x close

น้ำตาล ไม่หวั่นกระแสเมจิก สกิน กระทบธุรกิจ ยัน อย. ถูกต้อง ตรวจสอบได้


         น้ำตาล พิจักขณา ไม่หวั่นกระแสเมจิก สกิน กระทบธุรกิจ พร้อมให้ตรวจสอบ ยันทำทุกอย่างถูกต้อง ไม่ใส่สาร แย้มรัก ไผ่ พาทิศ แฮปปี้
น้ำตาล พิจักขณา

       ต้องยอมรับเลยว่าเดี๋ยวนี้ดาราหลายคนหันมาทำธุรกิจอาหารเสริมกันมากขึ้น แต่เมื่อเร็ว ๆ นี้เพิ่งมีข่าวจับกุมบริษัทรับผลิตหลายแบรนด์ จนเป็นข่าวดังสนั่น ทำให้คนจับตาธุรกิจของเหล่าดาราในวงการบันเทิง ล่าสุด (9 พฤษภาคม 2561) นางเอกสาว น้ำตาล พิจักขณา ก็เป็นคนหนึ่งที่ทำธุรกิจนี้ ซึ่งเจ้าตัวก็ยืนยันว่า สินค้าของเธอทำทุกอย่างถูกต้อง

กับเรื่องที่เกิดขึ้นมีผลกระทบต่อเราอย่างไรบ้าง ?

       น้ำตาล : คือผลกระทบที่มาถึงเราโดยตรงจัง ๆ เลย ตอนนี้ยังไม่มีค่ะ เพราะตาลว่าอาจจะเป็นในแง่ดีมากกว่า ที่มีกระแสข่าวแบบนี้ออกมา ทำให้ผู้บริโภคตระหนักถึงความปลอดภัยมากยิ่งขึ้น ซึ่งเราก็ภูมิใจนำเสนอมากว่าของเราปลอดภัยจริง ๆ สามารถตรวจสอบได้ ไม่ว่าจะเป็น อย. หรือสารต้องห้ามต่าง ๆ เพราะว่านอกจาก อย. แล้ว เราก็ยังมีส่งตรวจในแล็บที่ได้มาตรฐานสากลที่สามารถเชื่อถือได้ค่ะ

ตอนนี้ดาราจะโดนเรื่องเกี่ยวกับการโฆษณาเกินจริงเกี่ยวกับสรรพคุณของสินค้าตัวเองเยอะ ?

       น้ำตาล : ก็ตาลได้ติดตามข่าวมาบ้างแล้วค่ะ แต่ก็อย่างที่ข่าวออกไป รวมถึงหลาย ๆ แบรนด์ที่โดน ในโลกโซเชียล ค่อนข้างจะควบคุมยากในแง่ของคำพูดต่าง ๆ บางทีอาจจะไม่ได้มาจากในตัวของแบรนด์หรือว่าของตัวแทน แต่ว่ามาจากปากต่อปาก มันก็สุ่มเสี่ยง

แสดงว่าเราก็รู้สึกว่ามันเป็นการดิสเครดิต ?

น้ำตาล พิจักขณา

       น้ำตาล : ที่จริงแล้วตาลว่าไม่ค่ะ ต่างคนต่างตั้งใจสร้างแบรนด์ของตัวเองมากกว่า แล้วตาลก็เชื่อว่าทุกคนก็อยากจะให้สินค้า รวมถึงในตัวแบรนด์หรือผลิตภัณฑ์ออกมาปลอดภัยสู่ผู้บริโภคมากที่สุด ซึ่งตัวตาลเองที่บอกว่าติดตามข่าวจากแบรนด์อื่น ๆ บ้าง เราก็ติดตามแค่ข่าวแค่นั้น แต่ว่าในส่วนของตัวแบรนด์ เราก็โฟกัสในส่วนของแบรนด์ S 360’ ของเรา ว่าเราจะทำให้ผู้บริโภคเชื่อมั่นในตัวผลิตภัณฑ์ของเราได้ยังไง ซึ่งทางตาลเอง รวมถึงทีมงานเราก็มีการโพสต์ภาพเอกสารบางอย่างที่สามารถเผยแพร่ได้ว่าของเราปลอดภัยจริง ๆ แล้วก็ได้มาตรฐาน

ตอนนี้ยังไม่มีการเรียกพบหรือตรวจสอบจากทางเจ้าหน้าที่ใช่ไหม ?

       น้ำตาล : ถึงตัวตาลยังไม่มีค่ะ รวมถึงตัวแบรนด์เองก็ยังไม่มีค่ะ อย่างที่บอกว่า ถ้าคนที่ติดตามตาล รวมถึงติดตามแบรนด์มาก็จะเห็นว่ากว่าเราจะเปิดผลิตภัณฑ์ S 360’ ขึ้นมา เราใช้ระยะเวลาค่อนข้างนานเป็นปีเหมือนกัน ในการทดลองสูตรต่าง ๆ เพื่อที่จะให้ผลิตภัณฑ์ของเราปลอดภัยได้มาตรฐานจริง ๆ เพราะว่าพอกินเข้าไปแล้วมันมีผลต่อร่างกายผู้บริโภค เราก็เล็งเห็นถึงความสำคัญตรงนี้ รวมถึงตัวตาลเองก็เคยกินในส่วนของอาหารเสริมต่าง ๆ เราก็เอามาลบข้อดี-ข้อเสีย จนตอนนี้ได้ผลดีต่อตัวเรา แล้วเราก็จริงใจจริง ๆ ที่เราจะเอาผลิตภัณฑ์ตัวนี้ให้กับผู้บริโภคทุกคน

ยอดผลิตภัณฑ์เราไม่ตกเลยใช่ไหม ?

       น้ำตาล : ตาลว่าที่จริงแล้วหลาย ๆ แบรนด์น่าจะได้รับผลกระทบตรงนี้ แต่มันเป็นเรื่องดีนะคะ ที่มันเป็นกระแสในเรื่องของอาหารเสริม มันทำให้หลาย ๆ คนก่อนที่จะซื้ออะไรมาบริโภค มีการเช็ก อย. มากขึ้น เช็กส่วนผสมสารต้องห้ามมากยิ่งขึ้น ซึ่งตรงนี้ก็เป็นข้อดีเหมือนกัน ตาลว่าทุกสิ่งทุกอย่างมันต้องใช้ระยะเวลาค่ะ มันสำคัญมาก ๆ แล้วตาลก็เชื่อว่าแบรนด์ที่ทำเพื่อผู้บริโภคจริง ๆ ที่ใส่ใจจริง ๆ แล้วก็ตั้งใจทำแบบมีคุณภาพจริง ๆ ก็จะสามารถผ่านตรงนี้ไปได้

เราได้คุยกับปรางบ้างไหม ว่าพอเกิดเหตุการณ์แบบนี้ เราต้องตั้งรับอย่างไรบ้าง ?

       น้ำตาล : คือคุยอยู่แล้วค่ะ ตัวตาลเองแล้วก็ปราง รวมถึงหุ้นส่วน เรามีการประชุมกันทุกเดือนอยู่แล้ว ถึงแม้ว่าจะไม่เกิดเหตุการณ์ตรงนี้ขึ้นมา เราก็ประชุมกันว่าผลิตภัณฑ์ของเรา เรามองในระยะยาวแบบยั่งยืน เราไม่ได้คิดที่จะเกาะกระแสหรือว่าทำเพื่อที่จะกอบโกยผลประโยชน์กับผู้บริโภคซึ่งเรามองในแง่ของระยะยาว แล้วก็เราไม่ได้หยุดแค่อาหารเสริม S 360’ ตัวนี้ เรายังมีผลิตภัณฑ์ตัวอื่นอีกที่เรากำลังคิด ก็อย่างที่บอกว่าเราประชุมกันคุยกันอยู่แล้ว แล้วตาลกับปรางก็มองว่ามันก็เป็นแง่ดี

เราสร้างความมั่นใจให้กับลูกค้าอย่างไรบ้าง ?

       น้ำตาล : ตาลมองว่า เราเล็งเห็นปัญหานี้มาตั้งแต่แรกอยู่แล้ว ตาลกับปรางก็คุยกันมาตั้งแต่แรกอยู่แล้วว่าขนาดตัวเราเองกินอาหารเสริมก็มีทั้งเห็นผล ไม่เห็นผล เราถึงรู้ข้อดีและข้อเสีย การที่มาทำอาหารเสริมตรงนี้มันก็มีเหมือนกัน ดังนั้นสิ่งที่เราจะยืนยันให้ผู้บริโภคเห็นได้ก็คือตาลก็ทำรายการ ซึ่งรายการตรงนี้ตาลเรียนภาพยนตร์มา ก็เลยอยากจะมีรายการเป็นของตัวเอง ก็เลยแบบว่างั้นเราเอาผลิตภัณฑ์ของเรามาร่วมกับรายการไหม ทำให้ผู้บริโภคเห็นว่าเรากินจริง ๆ ใช้จริง ๆ มันไม่มีอะไรที่เป็นอันตราย เราก็ยังใช้ชีวิตกันปกติทั่วไป

ตอนนี้เหมือนเรากำลังพลิกวิกฤตให้เป็นโอกาสให้คนรู้จักแบรนด์เรามากขึ้น ?

       น้ำตาล : ค่ะ ที่จริงรายการนี้ตาลทำควบคู่กับแบรนด์มาตั้งแต่ต้นอยู่แล้ว เพื่อที่จะแสดงถึงความจริงใจให้ทุกคนเห็นว่าตัวตาลเองไม่ได้อยู่ในฐานะพรีเซ็นเตอร์หรือว่าคนที่อยู่ ๆ คิดจะมาฉวยโอกาสกับผู้บริโภค เราตั้งใจที่จะทำแบรนด์ของเราออกมาให้ดีที่สุด เรามองในแง่ของระยะยาว ดังนั้นไม่ได้กอบโกยระยะสั้น ๆ ซึ่งเราเองก็ไม่ได้แบบเปิดตัวยิ่งใหญ่เพื่อที่จะกอบโกยอะไร ค่อย ๆ ทำเล็ก ๆ ของเราไปเรื่อย ๆ ซึ่งเรามั่นใจว่าผลิตภัณฑ์ของเราปลอดภัย

เราก็รับรีวิวอย่างอื่นไม่ได้เลยใช่ไหม ?

น้ำตาล พิจักขณา

       น้ำตาล : คือที่จริงแล้ว ตาลว่านักแสดงหลาย ๆ คนก่อนที่จะรีวิวอะไร ก็ต้องมีการศึกษามาอย่างดีอยู่แล้ว แล้วเรายิ่งเห็นข่าวแบบนี้มันก็ทำให้ตัวนักแสดงเอง รวมถึงทุก ๆ คนที่จะรีวิวอะไรก็แล้วแต่ ระวังตัวเองมากยิ่งขึ้น มีการตรวจสอบมากยิ่งขึ้น เพราะว่าบางทีเราเชื่อกระแสไม่ได้แล้วค่ะ

เห็นคลิปที่ไปเที่ยวกับไผ่ดูหวาน ?

       น้ำตาล : เขาเป็นคนชอบตัดต่ออะไรแบบนี้ เหมือนเป็นรุ่นพี่เรียนภาพยนตร์

เขาตั้งใจตัดต่อทำเซอร์ไพรส์หรือเปล่า ?

       น้ำตาล : ไม่ค่ะ แต่เขาตั้งใจมาก จนบางทีเราหงุดหงิด อยากไปเที่ยวที่ต่อไปแล้ว เขาก็ยังถ่ายอยู่ ก็ดีนะคะ เขาได้ค้นพบในสิ่งที่เขาชอบ และทำออกมาดี จนขนาดเราที่เรียนมายังยอม

เราชอบไหมที่เขาชอบตัดต่อภาพแบบนี้ ?

       น้ำตาล : ชอบค่ะ เพราะเราได้ภาพสวย (หัวเราะ)

ภาพที่ไปครั้งนี้จะเก็บไปใช้ในอนาคต เป็นภาพเวดดิ้งเลยไหม ?

น้ำตาล พิจักขณา

       น้ำตาล : โห…มันนานเกินไปค่ะ (หัวเราะ) จริง ๆ มันเป็นการเล่าชีวิตแต่ละวันที่พวกเราไปเจอมากกว่า เหมือนแบ่งปันประสบการณ์ เราก็คงไม่ได้ไปเที่ยวทริปไกล ๆ กันบ่อย ๆ ซึ่งเขาเองก็อยากทำรายการของเขาเองด้วย อยากมีช่องทางของเขา

คบกันมานานแล้วยังไม่มีคุยเรื่องแต่งงานเลยเหรอ ?

       น้ำตาล : ยังค่ะ มีแต่วางแผนในการทำธุรกิจร่วมกัน ซึ่งตอนนี้กำลังโฟกัสในเรื่องธุรกิจ มันเพิ่งเริ่มต้น

เขาอยากแต่งงานแล้วไหม ?

       น้ำตาล : ไม่นะคะ ยังไม่เห็นเขาพูดอะไรในเรื่องนี้ ส่วนมากคุยเรื่องของธุรกิจมากกว่า คือตอนนี้เราทำธุรกิจชื่อฟันฟองด้วยกัน บางทีไปเที่ยวเราเห็นแต่ละที่มีอ่างอาบน้ำ มีแต่น้ำไม่มีฟองสบู่ เราก็ทำส่งตามโรงแรม และขายเองด้วย ซึ่งเราลงมาทำด้วยกันทั้งหมด

กลัวไหมว่าจะแตกกันเพราะธุรกิจ ?

       น้ำตาล : หลาย ๆ คนก็เตือนเหมือนกัน แต่ไม่ได้มีแค่ตาลกับพี่ไผ่ ยังมีหุ้นส่วนเพื่อน ๆ กัน อยากทำมันออกมาให้ดีที่สุด และอยากให้มันประสบความสำเร็จ เพราะเราก็ตั้งใจ

ไผ่ไม่เข้าป่าแล้ว เพราะยุ่งกับธุรกิจ ?

       น้ำตาล : เขาถ่ายละคร 3 เรื่อง นี่เพิ่งปิดกล้องไป หลังจากนี้แหละค่ะ จะเข้าป่ายาวแล้ว เพราะเขาพูดไว้ตั้งแต่แรกว่า พอปิดกล้องละครเขาขอไปใช้ชีวิตแบบนี้

เราชินไหม กับการที่เขาชอบเข้าป่า ?

น้ำตาล พิจักขณา

       น้ำตาล : ชินมาก จะวันหนึ่งหรือเดือนหนึ่งเขาเดินเข้าป่า เราก็ชินแล้ว แรก ๆ ก็ไม่เข้าใจว่า เอ๊ะ ยังไง เราก็รู้จักเขามาระดับนึง แต่เราไม่รู้ว่าเขามีความติสต์ค่อนข้างสูง ช่วงที่เรามีปัญหากัน เป็นช่วงที่เขาไม่รับงานเลย อยากไปใช้ชีวิตของเขา เราก็รู้ว่าเขาเต็มอิ่มแล้ว ได้เล่นหลายบทบาทแล้ว ก็อยากลองไปใช้ชีวิตดู พอเขาไปจนเขาเต็มอิ่มแล้ว เขากลับมา มันก็โอเคไม่ได้มีผลเสีย

เราขอเขาไหมเรื่องที่เขาชอบเข้าป่า ?

       น้ำตาล : เรื่องที่ตาลขอได้คือเราขอการติดต่อมากกว่า ตอนแรกติดต่อไม่ได้เลย คือเราทุกคนเราไม่ได้มาตั้งรับแบบนี้ ว่าเราจะติดต่อกันไม่ได้ 15 วัน หรือว่า 1 เดือน ซึ่งมันเกินไป เราควรมีการอัปเดตกันว่าแต่ละวันเป็นอย่างไรบ้าง อย่างน้อยมันยังเป็นความสบายใจของเรา ว่าโอเคยังอยู่ดีกันดีนะ ยังปลอดภัยนะ เพราะเขาเข้าไปอยู่ในป่า อยู่กลางทะเลเราก็เป็นห่วง

เราห้ามไหม ?

       น้ำตาล : ห้ามบ้างเท่าที่ห้ามได้ (ยิ้ม)

สมมุติว่าถ้าแต่งงานแล้วเขาจะเข้าป่าอีกไหม ?

       น้ำตาล : ต้องคุย ถ้าหนักขนาดนั้นคงไม่ค่ะ เราเคยไปกับเขานะ แต่รู้สึกว่าไม่เวิร์ก ตาลว่าก็ลุยระดับสูงแล้ว แต่การเข้าป่ามันไม่เหมาะกับผู้หญิง สกิลเราไม่ถึงจริง ๆ เรื่องห้องน้ำ อาหารการกิน กิจกรรมของเขา ไม่เหมาะกับเรา เราอยู่ของเราสวย ๆ ดีกว่า

เขาเคยมีอุบัติเหตุไหม ?

       น้ำตาล : มีบ้างค่ะ อย่างท้องเสีย โน่นนี่ พอเขากลับมาก็บอกว่าหายแล้ว เราก็ไม่เครียดค่ะ

เรื่องที่คุณอาจสนใจ
น้ำตาล ไม่หวั่นกระแสเมจิก สกิน กระทบธุรกิจ ยัน อย. ถูกต้อง ตรวจสอบได้ อัปเดตล่าสุด 10 พฤษภาคม 2561 เวลา 13:51:32 2,535 อ่าน
TOP