x close

นี่แหละ 5 สาเหตุหลักที่ให้สาวยุคใหม่ผมเสีย

ผมเสีย



เรียบเรียงข้อมูลโดยกระปุกดอทคอม

          ผมของคนเราถูกทำร้ายอยู่เสมอไม่ทางใดก็ทางหนึ่ง ตั้งแต่การจัดแต่งทรง ยีผม มัดผมแน่น ๆ ดัดผม หนีบผม ทำสี หรือแม้กระทั่งการเดินกลางแดดก็ยังทำให้ผมแห้งเสียได้ เห็นผมถูกทำร้ายได้จากหลากวิธีแบบนี้ก็ชักท้อใจ ว่าจะมีผมสวย ๆ บ้างคงจะเป็นไปไม่ได้ซะแล้วมั้งนี่ .. แหม อันนี้ก็ท้อเกินไปค่ะ สาว ๆ ทุกคนมีสิทธิ์จะมีผมสวยได้ แม้เราจะเสี่ยงกับพฤติกรรมที่ทำให้ผมเสียอยู่ทุกวันก็เถอะ เพราะหากรู้จักฟื้นฟู และบำรุงดูแล ผมก็มีสภาพดีขึ้นได้นะจ๊ะ แต่จะฟื้นฟูบำรุงอย่างไรให้ถูกจุด ก็ต้องมารู้ต้นเหตุที่ทำให้ผมเสียกันเสียก่อนจะได้แก้ไขหรือป้องกันได้ถูกต้อง ถ้าอย่างนั้นมาดู 5 สาเหตุหลักของผมเสียที่สาวยุคใหม่ในตอนนี้ต้องประสบกันมากที่สุดกันเถอะ

         1. ยืดผมและดัดผม

          การยืดและดัดผมเป็นการทำให้พันธะเคมีของเส้นผมเปลี่ยนแปลง ส่วนหนึ่งถูกทำลายในขณะส่วนที่เหลือจัดเรียงตัวใหม่ อย่างไรก็ดีปัญหามักไม่รุนแรงนักในการดัดหรือยืดครั้งแรก และจะเริ่มแสดงอาการเด่นชัดในการยืดหรือดัดเพิ่มในภายหลัง

          วิธีดูแลและบำรุงได้ดีที่สุด ก็คือการใช้คอนดิชันเนอร์ทุกวัน มาส์กผมเพื่อบำรุงอย่างล้ำลึกอีกอาทิตย์ละครั้ง เลี่ยงการแต่งผมด้วยอุปกรณ์ที่ให้ความร้อน และหมั่นเล็มปลายผมทิ้งบ้างเพื่อไม่ให้ส่วนปลายผมที่เสียไปแล้วแสดงอาการแห้งชี้และกรอบเสียจนน่าเกลียดค่ะ

         2. การกัดสีและทำสีผม

          การกัดสีและทำสีผมสามารถแทรกซึมทำร้ายได้ถึงชั้นคอร์เท็กซ์ (cortex) ซึ่งเป็นชั้นเนื้อผม เพราะโปรตีนในเส้นผมถูกทำลายเนื่องจากสารเคมีในน้ำยาทำสี ที่กัดให้เกล็ดผมเปิดออกและแทรกซึมลงไป เพื่อทำให้เส้นผมสีอ่อนลงและเปลี่ยนเป็นสีใหม่ได้ตามต้องการ ที่ซ้ำร้ายก็คือผมที่เกล็ดผมทำให้ถูกเปิดออก ไม่สามารถปิดกลับหรือรักษาตัวเองได้ เว้นเสียแต่จะได้รับการบำรุงดูแลอย่างถูกต้องเท่านั้น ผลิตภัณฑ์สีผมจึงมักให้ทรีทเม้นท์เข้มข้นควบคู่มาในกล่องด้วยทุกครั้ง

          คุณสามารถซ่อมแซมผมที่เสียจากการทำสีได้ด้วยการเน้นการบำรุงด้วยการเพิ่มความชุ่มชื้น ใช้ครีมบำรุงที่มีโปรตีนเคราติน และกรดอะมิโน ซึ่งจะแทรกซึมเข้าสู่ชั้นคอร์เท็กซ์และช่วยเคลือบปิดเกล็ดผมได้

          นอกจากนี้เพื่อป้องกันไม่ให้ผมเสียมากยิ่งขึ้นกว่าเดิม การเติมสีผมครั้งต่อไปก็ควรเติมเฉพาะส่วนโคนผมที่งอกอกมาใหม่แทนที่จะทำสีผมซ้ำทั้งศีรษะ เพราะหากผมโดนทำร้ายซ้ำ ๆ บ่อย ๆ เข้า ในที่สุดก็จะแห้งกรอบและเสียไปอย่างถาวร จนต้องเลือกตัดผมที่เสียทิ้งเป็นคำตอบสุดท้าย

ผมเสีย

         3. ถูกทำลายจากความร้อนของไดร์เป่าผม

          เรื่องที่ผู้หญิงทำอยู่แทบทุกวันอย่างการไดร์และเซตทรงผม ค่อย ๆ ทำร้ายผมลงได้ทุกวัน เพราะความร้อนที่สูงเกินไป ทำให้เส้นผมสูญเสียความชุ่มชื้นและแห้งกรอบ ลองเปรียบเส้นผมเสมือนผ้าที่ถักทอขึ้นจากเส้นใย เมื่อผ้าตากแดดจัดเป็นเวลานานหรือรีดโดยเตารีดที่ร้อนจัดไปบ่อยครั้งเข้า ผ้าก็จะซีด กรอบ และง่ายต่อการฉีกขาด เส้นผมของคุณก็จะมีสภาพไม่ต่างจากนี้หากว่าโดนจ่อทำร้ายด้วยความร้อนเป็นประจำ

          วิธีป้องกันคือลดระดับความร้อนของไดร์เป่าผม ใช้เซรั่มปกป้องผมจากความร้อนก่อนเป่าจัดทรง รวมทั้งไม่เป่าไดร์จ่ออยู่กับผมกระจุกเดียว แต่ให้หวีและเคลื่อนมือไปมาตลอดเวลา หากไม่อยากให้ผมเสียก็ทำตามให้ได้นะคะ ไม่อย่างนั้นหากผมเสียแห้งกรอบขึ้นมาแล้ววิธีไหนก็คงกู้ได้ยากแล้วล่ะ

         4. ผมเสียจากการต่อผม

          หลาย ๆ คนที่เคยต่อผมน่าจะประสบปัญหาเจ็บรั้งหนังศีรษะกันมาบ้าง โดยเฉพาะในกรณีที่ผมที่ต่อนั้นยาวเกินไป ซึ่งเป็นการเพิ่มน้ำหนักให้กับผมจริง ๆ ที่ถูกยึดให้เป็นฐาน ตามมาด้วยอาการผมร่วง หรืออย่างน้อยก็รากผมอ่อนแอลงกว่าเดิม ทำให้ผมบางลงแม้จะแกะผมที่ต่อไว้ออกไปแล้วก็ตาม

          ส่วนใครที่ต่อผมอยู่และคิดว่ายังสามารถดูแลมันได้ดี ก็ควรต้องสระและบำรุงผมไม่ต่างจากการบำรุงผมจริง ๆ ทั้งยังต้องเลี่ยงทุกการกระทำที่จะดึงหรือรั้งผมมากกว่าเดิม นอกจากนี้ใครที่คิดว่าจะไปต่อผม ก็ควรสำรวจสภาพเส้นผมของตัวเองก่อนด้วยนะคะ ไม่ควรต่อผมหากว่าผมจริงของคุณแห้งเสียหรือถูกกัดทำสีจนมีแนวโน้มว่าจะเสียได้ง่ายอยู่แล้ว เพราะผมที่ต่อไปใหม่จะดึงผมจริงให้หนักเกินไป เร่งให้ผมขาดและแตกปลายได้เร็วกว่าเดิม

         5. ผมเสียจากการดูแลแบบผิด ๆ ของเจ้าตัว

          แค่หวีหรือเช็ดผมหลังสระ คุณก็สามารถทำร้ายผมได้อย่างไม่รู้ตัว หากว่าทำมันด้วยวิธีผิด ๆ เช่น ขยี้ผมแรง ใช้หวีแปรงกับผมที่ยังเปียก หวีผมจากโคนลงมาสุดปลายเพราะนึกว่าจะทำให้ผมเรียบตรงตลอดเส้น ฯลฯ

          หลังสระผมการเช็ดผมที่ถูกต้อง คือการใช้ผ้าขนหนูบีบและซับน้ำออกให้มากที่สุด ไม่ควรขยี้เพราะจะทำให้ผมพันกันได้ง่าย โดยเฉพาะผมที่ยังเปียกเป็นช่วงที่ผมอ่อนแอมาก อาจทำให้เส้นผมฉีกขาดได้ หากผมยุ่งให้หวีจากปลายเพื่อคลายผม ก่อนจะค่อย ๆ ไล่ขึ้นมาถึงโคนผม ใช้เฉพาะหวีซี่ห่างหวีผมขณะเปียก เพื่อให้เส้นผมเรียงตัวโดยไม่เสียดสีทำร้ายผมมากเกินไป และหากต้องการจัดทรงอย่างมีประสิทธิภาพ หลังจากผมแห้งประมาณ 70-80% แล้ว ให้ถูผลิตภัณฑ์จัดแต่งทรงผมลงบนมือ แล้วจึงลูบไล้ให้ทั่วเส้นผมตั้งแต่โคนจรดปลาย ไม่ใช่จากช่วงกลางความยาวของเส้นผมลงมาอย่างที่เห็นนางแบบทำในโฆษณานะคะ เรื่องเล็ก ๆ น้อย ๆ ที่เผลอทำเพราะเคยชินโดยไม่ได้ระมัดระวังเช่นนี้ เป็นสาเหตุที่ทำให้คนที่คิดว่าดูแลเส้นผมดีแล้ว ยังมีผมสวยได้ไม่เต็มร้อยเสียทีนั่นเอง


          และนี่ก็เป็น 5  สาเหตุหลัก ที่ทำให้ผมเสียได้มากที่สุดสำหรับสาว ๆ ในยุคปัจจุบัน แต่ถ้ารู้สาเหตุพร้อมวิธีป้องกันแบบนี้แล้ว ก็น่าจะช่วยให้คุณระวัง และรับมือกับมันได้กว่าเดิม ส่วนใครรู้ตัวว่าเริ่มผมเสียซะแล้ว ก็จะได้ดูแลบำรุงเพื่อฟื้นฟูเส้นผมให้กลับมาดูสวยได้อีกครั้งนะคะ




         





เรื่องที่คุณอาจสนใจ
นี่แหละ 5 สาเหตุหลักที่ให้สาวยุคใหม่ผมเสีย อัปเดตล่าสุด 17 มิถุนายน 2556 เวลา 10:06:55 6,959 อ่าน
TOP