ขอขอบคุณภาพประกอบจากก IG forjamesjirayu, chomismaterialgirl
รายการ 3 แซบ ย้อนหลัง (23 ตุลาคม 2556) เจมส์ จิรายุ ตั้งศรีสุข เม้าท์สนั่นสุดมันส์ โชว์ซีนหวานถูจมูกกับ 3 พิธีกร พร้อมโชว์ลีลาศ-ร้องเพลงเล่นกีต้าร์ให้แฟน ๆ ฟินกันเบา ๆ
ถ้าเอ่ยถึง ซุปตาร์ฟ้าแล่บ คงจะเป็นใครไปไม่ได้นอกจาก เจมส์ จิรายุ ตั้งศรีสุข อย่างแน่นอน ที่แม้ว่าบทบาทคุณชายพุฒิภัทรแห่งวังจุฑาเทพ จะจบลงไปแล้ว แต่กระแสความฮอตยังพุ่งแรงอย่างต่อเนื่อง และล่าสุดกับบทบาท วันเฉลิม ในทองเนื้อเก้า ที่แฟน ๆ รอคอยการเปิดตัวของหนุ่มเจมส์อย่างใจจดใจจ่อ งานนี้ รายการ 3 แซบ (23 ตุลาคม 2556) จึงไม่รอช้าดึงตัว เจมส์ จิรายุ มาสัมภาษณ์กันซะเลย ท่ามกลางกลุ่มแฟนคลับที่มาให้กำลังใจอย่างล้นหลาม
และเพียงแค่หนุ่มเจมส์ เปิดตัวมาเท่านั้น ปรากฏว่าพิธีกร กาละแมร์ และ ม้า อรนภา แย่งกันหอมแก้มหนุ่มเจมส์กันใหญ่จนได้ไปกันคนละฟอด พร้อมกับเย้ยแฟนคลับว่า แก้มเจมส์จินิ่มมาก งานนี้ทำเอาแฟนคลับกรี๊ดสนั่นห้องส่งเลยทีเดียว
ขณะที่ เจมส์ จิรายุ เผยว่า ตื่นเต้นมากที่ได้มาออกรายการคนเดียวเพราะเป็นครั้งแรก ซึ่งก่อนหน้านี้เคยมาออกร่วมกับเพื่อน ๆ ที่แสดงในละครสุภาพบุรุษจุฑาเทพแล้ว ซึ่งหลังละครจบไปดังเพียงชั่วข้ามคืนก็ทั้งตกใจและดีใจที่มีแฟนคลับที่น่ารักทุกคนติดตาม โดยตอนแรกยังไม่รู้ตัวเลยว่าตัวเองดัง เพราะยังมีถ่ายละครที่ติดอยู่ ซึ่งชีวิตอยู่ในกองตลอดไม่ได้ออกไปไหนเลย แต่ก็รู้เพราะเห็นมีคนติดตามในโซเชียลมากขึ้น และถึงจะดังแล้วตนก็ยังทำตัวปกติ ยังซนเหมือนลิงเหมือนเดิม
ด้านพิธีการถามว่า ได้ยินมาว่าละครออนแอร์วันแรก เจ้าตัวถึงกับกรี๊ดแตกเลยนั้น หนุ่มเจมส์ ยอมรับว่า เป็นเรื่องจริง ตอนนั้นตนไปกินข้าวกับพ่อแม่ และพี่ปิ๊ก ที่ร้านอาหารก็ไปดูกัน พอเห็นฉากแรกที่เดินลงจากเครื่องบินมา ตนก็กรี๊ดเลย
เมื่อถามถึงกระแสข่าวลือที่ว่าหนุ่มเจมส์ ได้ไปศัลยกรรมมานั้น เจ้าตัวปฏิเสธว่า ไม่ได้ทำ และเพื่อให้เคลียร์กันชัด ๆ พิธีกรก็มีรูปเจมส์จิตั้งแต่วัยเด็กมาโชว์เพื่อยืนยันว่า เจ้าตัวน่ะฉายแววหล่อตั้งแต่เด็ก ๆ แล้ว และที่สำคัญตอนนี้วงการศัลยกรรมยกให้หน้าของเจมส์จิ เป็นหน้าที่คนอยากทำศัลยกรรมตามมากที่สุด
ส่วนกระแสข่าวที่ว่าเจมส์ ดังแล้วหยิ่ง เข้าถึงยาก กฎเกณฑ์เยอะ ให้สัมภาษณ์เดี่ยวก็ไม่ได้ ไม่ให้เอาไมค์จ่อปาก ไม่ให้แฟนคลับถ่ายรูปคู่ เวลาออกงานก็มีบอร์ดี้การ์ดที 10-20 คนนั้น เจมส์ ชี้แจงว่า จริง ๆ ก็ไม่ได้เป็นแบบนั้น เวลาตนเจอแฟนคลับก็ถ่ายรูปด้วยหมดใช่ไหม (พร้อมหันไปถามแฟนคลับ ซึ่งแฟนคลับพูดเป็นเสียงเดียวกันว่า ใช่) สำหรับเรื่องห้ามเอาไมค์จ่อปากก็ไม่ใช่ เพราะเห็นสื่อมาเยอะ ทีมงานก็เลยคิดว่าเอาไมค์มาวางรวมกันเลยดีไหม ส่วนสัมภาษณ์เดี่ยวไม่ได้ก็ไม่จริง เพราะมีสัมภาษณ์ทุกวันเลย และบอร์ดี้การ์ดเยอะหรือไม่นั้น ตนไม่รู้เลย เพราะทีมงานจัดมาให้คอยอำนวยความสะดวก
และเรื่องกระแสที่มีคนตั้งแฟนเพจแอนตี้นั้น ก็อาจจะมีบางคนที่เขาไม่เข้าใจก็เลยไม่ชอบ แต่ตนก็จะรับฟังเช่นกัน และถ้าเรื่องไหนไม่จริงก็ปล่อยผ่านไป ซึ่งพี่ปิ๊กสอนตั้งแต่เข้าวงการมาแล้วว่า เราไม่ได้ทุกอย่างบนโลกใบนี้อยู่แล้ว ต้องเข้าใจและปล่อยวางมันไป
สำหรับกระแสคู่จิ้นระหว่าง เจมส์จิ และ เบลล่า ราณี จนแฟนคลับตั้งชื่อให้ว่า จิราณี แถมมีภาพหลุดหอมแก้มกันออกมาด้วยนั้น เจมส์ ก็เผยแบบขำ ๆ ว่า ก็อยากหอมบ้างอ่ะ (ทำเอาแฟนคลับกรี๊ดลั่น) พร้อมกับกล่าวต่อไปว่า เป็นเพื่อนร่วมงานกันครับ ส่วนกับดาราคนอื่นอย่างพี่พันช์ ก็ไม่มีอะไร ผู้ชายเหมือนกัน (หัวเราะ) อย่างฉากเขี่ยจมูก ผู้กำกับต้องสั่งให้พี่พันช์เขิน แต่เขาไม่เขินเลย ทางด้านพิธีกร 3 แซบเลยขอชนจมูกกับเจมส์จิให้แฟน ๆ ได้อิจฉากันอีกด้วย ส่วนพี่เต้ยได้ร่วมงานกันเป็นโฆษณารถยนต์ ซึ่งเป็นฉากขอแต่งงานแบบขำ ๆ แต่ก็ประทับใจมาก อัพรูปลงไอจีตลอด เมื่อพิธีกรถามว่าไม่กลัว อเล็กซ์ หวานใจ เต้ย ว่าเอาเหรอ หนุ่มเจมส์ กล่าวแบบขำ ๆ ว่า "ทำไมชีวิตผมต้องไปยุ่งกับคนที่มีแฟนแล้วตลอดเลย"
ส่วนทางด้านสาว เต้ย จรินทร์พร ก็เผยความประทับใจที่มีต่อเจมส์จิผ่านรายการเช่นกันว่า "ก็มีความสุขมากค่ะที่ได้ทำงานร่วมกับน้อง น้องน่ารักมาก ๆ เลยค่ะ เป็นคนขี้เล่นและชอบแหย่ ชอบแซวคนอื่นตลอดเวลา อยู่กับน้องเจมส์แล้วสนุกดีค่ะ"
เมื่อถามว่า ตอนแรกหนุ่มเจมส์จิไม่คิดอยากเป็นดาราเลยนั้น จริงหรือไม่ เจ้าตัวเล่าว่า ตอนแรกที่ยังไม่เข้าวงการ แต่เพราะคุณแม่อยากเห็นลูกออกทีวี ซึ่งตอนนั้นตนยังเป็นเด็กติดเกมอยู่และไม่ได้ดูทีวีเลย ตอนช่วงป.5-6 คุณพ่อบังคับตนไปเรียนลีลาศตอนเย็น ซึ่งตนก็จะโดนเพื่อนล้อว่าเป็นตุ๊ด แต่ทั้งนี้ตนยังได้ไปแข่งลีลาศระดับประเทศด้วย โดยเข้ารอบ semi-final แถมเจ้าตัวยังโชว์บิดตูดแบบน่ามันเขี้ยวให้ได้ชมกันด้วย ขณะที่ทางด้าน แม่ของเจมส์จิ เผยว่า ที่ให้ลูกไปเรียนลีลาศเพราะอยากให้สุขภาพดีและจะช่วยให้บุคลิกดี และวันนี้ลูกดังแล้วก็รู้สึกภูมิใจและดีใจที่เขาทำได้ เพราะเห็นแววเขามาตั้งแต่เด็กแล้ว
นอกจากความสามารถด้านลีลาศแล้ว เจมส์จิยังได้โชว์ความสามารถอีกอย่างคือ ร้องเพลง เล่นกีตาร์ โดยเจ้าตัวโชว์เพลงชายกลาง ของแสตมป์ ให้แฟน ๆ ได้ฟังกันด้วย ทั้งนี้ เจมส์ เล่าว่า ตนเล่นเบส เล่นกีตาร์ เปียโน เป็น ตอนอยู่ที่พิจิตรมีตั้งวงดนตรีกับเพื่อน ๆ โดยตนเล่นเบส และล่าสุดตนจะไปเรียนร้องเรียนเต้นที่เกาหลีประมาณเดือนครึ่ง แต่ไม่ได้ไปออกอัลบั้มที่โน่น อยู่ที่ประเทศไทยนี่แหละ คนไทยน่ารักไง (ยิ้ม)
เมื่อถามพี่ปิ๊ก ผู้จัดการส่วนตัวกันบ้างว่า ได้ยินมาว่า ตอนแรกที่พี่ปิ๊กเห็นรูปเจมส์จิแล้วคิดว่าเป็นมาริโอ้ จริงหรือไม่นั้น พี่ปิ๊ก กล่าวว่า หน้าเขาร่วมสมัยมาก และภาพมันไม่ชัดด้วยเพราะเขาแลบลิ้น พอเข้าไปดูถึงรู้ว่าไม่ใช่ จากนั้นก็ทำสัญญา และเจมส์จิก็เข้ามาอยู่ในกรุงเทพฯ
นอกจากนี้ เจมส์ ยังเล่าให้ฟังด้วยว่า การเข้ามากรุงเทพฯ ทำให้รู้จักใช้เงินมากขึ้น เพราะตอนทำงานได้เงินมาช่วงแรกถ่ายไป 10 ตอน ได้มา 2 แสน จึงบอกพ่อแม่ว่าต่อไปนี้ไม่ต้องให้เงินตนแล้ว แต่ตนกลับใช้จนหมดภายใน 3 อาทิตย์เพราะเก็บกด เหลือเงินอยู่แค่ 700 บาท ต้องใช้อีก 7 วัน ตนเครียดเลย จึงติดสอยห้อยตามพี่ปิ๊กไป จะได้ประหยัดค่าข้าว ค่ารถ หลังจากนั้นก็บริหารเงินให้ดีขึ้น
และสุดท้ายนี้ เจมส์ จิรายุ ยังได้ฝากผลงานละคร ทองเนื้อเก้า และเดือนธันวาคมก็จะมีเรื่อง รักสุดฤทธิ์ รวมถึงภาพยนตร์เรื่อง Timeline ในเดือนกุมภาพันธ์ปีหน้า ใครที่เป็นแฟน เจมส์จิ ก็ห้ามพลาดกันนะจ๊ะ