x close

เทพ โพธิ์งาม กับชีวิตที่ไม่ตลก ในวู้ดดี้เกิดมาคุย


เทพ โพธิ์งาม กับชีวิตที่ไม่ตลก ในวู้ดดี้เกิดมาคุย

เรียบเรียงข้อมูลโดยกระปุกดอทคอม
ขอขอบคุณภาพประกอบจาก คุณ LAKORNHD Thaitv (Official) สมาชิกเว็บไซต์ยูทูบดอทคอม

           เทพ โพธิ์งาม พูดคุยแบบเจาะลึก หลังประกาศลาออกจากวงการ ล้วงทุกคำตอบ เผยทุกเบื้องหลังชีวิตตลกอาวุโส ในวู้ดดี้เกิดมาคุย

           หลังจากที่มีกระแสข่าวออกมาว่าป๋าเทพ หรือเทพ โพธิ์งาม ตลกชื่อดังของเมืองไทย ประกาศลาออกจากวงการและจะย้ายไปอยู่ที่ประเทศลาว ท่ามกลางความงุนงงของสังคม ล่าสุด รายการวู้ดดี้เกิดมาคุย ที่ดำเนินรายการโดยวู้ดดี้ วุฒิธร มิลินทจินดา ออกอากาศเมื่อวันอาทิตย์ที่ 26 มกราคม 2557 ได้มีการเชิญป๋าเทพ มาพูดคุยแบบเจาะลึกว่าป๋าเทพ จะออกจากวงการจริงหรือไม่

  เทพ โพธิ์งาม กับชีวิตที่ไม่ตลก ในวู้ดดี้เกิดมาคุย

          งานนี้วู้ดดี้จัดเต็มตั้งแต่ต้นรายการโดยการป้อนคำถามใส่ป๋าเทพว่า ที่ออกมาพูดว่าจะลาออก เพื่อต้องการสร้างกระแสโปรโมทหนังหรือเปล่า โดยป๋าเทพได้ตอบกลับไปว่า ไม่ได้สร้างกระแสเพื่อโปรโมทหนัง เพราะหนังเพิ่งติดต่อเข้ามาตอนข่าวออกไปแล้ว 2 วัน และไม่จำเป็นต้องสร้างกระแส เพราะว่าเบื่อแล้ว และที่พูดว่าจะลาออกนั้น พูดในงานเปิดตัวหนัง เนื่องจากนักข่าวเข้ามาสัมภาษณ์ถามว่าทำไมไม่ค่อยเห็นหน้าในทีวีเลยเดี๋ยวนี้ ก็ตอบไปว่าไม่ค่อยมีงาน เจ๊งบ่อย และคิดว่าจะไปอยู่ลาวดีกว่า แต่ที่พูดเนี่ยไม่ได้คิดว่ามันจะเป็นข่าว เพราะก็พูดว่าเจ๊งมาตลอด

          วู้ดดี้ถามป๋าเทพต่อว่า ทำไมทำธุรกิจแล้วล้มเหลว ป๋าเทพก็ตอบว่า เพราะอยากทำแต่สายตายาวไม่พอไม่สามารถทำได้ มันจะเจ๊งยังไงแต่เราก็ชอบทำ ทำธุรกิจเจ๊งมาเกือบ 20 อย่าง ทั้งรับซื้อเศษเหล็ก ขายของชำ ขายข้าวสาร ขายตึก ทำน้ำข้าวกล้องที่ไปได้สวยแต่ติดปัญหาตรงที่ไม่มีสถานที่ทำ ทำปุ๋ยแต่เพื่อนร่วมหุ้นหนีเพราะกลัวเจ๊ง อู่ซ่อมรถยนต์ ขายอะไหล่ก็เคยทำ

  เทพ โพธิ์งาม กับชีวิตที่ไม่ตลก ในวู้ดดี้เกิดมาคุย

           ส่วนหนังเรื่องซามูไรที่ป๋าเทพเป็นคนทำแต่ยังไม่เข้าฉายนั้น ป๋าเทพบอกว่า เพราะเจ้าของเขาบอกว่าหนังไม่ดี แต่ตนบอกกับเขาไปว่าเป็นหนังที่ไม่ได้ทำเหมือนหนังตลกทั่วไป ศิลปะมันต้องอิสระที่สุด นายทุนต้องยอมรับ และอีกอย่างหนังยังไม่ได้ฉายเลย คุณไม่สามารถรู้ได้หรอกว่ามันเป็นยังไง ก็ควักเงินลงทุนเองไป 3 ล้านบาท นายทุนออกให้อีก 7 ล้านบาท ตอนนี้ยังมีหนี้อยู่ประมาณ 7-8 ล้านบาท ตนไม่ใช่คนที่ทำงานแล้วเอาไปกินหรือเล่นพนันหมด แต่ทำงานแล้วเอาเงินมาซื้อที่ดินตลอด แต่เมื่อทำธุรกิจเจ๊งก็ต้องเอาไปจำนำ ทุกวันนี้ก็รอจังหวะว่าเมื่อไหร่เราจะมีอะไรดี ๆ

          "ตนมีความล้มเหลวเป็นเพื่อนสนิท และคิดว่าการเจ๊งมันก็เป็นเหมือนเกมกีฬา มันสนุกมาก เพราะต้องลุ้น ถึงแม้จะล้มกี่ครั้งแต่เดี๋ยวก็ต้องลุกมาสู้ใหม่ได้"

          เมื่อถามว่าไม่ห่วงครอบครัวที่อยู่ข้างหลังบ้างเหรอ ป๋าเทพ ตอบว่า ในเมื่อตัดสินใจที่จะลงเรือลำเดียวกันแล้ว ก็ต้องไปด้วยกัน ทุกวันนี้หันมาพึ่งธรรมะ และเชื่อว่าบนโลกใบนี้ไม่มีอะไรที่เป็นของเรา ลูกเมียของเราก็ไม่ใช่ของเรา เราตายเมียก็เป็นของคนข้างบ้านแล้ว ลูกก็ไม่ใช่ของเรา มันไม่มีประโยชน์ที่ต้องวางแผนชีวิต ลูกเมียเคยบอกว่าให้หยุดเถอะ แต่ตนก็ถามกลับว่าถ้าไม่ทำแล้วจะเอาอะไรกินกัน

          "ยืนยันว่ายังรักงานในวงการบันเทิงอยู่ เล่นละคร เล่นหนังได้ แต่จะขอลาออกจากการเป็นตลก เนื่องจากรู้สึกว่ามันเกินอายุของตนเองไปแล้ว และอยากจะเปลี่ยนอะไรใหม่ ๆ ซึ่งแน่ใจว่าจะลาออกจากวงการตลก โดยไม่คิดจะกลับมาทำอีก"

 เทพ โพธิ์งาม กับชีวิตที่ไม่ตลก ในวู้ดดี้เกิดมาคุย

           ด้านภรรยาของป๋าเทพ เผยว่า อยู่กันมา 30 ปี เขาก็เป็นเหมือนเดิม มีนิสัยที่แตกต่างจากทุกคน ตอนที่พ่อแม่รู้ว่าเรามีสามีเป็นคนมีชื่อเสียงก็ดีใจมาก แต่ทุกวันนี้ชีวิตกลับลุ่ม ๆ ดอน ๆ อยู่เลย ถ้าเขาไม่เอาเงินที่ได้มาไปลงธุรกิจหมด ชาตินี้ก็ไม่มีทางใช้เงินหมด แต่พอทำธุรกิจชาตินี้ก็ยังไงก็ไม่พอกิน สำหรับเรื่องที่เขาบอกว่าห่วงสัตว์มากกว่าครอบครัวนั้น เพราะเขาคิดว่าคนมีมือมีเท้าทำมาหากินได้ แต่สัตว์ทำมาหากินเองไม่ได้ เขาจึงรักและเป็นห่วงสัตว์มากกว่า บางครั้งตนก็คิดว่าทำไมครอบครัวเราถึงเป็นแบบนี้ ทุกวันนี้ลูกสาวรับจ้างร้องเพลงตามงานแต่งงาน สถานบันเทิง และก็อาบอบนวด แต่ตนก็บอกให้ลูกลาออกจากอาบอบนวดได้เลย ถ้าลูกทำแล้วไม่สบายใจ

  เทพ โพธิ์งาม กับชีวิตที่ไม่ตลก ในวู้ดดี้เกิดมาคุย

          ขณะที่ลูกชายบอกว่าที่ธุรกิจพ่อล้มเหลวบ่อยนั้น เพราะพ่อเป็นคนที่คิดแล้วก็ทำเลย ไม่ศึกษาก่อน เขาไม่ได้มองคนข้างหลังเลยว่าเป็นอย่างไร แต่แม่ก็บอกตลอดว่าพ่อทำเพื่อเรา บางอย่างเราก็รู้ว่ามันตันไปไม่ได้ แต่ก็ไม่พูด เพราะเคยคุยกับเขาแล้วเขาบอกว่าให้ตามเขามาก็แล้วกัน ใจอยากให้เขาหยุดเพราะพ่อก็อายุเยอะแล้ว อยากเห็นพ่อมีความสุขอยู่สบาย แต่พ่อพูดว่าเมื่อไหร่ที่เห็นเขาหยุดเมื่อนั้นก็แปลว่าเขาตายแล้ว และล่าสุดพ่อก็ประกาศขายบ้านที่ศาลายา เป็นบ้านที่อยู่ทุกวัน ยังไม่ได้คิดเลยว่าจะไปอยู่ที่ไหนกัน

          ด้านพิธีกร วู้ดดี้ ได้บอกความรู้สึกของตัวเองว่า ได้มองเห็นป๋าเทพในอีกมุมหนึ่งที่ไม่เคยเห็นมาก่อน และมีความรู้สึกว่าอยากจะช่วยป๋าเทพ จึงบอกไปว่า วู้ดดี้เขียนเช็คให้เลย 7 ล้านบาท ให้เอาไปเคลียร์หนี้ แต่ป๋าเทพ ตอบกลับมาว่า "ไม่รับ"...เพราะชีวิตของตัวเองต้องแก้ไขเอง








 

เรื่องที่คุณอาจสนใจ
เทพ โพธิ์งาม กับชีวิตที่ไม่ตลก ในวู้ดดี้เกิดมาคุย อัปเดตล่าสุด 27 มกราคม 2557 เวลา 17:39:37
TOP