กลายเป็นประเด็นร้อนในชั่วข้ามคืน เมื่อพิธีกรที่เป็นเหมือนโลโก้ประจำรายการชิงร้อยชิงล้าน อย่าง ตั๊ก มยุรา เศวตศิลา ประกาศลาออกสายฟ้าแลบจากการเป็นพิธีกรคู่กับ เสี่ยตา ปัญญา นิรันดร์กุล หลังร่วมงานเป็นพิธีกรคู่ขวัญกันมากว่า 20 ปี จนเป็นที่มาของข้อสงสัยมากมาย ว่าเหตุผลในการตัดสินใจของเธอคืออะไร? รายการวู้ดดี้เกิดมาคุย (14 ตุลาคม) จึงขออาสาพาไปพูดคุยกับสาวสวยอมตะคนนี้ ที่ยินดีเปิดบ้านต้อนรับ และพร้อมเปิดใจทุกข้อสงสัยแบบตรงไปตรงมา ..
ตั๊ก มยุรา เศวตศิลา เปิดบ้านหลังงามต้อนรับ วู้ดดี้ มิลินทจินดา พิธีกรประจำรายการด้วยสีหน้ายิ้มแย้มแจ่มใส และเสียงหัวเราะที่หลายคนคุ้นเคย ก่อนที่จะพาพิธีกรและผู้ชมรายการเข้าไปเยือนภายในบ้าน พร้อมเริ่มต้นเปิดใจถึงทุกข้อสงสัยที่หลายคนยังกังขา เริ่มตั้งแต่การชี้แจงว่าตนเองไม่ได้สังกัดอยู่กับเวิร์คพอยท์เหมือนที่หลายคนเข้าใจ เพียงแต่เป็นคนหนึ่งที่มีหน้าที่รับใช้เท่านั้น
แน่นอนว่าประเด็นที่หลายคนจับตามอง จะต้องถูกนำมาตั้งคำถามในครั้งนี้ และ ตั๊ก มยุรา ก็เอ่ยปากเล่าถึงสิ่งที่อยู่ในใจของเธอว่า สิ่งที่บั่นทอนจิตใจของเธอมากที่สุด ก็คือการไม่พูดไม่คุยกันของเธอและคุณปัญญา พิธีกรร่วมผู้เป็นเจ้าของรายการ ซึ่งเหตุการณ์ดังกล่าวเกิดขึ้นมาได้ปีเศษ ๆ แล้ว และเธอก็คิดว่าคุณปัญญาคงจะเหนื่อยกับงาน จึงทำให้ไม่มีการพูดคุยถามไถ่สารทุกข์สุขดิบกันเหมือนเดิม แต่ก็อดที่จะรู้สึกอึดอัดไม่ได้
แม้ว่าจะเป็นมืออาชีพที่ทำงานมายาวนานถึง 20 กว่าปี แต่สิ่งที่ทำให้เธออึดอัดใจก็คือ ก่อนจะเริ่มรายการเธอไม่ค่อยได้รับทราบเรื่องแขกรับเชิญ หรือรายละเอียดของงานมากเท่าที่ควร ทำให้ไม่ค่อยมีส่วนร่วมกับงานพิธีกรที่ทำอยู่มากนัก ซึ่งอาจจะเป็นได้ที่ทีมงานจะคิดว่าเธอเป็นมืออาชีพแล้ว แต่นั่นกลับทำให้เกิดความรู้สึกบั่นทอนข้างในใจลึก ๆ และค่อย ๆ สะสมมาตลอด
"นี่พี่พูดตรง ๆ นะ พี่รู้สึกว่าเหมือนโดน บอนไซ คือ เลี้ยงเอาไว้เฉย ๆ" ตั๊ก มยุรา ยอมรับตรง ๆ เมื่อวู้ดดี้ถามว่า เธอรู้สึกเหมือนโดนบีบให้ออกหรือไม่ เธอเล่าความในใจให้ฟังอีกว่า เธอกับคุณปัญญาแทบจะไม่ได้มองหน้า พูดคุย หรือเล่นกันเหมือนเมื่อก่อน ทั้ง ๆ ที่ไม่ได้ทะเลาะกัน คงเปรียบเหมือนคนที่แต่งงานกันมานานจนเบื่อกันไปเอง ไม่รู้จะพูดคุยอะไรกัน แต่ถ้าถามถึงสาเหตุก็คงตอบไม่ได้ เพียงแต่รู้สึกว่ามันไม่ใช่ และถึงเวลาแล้วที่จะต้องไป
หากย้อนเวลากลับไป หลายคนคงจะจำได้ว่ามีช่วงหนึ่งที่รายการชิงร้อยชิงล้าน เปลี่ยนชื่อรายการเป็น ทเวนตี้เซ็นจูรี่ตั๊ก และมี ตั๊ก มยุรา เป็นพิธีกรหลักร่วมกับพิธีกรหนุ่มมากหน้าหลายตาที่ผลัดเปลี่ยนกันมารับหน้าที่คู่กับเธอแทนคุณปัญญาที่หยุดพักไป เพื่อเป็นการฉลองครบรอบ 20 ปีของเธอ กับการเป็นพิธีกรให้กับรายการชิงร้อยชิงล้านมาอย่างยาวนาน แต่ทว่าตั๊ก มยุรา กลับไม่รู้สึกมีความสุขกับการเป็นพิธีกรหลักในช่วงระยะเวลานั้น เพราะเป็นช่วงที่เธอป่วยหนักและไม่ค่อยมีเรี่ยวแรงมากนัก แต่ด้วยความที่เป็นหน้าที่เธอก็ต้องทำอย่างเต็มความสามารถ แม้ในใจจะมีข้อสงสัยว่า..ตลอดช่วงเวลา 6-8 เดือนที่เธอรับหน้าที่พิธีกรหลัก คุณปัญญาหายไปไหน?
และนั่นคือสาเหตุของการจบชีวิตพิธีกรประจำรายการชิงร้อยชิงล้านร่วมกับคุณปัญญา ที่เธอทำมากกว่า 20 ปี เนื่องจากเธอบอกว่าปัญหาทั้งหมดคงเกิดจากการที่ต่างคนต่างมีอะไรก็ไม่คุยกัน ซึ่งตั๊ก มยุรา บอกว่าเธอเองมีหลายคำถามอยู่ในใจแต่ก็ไม่เคยถามออกมา และคุณปัญญาก็เป็นนักธุรกิจที่ไม่ได้มาใส่ใจกับเรื่องเล็ก ๆ น้อย ๆ ไม่มีการเอ่ยปากชวนเธอร่วมทานข้าว หรือร่วมงานต่าง ๆ ของเวิร์คพอยท์ เช่น งานเปิดตัวหนัง ทำให้เธอรู้สึกแค่ว่าถึงเวลาก็มาทำงาน ทำงานเสร็จก็กลับบ้านแค่นั้น และยอมรับว่านั่นอาจจะเรียกได้ว่า อาการน้อยใจ
แต่เหนือสิ่งอื่นใดทั้งหมดก็คือการไปทำงานอย่างไม่มีความสุข ไม่มีการเตี๊ยมคิวกัน ต่างคนต่างกินข้าว แม้เธอและคุณปัญญาจะแต่งตัวแต่งหน้าห้องเดียวกัน แต่ก็ไม่เคยพูดคุยหรือถามไถ่กันเลย และเมื่อห้องแต่งตัวมีกันอยู่แค่ 2 คน จึงทำให้สถานการณ์ยิ่งแย่เข้าไปใหญ่ เพราะลดการพูดคุยกันลงไปเรื่อย ๆ จนสุดท้ายก็ต่างคนต่างอยู่คนละมุม
ตั๊ก มยุรา ยอมรับว่าอาจจะเป็นไปได้ว่าเธอเองไม่อยากเป็นฝ่ายถูกปลดจากการเป็นพิธีกร "พี่ไม่อยากได้ยิน..มันคงจะแย่มากเลยถ้ามีข่าวลงว่าปลดมยุรา พี่จะรับไม่ได้มาก วันนั้นอาจจะเห็นพี่ผูกคอตายอยู่หน้าประตู" ดังนั้นด้วยศักดิ์ศรีเธอจึงขอเป็นฝ่ายไปเองดีกว่า และเมื่อถามว่าหากมีการเอ่ยปากชวนเธอกลับไปทำงานพิธีกรอีกครั้งเธอจะกลับไปทำไหม มยุรา หยุดคิดสักพัก ก่อนที่จะตอบว่า "ไม่อะ..ไม่น่าจะไป"
แม้ว่าจะเป็นการปิดฉากพิธีกรรายการที่เธอทำมาอย่างยาวนานถึง 20 กว่าปี แต่ ตั๊ก มยุรา ก็ยืนยันว่าเธอยังคงรับงานในวงการบันเทิงต่อไป ซึ่งผลงานพ็อกเกตบุ๊กเรื่องราวชีวิตส่วนตัวที่เพิ่งเปิดตัวไปนั้น ก็กลายเป็นหนังสือขายดีในทันที ส่วนหลังจากนี้ไป ตั๊ก มยุรา จะมีผลงานอะไรให้ติดตามชมกันอีกบ้างนั้น แฟน ๆ ของสาวสวยสองพันปีคนนี้คงต้องรอลุ้นกันต่อไปนะคะ
