เรียบเรียงข้อมูลโดยกระปุกดอทคอม
ขอขอบคุณภาพประกอบจาก รายการทูไนท์โชว์ โพสต์โดยคุณ CiNNtv3
เรียกได้ว่า "รากบุญ" เป็นละครเรื่องที่ใครหลาย ๆ คนต่างเอ่ยปากชมว่า... ละครเรื่องนี้ "เพอร์เฟค" ไม่ว่าจะเป็นด้านเนื้อเรื่อง ฉาก เพลงประกอบ รวมถึงเหล่านักแสดงทุก ๆ คน ที่ตั้งใจเนรมิตให้ละครเรื่องนี้สมบูรณ์ แทบจะไม่มีที่ติเลยทีเดียว และเมื่อค่ำวันที่ 3 ธันวาคม ที่ผ่านมา ทางรายการทูไนท์โชว์ ก็ได้เชิญนักแสดงนำจากเรื่องดังกล่าว... มาพูดคุยถึงการเบื้องลึกเบื้่องหลังของกองละครรากบุญมาให้ได้ฟังกัน
จะว่าไปละครเรื่องนี้ถือเป็นงานท้าท้ายสำหรับนักแสดงทั้งเก่า และใหม่เลยทีเดียว ไม่ว่าจะเป็นสาวมาร์กี้ ราศี บาเลนซิเอก้า ที่รับบทเป็นนักศึกษาแพทย์ชั้นปีที่ 4 รับจ้างแต่งหน้าศพ โดยสาวมาร์กี้ กล่าวว่า เรื่องนี้ถือว่าเป็นการพลิกบทบาทของเธอจากหน้ามือเป็นหลังมือเลยล่ะ เพราะปกติเธอจะรับบทเป็นสาวโก๊ะ ๆ อารมณ์ดี แต่เรื่องนี้เธอต้องมีภูมิหลัง บ้านยากจน เป็นเด็กมีปัญหา ยิ่งไปกว่านั้น ละครเรื่องนี้เป็นละครผี แนวลึกลับ แต่เธอกลับไม่ซิกซ์เซ้นส์เรื่องผี ๆ เลย เกิดมาไม่เคยเจอผี หรือกลัวผีสักเท่าไหร่ เลยจิตนาการความกลัวนั้นออกมาได้ค่อนข้างยาก เพราะไม่รู้ว่า คนเห็นผีเขาแสดงออกอย่างไร ตกใจแค่ไหน
ส่วนทางด้าน ไมค์ พิรัชต์ นิธิไพศาลกุล พระเอกของเรื่อง ที่ถึงแม้ว่าจะไม่ใช่มืออาชีพ หรือผ่านละครมาหลายเรื่องเหมือนนักแสดงคนอื่น ๆ แต่ต้องยอมรับว่าในเรื่อง "รากบุญ" หนุ่มไมค์ สามารถถ่ายทอดบทบาทของ "ลาภิณ" ออกมาได้ดีจนน่าทึ่งเลยทีเดียว ขนาดหนุ่มเฟิร์ส เอกพงศ์ จงเกษกรณ์ ยังชมไม่ขาดปาก ทั้งนี้ เป็นเพราะว่า ตอนที่เฟิร์สรู้ว่าไมค์จะมารับบทลาภิณ ซึ่งเป็นบทที่ค่อนข้างยาก และลุคภายนอกของไมค์เขาเป็นนักร้อง เลยคิดว่าจะไหวหรือเปล่า แต่พอลองได้เข้าฉากกับไมค์ครั้งแรก หนุ่มเฟิร์สก็ต้องยกนิ้วให้ พร้อมกับบอกว่าสุดยอดจริง ๆ
สำหรับหนุ่มไมค์นั้น บอกเลยว่า บทของ ลาภิณ ถึงจะมีคาแรคเตอร์ใกล้เคียงกับตัวของไมค์ แต่ด้วยเรื่องอายุของตัวละครที่มากกว่าตัวเองประมาณ 4-5 ปี อีกทั้งยังมีหน้าที่การงานเป็นผู้บริหาร ไมค์จึงต้องพยายามถ่ายทอดบทบาทออกมาให้ดูเป็นผู้ใหญ่ และดูน่าเชื่อถือผ่านออกมาทางสายตาให้ได้มากที่สุด
ต่อด้วยนักแสดงที่ไม่พูดถึงคงไม่ได้... สำหรับ กิก ดนัย จารุจินดา กับบท ปราน เจ้าของรากบุญ และเป็นตัวเดินเรื่องทุกอย่าง ซึ่งเรื่องนี้ถึงแม้ไดอะล็อกบทพูดของหนุ่มกิกจะไม่เยอะ แต่หนุ่มกิกบอกว่า บทที่ไม่มีบทพูดนี่แหละ หินสุด ๆ เพราะต้องแสดงบท "ปราน" ผีรากบุญออกมาให้ดูน่ากลัว ถ่ายทอดพลังทุก ๆ สิ่ง ทุก ๆ อย่าง ออกมาทางท่าทาง และสายตาเท่านั้น แถมยังต้องเล่นกับ CG (คอมพิวเตอร์กราฟฟิก) ที่หนุ่มกิกต้องจินตนาการการปรากฏตัวปรานออกมาในรูปแบบต่าง ๆ ตามบท เช่น ออกมาเป็นกลุ่มควัน หรือแฝงตัวมากับเพดาน นับว่าเป็นเรื่องที่ต้องทำการบ้านอย่างหนักจริง ๆ
แต่หนุ่มกิกก็ไม่ท้อ พร้อมตะลุยดูหนังแนวลึกลับติดต่อกันนานนับเดือน เพื่อจับคาแรกเตอร์ของ "ปราน" ออกมาให้สมบูรณ์แบบที่สุด โดยหนุ่มกิกประทับใจการปรากฏตัวของมารในเรื่อง "คอนสแตนติน" จึงได้นำมาปรึกษากับผู้กำกับ ส่วนทางผู้กำกับเองก็ได้ยึดคาแรคเตอร์ของมารในหนังเรื่องดังกล่าว กับบทปรานเช่นเดียวกัน เลยทำความเข้าใจร่วมกันได้ง่ายขึ้น
ส่วนตัวละครที่ทั้งเท่ ทั้งหล่อ แถมยังเรียกเสียงกรี๊ดได้ไม่แพ้พระเอกอย่าง "เฟิร์ส" เอกพงศ์ จงเกษกรณ์ หรือ หมวดนวัช ที่ตกหลุมรักนางเอกข้างเดียว แต่นางเอกกลับไม่สนใจใยดีเอาซะเลย ส่วนบทบาทของหมวดนวัชนั้น หนุ่มเฟิร์ส เผยว่า เขารับบทเป็นตำรวจเรื่องนี้เป็นเรื่องที่ 3 แล้ว ซึ่งก็พอมีประสบการณ์อยู่บ้าง เขาเลยเอาจุดอ่อนจากที่เคยเล่นหลาย ๆ เรื่องมาปรับใช้ อย่างเช่น การถือปืน การเดินแบบไหนที่เท่ที่สุด หรือว่าบทพูดที่เขาต้องดูว่า เวลาตำรวจสอบสวน หรือทำคดีเขาใช้คำพูดประมาณไหน เป็นต้น
ปิดท้ายด้วยนักแสดงสาวแสนสวย ที่สร้างสีสันให้เรื่องนี้ไม่น้อย อย่าง "นิษฐา" รับบทโดย แจ๊คกี้ ชาเคอลีน ซึ่ง "นิษฐา" เป็นเพื่อนนางเอก ที่ตกหลุมรักผู้หมวดนวัช และไปมีเรื่องพัวพันกับคดีฆาตกรรม จนเป็นเรื่องเป็นราววุ่นวาย สำหรับบท "นิษฐา" สาวแจ็คกี้ กล่าวว่า เธอต้องปรับตัว เปลี่ยนบุคลิกใหม่หมด เพราะเรื่องก่อน ๆ เธอเล่นเป็นสาวห้าว ลักษณะการเดิน หรือน้ำเสียงก็เลยจะดูแมน ๆ ไปหน่อย เลยค่อย ๆ ปรับไปทีละนิด ๆ และก็หาจุดที่พอดีได้
เมื่อพิธีกรถามถึงเบื้องหลังว่า ฉากไหนที่ยากที่สุด หินที่สุดบ้าง ด้านสาวมาร์กี้ เผยว่า เป็นฉากที่เธอต้องเจอผีในช่วงแรก ๆ เพราะเธอไม่รู้ว่าการเห็นผีแล้วรู้สึกอย่างไร เธอก็เลยทำเหมือนพี่กิก คือไปหาหนังผี หนังลึกลับมาดู และจินตนาการเติมแต่งเข้าไปอีก และในที่สุดเธอก็วาดภาพว่าหากเธอต้องเจอผี จะมีอาการเข่าสุด หายใจแรง ๆ กลัวจนขาอ่อนยืนไม่ไหว ซึ่งหลัง ๆ เธอก็สามารถเล่นได้อย่างเป็นธรรมชาติมากขึ้น
ส่วนฉากที่หินที่สุดของ ไมค์ พิรัชต์ นั้น หนุ่มไมค์เผยว่า เป็นฉากที่ต้องเล่นแม่มาปรากฏตัวให้มาร์กี้เห็น แต่เขานั้นไม่เห็น ซึ่งต้องถ่ายทำสองครั้ง ในลักษณะเดียวกัน และในซีนนั้นเป็นซีนอารมณ์ เขาเลยต้องพยายามเก็บอารมณ์ให้ต่อเนื่อง เพื่อที่จะได้ตัดต่อออกมาได้อย่างลื่นไหล นอกจากนี้ ก็ยังมีบทเลิฟซีนเล็ก ๆ อีกบท ที่เขาโดนสั่งเทคบ่อยที่สุด นั่นก็คือบบทแซวนางเอกว่า "นอนน้อยไปหน่อยหรอ" ซึ่งตอนแรกเขาคิดว่าบทนี้ แค่คำพูดประโยคเดียวคงจิ๊บ ๆ แต่จริง ๆ แล้ว ซีนนี้มันเขินมาก โดนผู้กำกับสั่งเทคซะยับเลย
มาถึงคิวของสาวแจ็คกี้บ้าง ซีนที่ยากที่สุดของเธอเป็นซีนที่มาร์กี้ต้องมาช่วยเธอแก้มัด โดยเธอและมาร์กี้ถูกมัดมือมัดเท้า แต่ส่วนปากของมาร์กี้แกะหลุดแล้ว จึงจะมาช่วยเธอแกะ แต่ไม่ใช่แกะแบบธรรมดานะ เพราะมาร์กี้ต้องใช้ปากกัดปมผ้าให้หลุด... สาวแจ็คกี้ กล่าวต่อว่า ด้วยความที่เธอเป็นคนบ้าจี้ พอมาร์กี้เข้ามาแกะผ้า ลมหายใจก็รดต้นคอ เธอก็เลยจักกะจี้และเผลอหลุดหัวเราะออกมาหลายครั้ง กว่าจะผ่านซีนนี้ไปได้ เล่นเอาเธอสยิวกิ้วเลยทีเดียว (หัวเราะ)
สำหรับฉากที่ยากที่สุดของหนุ่มกิกนั้น เขาเผยว่า เป็นฉากที่คลี่คลายปมทุกอย่าง ซึ่งฉากนี้ "ปราน" จะได้พูดแล้ว (หัวเราะ) โดยมีบทพูดเกือบสองหน้ากระดาษ แถมเวลาถ่ายทำยังห้ามกระพริบตา แสงเลยเข้าเต็ม ๆ เป็นอะไรที่ต้องทน สู้แสงไฟ พร้อม ๆ ไปกับการแสดงอารมณ์ และจดจำไดอะล็อกที่ยาวแสนยาวนั้นให้ได้ด้วย ส่วนหนุ่มเฟิร์สนั้น บอกว่าฉากทุกฉากก็ยากแตกต่างกันไป เลยไม่มีฉากไหนหินที่สุด
ปิดท้ายกันด้วยเสียงเพราะ ๆ ของสาวแจ็คกี้ ที่มาร์กี้พยายามนำเสนอมาก ๆ ว่าเสียงของเธอเพราะแสนเพราะ โดยสาวแจ็คกี้โชว์พลังเสียงในเพลง "กุหลาบเวียงพิง" ขอบอกเลยว่า สาวแจ็คกี้นี่ความสามารถรอบด้านจริง ๆ ด้านหนุ่มไมค์เมื่อฟังสาวแจ็คกี้ร้องเพลงเสร็จ ก็ถึงกับออกปากว่า เรามาฟีจเจอร์ริ่งร่วมกันไหม งานนี้เรียกเสียงหัวเราะจากคนในห้องส่งได้อย่างมากเลยทีเดียวค่ะ
ประสบความสำเร็จอย่างล้นหลามขนาดนี้ กระปุกดอทคอมคงต้องยกนิ้ว พร้อม "บอกความจริง" กับนักแสดง "รากบุญ" ทุกคนว่า "สุดยอด" ไปเลยล่ะค่ะ ว่าแล้วก็อย่าลืมติดตามชมบทสรุปของ ลาภิณ และเจติยา กับปราน และกล่องรากบุญ ทางช่อง 3 ทุกวันศุกร์ – เสาร์ – อาทิตย์ เวลา 20.15 น. นะจ๊ะ
