำให้มวยคู่หญิงแรกในรายการมันเซอร์ไพรส์ได้ขนาดนี้"
สุดท้าย เชียร์ บอกว่า ความปลอดภัยของร่างกายเป็นสิ่งสำคัญ ไม่มีใครอยากชกถ้าไม่ฟิต และคนที่ต่อยก็คงไม่มีใครอยากต่อยคนเจ็บ เพื่อความปลอดภัยของทุก ๆ ฝ่าย ด้วยความหวังดีและเคารพ
จากนั้นหลายคนก็ได้เข้ามาให้กำลังใจทั้งหมอเจี๊ยบและเชียร์ ที่มีสปิริตแรงกล้าขึ้นชกในฐานะมวยหญิง อีกทั้งยังเข้าใจความรู้สึกของทั้งหมอเจี๊ยบและเชียร์ ที่ทำทุกอย่างอย่างเต็มที่ จนอาจจะลืมนึกไปว่าสุขภาพของตัวเองสำคัญกว่า