พลังธรรมชาติ ขจัดความหยาบกร้าน 3 จุด ข้อศอก-หัวเข่า-ส้นเท้า (สุขกายสบายใจ)
Beauty Booster เรื่อง : สุธารัชฎ์ รัตนารามิก
สาว ๆ หลายคนอาจถูกมองว่าเป็นคนบุคลิกภาพไม่ดีจนหมดความมั่นใจ หากสวมกระโปรงสั้นแล้วเผยให้เห็นหัวเข่าย่นดำ สวมเสื้อแขนกุดเผยให้เห็นข้อศอกด้าน หรือถอดรองเท้าเดินแล้วรู้สึกสากเท้าเพราะฝ่าเท้าด้าน ปัญหาเหล่านี้คือสิ่งเล็ก ๆ ก็จริง แต่เพื่อให้ดูดีทั่วทั้งร่างกายก็ไม่ควรปล่อยปละละเลยให้เล็ดรอดสายตา เรามีวิธีสปาธรรมชาติ เพื่อบำรุง 3 จุดแห้งกร้าน ข้อศอก-หัวเข่า-ส้นเท้า ให้แลดูสุขภาพดีอยู่เสมอ
ข้อศอก - หัวเข่าด้านและดำคล้ำ
การที่ข้อศอกและหัวเข่าเสียดสีกับวัตถุอื่น อาจไม่ทำให้รู้สึกเจ็บขณะเสียดสี เพราะเสียดสีแค่ชั้นหนังกำพร้า แต่หากมีเกิดขึ้นบ่อยครั้งอาจกินเนื้อลึกเข้าไปถึงชั้นหนังแท้ได้ อีกส่วนที่ไม่ควรมองข้ามคือ ส่วนข้อพับที่เป็นข้อต่อด้านใน ทั้งข้อพับขาและแขนตรงจุดนี้มีต่อมเหงื่ออยู่ใต้บริเวณรอยพับบาง ๆ เมื่อเหงื่อออกขี้ไคลจะฝังตัวอยู่บริเวณข้อพับนี้ทำให้กลายเป็นแหล่งสะสมเชื้อโรคชั้นดี ดังนั้นเมื่อเราดูแลบริเวณข้อศอกหัวเข่าแล้ว ก็ควรจะดูแลข้อพับแขนและขาด้วย
ลักษณะอาการ จะเริ่มจากอาการแห้งกร้านก่อน มีลักษณะสากคล้ายกระดาษทราย สาเหตุเป็นเพราะขาดน้ำหล่อเลี้ยงจนไม่มีความชุ่มชื้นอยู่เลย หากเกิดการเสียดสีบ่อยครั้งจนด้าน ก็อาจกลายเป็นแผลเรื้อรังที่ก่อให้เกิดเป็นโรคผิวหนังชนิดเรื้อนกวางได้
ส้นเท้าด้านและแตกลาย
โดยธรรมชาติแล้ว ผิวหนังบริเวณฝ่าเท้าจะมีความหนามากกว่าผิวบริเวณฝ่ามือ และทนทานมากกว่าผิวบริเวณอื่นเพื่อรองรับน้ำหนักตัวของเรา และยังช่วยลดแรงกระแทกขณะเดนิ หากเดินมากอาจมีอาการปวดส้นเท้า เพราะแรงเสียดสีของผิวเรากับพื้นวัตถุ ที่สะสมให้กลายเป็นความด้านจนหนาตัวขึ้นได้ หากเป็นระยะไม่รุนแรงจะมีสีออก เหลืองกลายเป็นดำฝังร่องแตกลาย เมื่อลองกดดูจะไม่รู้สึกเจ็บ แต่ถ้าเป็นมากจนรอยถลอกเป็นแผล เลือดออก จะทำให้รู้สึกแสบจนเดินไม่สะดวก
ลักษณะอาการ เกิดจากการสะสมของเซลล์ผิวหนังที่ตายแล้ว ค่อยๆ หนาจนแข็งและเปลี่ยนเป็นสีเหลือง หากเป็นมาก จะเรียกอาการนี้ว่า หนังหนาด้าน ซึ่งต้องใช้เวลานานกว่าจะรักษาให้หายขาดได้
Home Remedies ฉบับสปาธรรมชาติ
1. น้ำเลมอนและน้ำมะนาว : ทั้งผลเลมอนและผลมะนาวต่างก็มีคุณสมบัติคล้ายกัน เพราะมีส่วนประกอบของกรดซิทริก (Citric Acid) หรือกรดเปรี้ยว ซึ่งมีคุณสมบัติช่วยขจัดเซลล์ผิวเก่า กระตุ้นการเกิดเซลล์ผิวใหม่ เปรียบเสมือนสารฟอกสีจากพลังธรรมชาติ แต่ทว่ามีความอ่อนโยนต่อผิว
วิธีการคือ
1. เลือกน้ำเลมอน (ผลสีเหลืองใหญ่) หรือมะนาว (ผลสีเขียวเล็ก) หั่นผ่าครึ่งซีกคั้นน้ำมะนาวประมาณ 1 ถ้วยตวง สามารถผสมน้ำมันที่มีคุณสมบัติบำรุงผิวชนิดอื่น เช่น น้ำมันมะกอก หรือน้ำมันมะพร้าวผสมลงด้วย ประมาณ 2-3 หยด
2. จุ่มสำลีลงในน้ำผลไม้คั้นสด และขัดถูอย่างเบามือบริเวณข้อศอก หัวเข่า และตาตุ่ม ปล่อยทิ้งไว้ให้แห้งประมาณ 15-20 นาทีแล้วล้างออก
3. ทำซ้ำประมาณ 2 ครั้ง
2. ผลมะละกอสุก : ในผลมะละกอสุก มีเอนไซม์ที่ชื่อว่า พาเพน (Papain) มีคุณสมบัติช่วยจัดเซลล์ผิวเก่าให้หลุดลอกออกมา อีกทั้งยังช่วยปรับสีผิวให้แลดูขาวขึ้น
วิธีการคือ
1. เลือกผลมะละกอสุกขนาดกลาง 1 ผล ปอกเปลือก หั่นเป็นชิ้นลักษณะท่อนหน้าสั้นๆ คว้านเมล็ดออก
2. ปั่นให้ละเอียดจนเนื้อเนียน แล้วไปกรองกับผ้าขาวบางเพื่อคั้นน้ำ นำไปพอกบริเวณข้อศอก หัวเข่า ก็จะช่วยลดความดำคล้ำ ช่วยทำให้ผิวบริเวณข้อศอกและหัวเข่าเรียบเนียนขึ้น
3. ผลแตงกวาสด : มีคุณสมบัติเย็นอุดมไปด้วยน้ำ และยังช่วยทำความสะอาดเชื้อโรคได้อีกด้วย จึงสามารถบรรเทาอาการผิวแห้งแตกลาย หรือผิวลอกได้ ด้วยคุณสมบัติ คืนความชุ่มชื่นให้ผิวนี้ ทำให้แตงกวาเป็นที่นิยมนำมาสกัดเป็นส่วนประกอบในโลชั่น หรือแม้แต่ครีมอาบน้ำ
วิธีการคือ
1. เลือกแตงกวาที่มีลักษณะผลอวบน้ำ
2. หั่นเป็นแว่นในขนาดเท่ากัน นำชิ้นแตงกว่าที่หั่นแล้ว ขัดตามข้อศอก หัวเข่า ตาตุ่ม หรือส้นเท้า
เกร็ดเล็กน้อย ดูแลบำรุงผิว
1. ทาโลชั่น เป็นการเติมความชุ่มชื้นให้กับผิวหนังของเรา ช่วยบำรุงผิวให้นุ่มและขาวขึ้น และเพื่อป้องกันการเผาไหม้จากรังสียูวี ควรทาโลชั่นที่ผสมกันแดดชั้นต่ำ SPF15
2. ทาปิโตรเลียมเจล ส่วนใหญ่สกัดมาจากขี้ผึ้ง จึงมีคุณสมบัติเป็นมอยเจอร์ไรเซอร์ที่สามารถทำให้ผิวที่แห้งกร้านกลับมานุ่มและเรียบขึ้น และใช้ทาได้บ่อยครั้งต่อวัน
3. สวมถุงเท้าที่ทำจากผ้าฝ้าย ผ้าฝ้ายจะช่วยห่อหุ้มให้ไม่เกิดการเสียดสี และเพราะเป็นเนื้อผ้าที่โปร่งสบายอากาศจึงสามารถพัดผ่านได้ ทำให้เท้าไม่มีกลิ่น
4. สวมใส่รองเท้าที่มีพื้นรองเท้านุ่มและค่อนข้างหนา ประโยชน์ของพื้นรองเท้าคือ ช่วยห่อหุ้มใต้ฝ่าเท้าของเราในขณะก้าวเดิน ช่วยลดแรงเสียดสีที่ฝ่าเท้า และยังเป็นเบาะชั้นดีให้กับส้นเท้าเราอีกด้วย หากพื้นรองเท้าบางจะทำให้ใต้ฝ่าเท้าถลอกได้ และอาจมีอาการปวดส้นเท้าตามมาด้วย
5. ลดแรงเสียดสีด้วยผ้า กิจกรรมบางอย่าง เช่น การจับเมาส์คลิกเล่นเกมส์บนอินเตอร์เน็ต การคุกเข่านั่งพับเพียบ การเท้าแขนบนโต๊ะ กิริยาเหล่านี้จะทำให้อวัยวะ เช่น ข้อศอก หัวเข่า ปลายโหนกฝ่ามือ และตาตุ่มของเราด้านขึ้นโดยไม่รู้ตัว วิธีแก้ไขคือสวมเสื้อแขนยาว หรือหาผ้ามารองเพื่อลดการเสียดสี
ในแต่ละวันเรามีอิริยาบถเคลื่อนไหวร่างกายด้วย ท่าทางต่าง ๆ มากมาย แม้แต่การเดินซึ่งเป็นการทำร้ายผิวบริเวณข้อต่อโดยไม่รู้ตัว หากนึกภาพไม่ออกลองนึกถึงตอนที่เรานั่งเท้าคาง นั่งคลิกเมาส์พิมพ์แชทเฟซบุ๊คกับแก๊งค์เพื่อนอย่างมันส์มือ หรือแม้แต่การเดินด้วยรองเท้าส้นสูงเป็นประจำ อิริยาบถเหล่านี้เองที่ทำให้ผิวอันบอบบางตรงจุดเล็ก ๆ นี้ให้กลายเป็นหยาบกร้าน และเกิดหนังด้านได้อย่างไม่รู้ตัว เมื่อรู้อย่างนี้แล้ว สุดสัปดาห์นี้ลองทำสปาข้อศอก หัวเข่า และฝ่าเท้าดูสิคะ แล้วคุณจะมั่นใจกับการเลือกใส่เสื้อผ้าเพื่อเผยผิวสวยมากยิ่งขึ้น
ปัจจัยที่ทำให้ดำคล้ำ
1. การเสียดสีกันระหว่างวัตถุ
2. ผิวแห้ง
3. การสะสมทับถมกันของเซลล์ผิวที่ตายแล้ว
ปัจจัยที่ก่อให้เกิดอาการหนังหนาด้าน
1. สวมรองเท้าคับเกินไป หรือสวมรองเท้าส้นสูงมาก หรือสวมรองเท้าที่มีแผ่นรองเท้าบางมาก
2. อ้วนเกินไป ทำให้การเดินผิดปกติไปจากเดิม คือเดินลากเท้า
3. เดินเท้าเปล่าบนหิน หรือพื้นผิวหยาบ
ขั้นตอนทำความสะอาดเบื้องต้นก่อนทำสปา
1. ทำความสะอาดด้วยน้ำอุ่นผสมสบู่เล็กน้อย ขั้นตอนนี้จะช่วยเติมความชุ่มชื้นให้เซลล์ผิวอ่อนตัวลง และทำให้ผิวบริเวณรอยแตกนุ่มลงสามารถทำการขัดถูได้ ส่วนสบู่จะทำความสะอาดผิว
2. ขัดถูอย่างเบามือ
จะช่วยกร่อนเซลล์ผิวหนังที่สะสมเป็นชั้นหนาให้หลุดออกไปบ้าง ควรใช้หินขัดผิวบริเวณส้นเท้าอย่างเดียว เท่านั้น หากนำหินขัดเท้ามาขัดตามข้อศอกทำให้เซลล์ผิวใหม่ถลอกไปพร้อมกับเซลล์ผิวที่ตายแล้ว ควรใช้ฟองน้ำขัดเบา ๆบริเวณตามข้อพับ เพื่อขัดเอาขี้ไคลต่าง ๆ ให้หลุดออก ขั้นตอนนี้สามารถทำได้บ่อยครั้ง อาจทำทุกวันขณะอาบน้ำ หรือเว้นระยะห่างอย่างน้อย 2 ใน 5 วันก็ได้
ขอขอบคุณข้อมูลจาก