ต๊ะ บอยสเก๊าท์ ควงแฟนเด็ก บุ๋ม มินตยา เปิดใจเรื่องรักคบ 14 ปี ฝ่าเหตุวัดใจป่วยหวิดไม่เหมือนเดิม พร้อมเล่าเรื่องเพื่อนรัก โจ บอยสเก๊าท์
กระแสดราม่าเป็นนักร้องขายหน้าตาดี แต่ร้องเพลงไม่เพราะเลย คิดยังไงกับประเด็นนี้ ?
ที่บอกว่าดังมาก ดังขนาดไหน ?
ต๊ะ : ผมก็ไม่ค่อยกล้าพูดสักเท่าไร เพราะเหมือนเป็นการยกหางตัวเอง แต่มันก็น่าจะที่สุดแหละครับ เดินห้างนี่ลำบากครับ ต้องปลอมตัวไปกินข้าวอะไรประมาณนี้
แล้วมาเจอกับ บุ๋ม มินตยา ได้ยังไง ?
ต๊ะ : ตอนนั้นผมอายุประมาณ 30 กว่าครับ ที่เจอกันเพราะว่าน้องบุ๋มถ่ายมิวสิกคู่กับ ติว ศิวัส ดารารุ่นน้องวง BKK แล้วผมไปหาติวพอดี เขาก็แนะนำให้รู้จักกันครับ ก็ชอบประมาณนึงครับ แต่มาชอบมาก ๆ ตอนวันรุ่งขึ้นนัดกินข้าวแล้วก็ไปดูหนังกัน ผมไปรับเขาที่บ้าน มันเหมือนในหนังเลย ภาพแรกที่เขาเดินสโลว์มาแล้วลมพัดผมปลิวสลวย
แล้วทำไมวันนั้นถึงตัดสินใจไปกินข้าวกับผู้ชายคนนี้ ?
บุ๋ม : ก็ตอนนั้นพอดีประกวดสาว hack แล้วหนูมองว่ารู้จักกันไว้ก็ไม่เสียหาย เพราะพี่เขาอยู่ในวงการจะได้เป็นที่ปรึกษาอะไรแบบนี้ค่ะ ซึ่งตอนนั้นหนูก็เพิ่งอกหักมาด้วย แต่ก็จะมีเพื่อนคนข้าง ๆ บอกว่าพี่เขาเป็นแบดบอยนะ แล้วก็มีข่าวค่อนข้างเยอะ ถามว่ากลัวไหม เราก็ไม่กลัวนะ ก็ไม่รู้จะกลัวอะไรเพราะว่าเราคุยกันคบกัน 2 คน คนอื่นพูดมันแค่เป็นส่วนภายนอก พอคบกันจริง ๆ ก็ไม่ได้เป็นแบบนั้นเลย พี่ต๊ะเป็นสุภาพบุรุษมาก
นี่คบกันมากี่ปีแล้ว ?
ต๊ะ : เกือบ 14 ปีแล้วครับ
เห็นว่าปีแรกที่คบ มีเหตุการณ์วัดใจกันเกิดขึ้นเลย เล่าให้ฟังหน่อย ?
ถ้าเกิดเขากลับมาแล้วไม่เหมือนเดิม บุ๋มจะทำยังไง ?
บุ๋ม : หลังจากคุยกับญาติเสร็จ ก็เหลือเราสองคน พี่ต๊ะเขาก็นอนอยู่บนเตียง มีสายตามตัว เตรียมพร้อมเข้าห้องผ่าตัด เขาก็บอกว่า ถ้าเกิดเขากลับมาแล้วไม่ปกติเหมือนเดิมอะไรแบบนี้ ให้เราไปมีอนาคตใหม่ได้เลยนะ หนูก็จับมือเขา แล้วก็บอกเขาว่า ไม่เป็นไรนะถ้าไม่เหมือนเดิม แล้วต้องนั่งรถเข็นหรืออะไรแบบนี้ บุ๋มจะเข็นพาไปเที่ยวเองค่ะ
บุ๋ม : จะมีทะเลาะกันบ้างก็ช่วงแรก ๆ ค่ะ เหมือนเป็นช่วงเรียนรู้กันอะไรแบบนี้ แต่บุ๋มจะเป็นผู้หญิงที่แบบไม่ค่อยคิดเล็กคิดน้อย ถ้าเกิดทะเลาะหรือเถียงกันปุ๊บ 5 นาที หนูก็จะหายในทุก ๆ ครั้ง ขอแค่ว่ามีปฏิกิริยาที่เหมือนจะง้อก็พอแล้ว หรือคำขอโทษก็ไม่ได้อะไร แล้วก็บุ๋มจะให้เกียรติกันและกัน ในเรื่องของมือถือบุ๋มจะไม่ยุ่ง จะไม่เอามาดูสบายใจกว่า อะไรแบบนี้
มีเหตุการณ์โดนสังคมตราหน้าว่าวันนั้นทำไมไม่ช่วย โจ บอยสเก๊าท์ เกิดอะไรขึ้น ?
บุ๋ม : ปกติเวลาไปเล่นคอนเสิร์ตกัน 3 คน บุ๋มก็ไม่เคยที่จะไลฟ์สด แต่คืนนั้นกลับไลฟ์ แต่ว่าวันนั้นแปลกมาก บุ๋มก็เดินไปจับมือพี่โจแล้วก็บอกว่า หนูรักพี่โจเหมือนพี่นะ เวลาจะทำอะไรขอให้นึกว่ามีน้องคนนึงอยู่กับพี่เสมอนะ อยู่ดี ๆ ก็พูด แล้วเราก็ไปกินข้าวกันมื้อสุดท้าย แล้วหนูก็บอกว่า พี่โจเดี๋ยวคืนนี้หนูจะแต่งหน้า ทำผม ให้พี่หล่อที่สุดเลย แล้วทีนี้พอเกิดเหตุการณ์ขึ้น บุ๋มก็ถือมือถือติดมือไปด้วย บุ๋มไม่คิดว่าเหตุการณ์นั้นจะทำให้สูญเสียพี่โจ แค่ลึก ๆ ว่าบุ๋มช่วยอะไรเขาไม่ได้ แต่อย่างน้อยบุ๋มมีคลิป บุ๋มจะให้คุณหมอดู ว่าอาการเป็นอย่างนี้นะ แต่มันกลับไม่ใช่อย่างนั้น ก็โดนสังคมต่อว่าหนักมาก
ต๊ะ : ซึ่งปกติจะไม่แต่ง ขึ้นเวทีเขาจะไม่แต่งหน้า แล้วการที่จะแต่งหน้าให้เนี่ยยากมาก เคยมีก่อนหน้านั้นครั้งหนึ่งแล้วก็ครั้งนี้เป็นครั้งสุดท้าย ซึ่งเหตุการณ์ที่มันเกิดขึ้นไวมาก ตอนแรกยังคิดว่าแกล้งด้วยซ้ำ
แล้วผ่านมาได้ยังไง ?
ต๊ะ : สำหรับตัวผมเอง ผมอาจจะผ่านเหตุการณ์แบบนี้มาค่อนข้างเยอะ ผมก็เลยเฉย ๆ ผมเอาสมาธิไปทุ่มกับงานศพโจตอนนั้นซะมากกว่า ผมคิดว่าวันหนึ่งเขาคงจะเข้าใจเราเองแหละ
ช่วงแรก ๆ คุณยังเห็นคุณโจวนเวียนอยู่ หรือยังสัมผัสได้ว่ายังวนเวียนอยู่ จริงหรือเปล่า ?
บุ๋ม : บุ๋มเห็นค่ะ จริง ๆ บุ๋มก็ไม่เคยเห็นอะไรแบบนี้เหมือนกัน คือคืนที่เกิดเหตุพี่โจเขาจะขับรถมาไว้ที่หน้าบ้านบุ๋ม แล้วก็ไปรถพี่ต๊ะ แล้วช่วงที่เขาเสีย เหมือนพี่ต๊ะก็ต้องขับรถของเขาไปคืนไว้ที่คอนโด บุ๋มก็จะขับอีกคันตามหลัง แล้วก็มองผ่านทะลุกระจกไป หนูเห็นหัวพี่โจ เหมือนเขาคุยกันอยู่กับพี่ต๊ะ ก็โทร. หาพี่ต๊ะเลยค่ะ แต่จะเห็นแค่ช่วงแวบเดียวเท่านั้น
ผ่านอะไรมาด้วยกันก็เยอะ พร้อมจะแต่งงานกันหรือยัง ?
ต๊ะ : เรื่องงานแต่งเราคุยกันว่าอยากจะรอให้ถึงเวลาที่มันสุกงอมที่สุดหรือพร้อมที่สุดก่อนครับ เพราะว่าตอนนี้ก็กำลังทำธุรกิจกันอยู่ แล้วก็มันค่อนข้างที่จะดึงเวลาหรือสมาธิของเราไปมากพอสมควร จนเราไม่ค่อยได้คิดเรื่องนี้เท่าไร เพราะว่าตัวต๊ะเองก็เข้าหาบ้านน้องบุ๋มตั้งแต่ช่วงแรก ๆ ที่คบกันเลย คุณพ่อ คุณแม่เขาก็รับรู้เอ็นดูเราเหมือนลูก แค่รอว่าเมื่อไรเท่านั้นเองครับ
ติดตามรายการ คุยแซ่บShow ได้ทุกวันจันทร์-ศุกร์ เวลา 14.00-15.00 น. ทางช่อง One31 Facebook Page : คุยแซ่บShow รับชมย้อนหลังได้ที่ Youtube Channel : Orange Mama
หากพูดถึงนักร้องยุค 90 เชื่อว่าแฟน ๆ
คงจะต้องคิดถึงวงบอยสเก๊าท์อย่างแน่นอน
เพราะในตอนนั้นวงนี้ถือว่าได้รับความนิยมเป็นอย่างมาก โดยเฉพาะ ต๊ะ
บอยสเก๊าท์ ที่ทั้งหน้าตาและเสียงร้องทำเอาสาว ๆ หลงกันทั่วบ้านทั่วเมือง
ล่าสุด ต๊ะได้ควงหวานใจ บุ๋ม มินตยา มาเปิดใจผ่านทางรายการ คุยแซ่บShow
ทางช่อง One31 ที่มี พีเค ปิยะวัฒน์ และธัญญ่า ธัญญาเรศ เป็นพิธีกร
กระแสดราม่าเป็นนักร้องขายหน้าตาดี แต่ร้องเพลงไม่เพราะเลย คิดยังไงกับประเด็นนี้ ?
ต๊ะ
: ไม่แปลกครับเพราะว่าสมัยก่อนก่อนที่จะออกเทปก็จะถูกวิจารณ์เยอะครับ ว่าเสียงอย่างนี้จะร้องเพลงได้เหรอ เพราะว่าจริง ๆ ก่อนจะเป็นนักร้อง
ก็เป็นดารา ถ่ายโฆษณา มีภาพพอที่จะเป็นที่รู้จักแล้ว
ก็ถูกสบประมาทว่าเป็นนักร้องที่ขายหน้าตาครับ แต่ในฐานะของคนเป็นนักร้อง
เราก็อยากให้คนศรัทธาเราที่เรามีฝีมือในการร้องเพลงมากกว่า
อันนั้นก็ถือว่าเป็นปมครับ แรก ๆ ก็รู้สึกครับ
แต่พออัลบั้มแรกออกมาแล้วมันดังมาก ๆ เลย หลัง ๆ
ก็เลยทำให้ไม่ค่อยรู้สึกอะไรเท่าไรครับ
ที่บอกว่าดังมาก ดังขนาดไหน ?
ต๊ะ : ผมก็ไม่ค่อยกล้าพูดสักเท่าไร เพราะเหมือนเป็นการยกหางตัวเอง แต่มันก็น่าจะที่สุดแหละครับ เดินห้างนี่ลำบากครับ ต้องปลอมตัวไปกินข้าวอะไรประมาณนี้
แล้วมาเจอกับ บุ๋ม มินตยา ได้ยังไง ?
ต๊ะ : ตอนนั้นผมอายุประมาณ 30 กว่าครับ ที่เจอกันเพราะว่าน้องบุ๋มถ่ายมิวสิกคู่กับ ติว ศิวัส ดารารุ่นน้องวง BKK แล้วผมไปหาติวพอดี เขาก็แนะนำให้รู้จักกันครับ ก็ชอบประมาณนึงครับ แต่มาชอบมาก ๆ ตอนวันรุ่งขึ้นนัดกินข้าวแล้วก็ไปดูหนังกัน ผมไปรับเขาที่บ้าน มันเหมือนในหนังเลย ภาพแรกที่เขาเดินสโลว์มาแล้วลมพัดผมปลิวสลวย
บุ๋ม : ตอนนั้นมันมีลมมาพอดีเลยค่ะ ตอนแรกที่เจอกันตอนกลางคืนจะมัดผม แล้วเป็นจังหวะตอนจะขึ้นรถเขาพอดี ลมก็มา
แล้วทำไมวันนั้นถึงตัดสินใจไปกินข้าวกับผู้ชายคนนี้ ?
บุ๋ม : ก็ตอนนั้นพอดีประกวดสาว hack แล้วหนูมองว่ารู้จักกันไว้ก็ไม่เสียหาย เพราะพี่เขาอยู่ในวงการจะได้เป็นที่ปรึกษาอะไรแบบนี้ค่ะ ซึ่งตอนนั้นหนูก็เพิ่งอกหักมาด้วย แต่ก็จะมีเพื่อนคนข้าง ๆ บอกว่าพี่เขาเป็นแบดบอยนะ แล้วก็มีข่าวค่อนข้างเยอะ ถามว่ากลัวไหม เราก็ไม่กลัวนะ ก็ไม่รู้จะกลัวอะไรเพราะว่าเราคุยกันคบกัน 2 คน คนอื่นพูดมันแค่เป็นส่วนภายนอก พอคบกันจริง ๆ ก็ไม่ได้เป็นแบบนั้นเลย พี่ต๊ะเป็นสุภาพบุรุษมาก
นี่คบกันมากี่ปีแล้ว ?
ต๊ะ : เกือบ 14 ปีแล้วครับ
เห็นว่าปีแรกที่คบ มีเหตุการณ์วัดใจกันเกิดขึ้นเลย เล่าให้ฟังหน่อย ?
ต๊ะ
: พอดีผมประสบปัญหาเป็นเส้นเลือดในสมองโป่งพอง มันปริแล้วก็มีเลือดซึม
ตอนนั้น 30 กว่าต้น ๆ เอง ก็วัดใจมาก เพราะว่าตอนนั้นต้องเปิดกะโหลกเพื่อผ่าตัดเส้นเลือดในสมอง ซึ่งก่อนวันผ่าตัดคุณหมอก็เข้ามาคุย
เขาก็พูดตรง ๆ ครับ ว่ามันมีโอกาสที่จะกลับมา แล้วก็มีโอกาสที่จะไป
หรืออาจจะกลับมาแล้วไม่เหมือนเดิม ผมก็กลัว
คุณหมอคุยกับเราเสร็จแล้วก็คุยกับญาติ แล้วก็เป็นจุดวัดใจของเขามาก
เพราะว่าตอนนั้นเพิ่งคบกันใหม่ ๆ เอง
ถ้าเกิดเขากลับมาแล้วไม่เหมือนเดิม บุ๋มจะทำยังไง ?
บุ๋ม : หลังจากคุยกับญาติเสร็จ ก็เหลือเราสองคน พี่ต๊ะเขาก็นอนอยู่บนเตียง มีสายตามตัว เตรียมพร้อมเข้าห้องผ่าตัด เขาก็บอกว่า ถ้าเกิดเขากลับมาแล้วไม่ปกติเหมือนเดิมอะไรแบบนี้ ให้เราไปมีอนาคตใหม่ได้เลยนะ หนูก็จับมือเขา แล้วก็บอกเขาว่า ไม่เป็นไรนะถ้าไม่เหมือนเดิม แล้วต้องนั่งรถเข็นหรืออะไรแบบนี้ บุ๋มจะเข็นพาไปเที่ยวเองค่ะ
อะไรที่ทำให้สามารถรักกันได้ยาวนานขนาดนี้ แนะนำหน่อย ?
ต๊ะ
: มันอาจจะเป็นบุพเพสันนิวาสก็ได้ครับ
เวลาที่อยู่กับเขาเราเหมือนอยู่ในบ้านที่อบอุ่นของเรา เวลาที่ไม่มีเขา
มันทำอะไรไม่ได้เลยครับ เคยทะเลาะ เคยจะเลิกกัน จะแยกบ้าน ผมขนของไป
แต่ผมไปได้ไม่เกิน 8 ชั่วโมง ไปเสร็จแล้วแบบว่าอยู่ไม่ได้
เหมือนชีวิตอยู่ไม่ได้ ก็ขนของกลับมาอีก แล้วก็ร้องไห้เป็นเด็กเลยครับ
บุ๋ม : จะมีทะเลาะกันบ้างก็ช่วงแรก ๆ ค่ะ เหมือนเป็นช่วงเรียนรู้กันอะไรแบบนี้ แต่บุ๋มจะเป็นผู้หญิงที่แบบไม่ค่อยคิดเล็กคิดน้อย ถ้าเกิดทะเลาะหรือเถียงกันปุ๊บ 5 นาที หนูก็จะหายในทุก ๆ ครั้ง ขอแค่ว่ามีปฏิกิริยาที่เหมือนจะง้อก็พอแล้ว หรือคำขอโทษก็ไม่ได้อะไร แล้วก็บุ๋มจะให้เกียรติกันและกัน ในเรื่องของมือถือบุ๋มจะไม่ยุ่ง จะไม่เอามาดูสบายใจกว่า อะไรแบบนี้
มีเหตุการณ์โดนสังคมตราหน้าว่าวันนั้นทำไมไม่ช่วย โจ บอยสเก๊าท์ เกิดอะไรขึ้น ?
บุ๋ม : ปกติเวลาไปเล่นคอนเสิร์ตกัน 3 คน บุ๋มก็ไม่เคยที่จะไลฟ์สด แต่คืนนั้นกลับไลฟ์ แต่ว่าวันนั้นแปลกมาก บุ๋มก็เดินไปจับมือพี่โจแล้วก็บอกว่า หนูรักพี่โจเหมือนพี่นะ เวลาจะทำอะไรขอให้นึกว่ามีน้องคนนึงอยู่กับพี่เสมอนะ อยู่ดี ๆ ก็พูด แล้วเราก็ไปกินข้าวกันมื้อสุดท้าย แล้วหนูก็บอกว่า พี่โจเดี๋ยวคืนนี้หนูจะแต่งหน้า ทำผม ให้พี่หล่อที่สุดเลย แล้วทีนี้พอเกิดเหตุการณ์ขึ้น บุ๋มก็ถือมือถือติดมือไปด้วย บุ๋มไม่คิดว่าเหตุการณ์นั้นจะทำให้สูญเสียพี่โจ แค่ลึก ๆ ว่าบุ๋มช่วยอะไรเขาไม่ได้ แต่อย่างน้อยบุ๋มมีคลิป บุ๋มจะให้คุณหมอดู ว่าอาการเป็นอย่างนี้นะ แต่มันกลับไม่ใช่อย่างนั้น ก็โดนสังคมต่อว่าหนักมาก
ต๊ะ : ซึ่งปกติจะไม่แต่ง ขึ้นเวทีเขาจะไม่แต่งหน้า แล้วการที่จะแต่งหน้าให้เนี่ยยากมาก เคยมีก่อนหน้านั้นครั้งหนึ่งแล้วก็ครั้งนี้เป็นครั้งสุดท้าย ซึ่งเหตุการณ์ที่มันเกิดขึ้นไวมาก ตอนแรกยังคิดว่าแกล้งด้วยซ้ำ
แล้วผ่านมาได้ยังไง ?
บุ๋ม
: ตอนนั้นเราสองคนก็แย่มากเหมือนกัน บุ๋มเองก็รู้สึกแย่
แต่หลังจากนั้นไม่นานทุกองค์กรต่าง ๆ
ที่เกี่ยวกับการแพทย์หรืออะไรก็มารณรงค์ในเรื่องของการทำ CPR
ก็เป็นเพราะคลิปนั้น
รวมถึงตัวบุ๋มเองก็ศึกษาแล้วก็เรียนรู้ที่จะช่วยเหลือคนที่เป็นแบบพี่โจด้วยเหมือนกันค่ะ
ต๊ะ : สำหรับตัวผมเอง ผมอาจจะผ่านเหตุการณ์แบบนี้มาค่อนข้างเยอะ ผมก็เลยเฉย ๆ ผมเอาสมาธิไปทุ่มกับงานศพโจตอนนั้นซะมากกว่า ผมคิดว่าวันหนึ่งเขาคงจะเข้าใจเราเองแหละ
ช่วงแรก ๆ คุณยังเห็นคุณโจวนเวียนอยู่ หรือยังสัมผัสได้ว่ายังวนเวียนอยู่ จริงหรือเปล่า ?
บุ๋ม : บุ๋มเห็นค่ะ จริง ๆ บุ๋มก็ไม่เคยเห็นอะไรแบบนี้เหมือนกัน คือคืนที่เกิดเหตุพี่โจเขาจะขับรถมาไว้ที่หน้าบ้านบุ๋ม แล้วก็ไปรถพี่ต๊ะ แล้วช่วงที่เขาเสีย เหมือนพี่ต๊ะก็ต้องขับรถของเขาไปคืนไว้ที่คอนโด บุ๋มก็จะขับอีกคันตามหลัง แล้วก็มองผ่านทะลุกระจกไป หนูเห็นหัวพี่โจ เหมือนเขาคุยกันอยู่กับพี่ต๊ะ ก็โทร. หาพี่ต๊ะเลยค่ะ แต่จะเห็นแค่ช่วงแวบเดียวเท่านั้น
ต๊ะ : คือตลอดระยะเวลาที่เขาเสีย
ผมใช้วิธีปลอบใจตัวเองด้วยการคุยกับเขาตลอดเวลา
ตอนที่เอารถไปส่งผมก็คุยเหมือนเขานั่งอยู่ ผมก็บอกเขาว่า
เดี๋ยวจะเอารถไปส่งที่คอนโดนะอะไรแบบนี้
ใครเห็นเขาอาจจะเห็นว่าผมพูดคนเดียว แต่ผมทำแบบนี้มาตลอด พอบุ๋มโทร.
มาผมก็ดีใจด้วยซ้ำ ผมอยากให้เขามา
หรือทำอะไรก็ได้ให้ผมรู้สึกว่าเขายังอยู่ใกล้ ๆ ผมนะ
เพราะว่าผมเป็นห่วงเขาไม่รู้ว่าเขาจะไปอยู่ตรงไหน คือจะจุดธูปบอกตลอดว่า
ถ้าไม่รู้จะไปไหน ให้มาอยู่ข้าง ๆ ผมนะ
สิ่งที่ผมทำแบบนี้มันเหมือนกับว่าเขายังอยู่กับเรา
ผ่านอะไรมาด้วยกันก็เยอะ พร้อมจะแต่งงานกันหรือยัง ?
ต๊ะ : เรื่องงานแต่งเราคุยกันว่าอยากจะรอให้ถึงเวลาที่มันสุกงอมที่สุดหรือพร้อมที่สุดก่อนครับ เพราะว่าตอนนี้ก็กำลังทำธุรกิจกันอยู่ แล้วก็มันค่อนข้างที่จะดึงเวลาหรือสมาธิของเราไปมากพอสมควร จนเราไม่ค่อยได้คิดเรื่องนี้เท่าไร เพราะว่าตัวต๊ะเองก็เข้าหาบ้านน้องบุ๋มตั้งแต่ช่วงแรก ๆ ที่คบกันเลย คุณพ่อ คุณแม่เขาก็รับรู้เอ็นดูเราเหมือนลูก แค่รอว่าเมื่อไรเท่านั้นเองครับ
ติดตามรายการ คุยแซ่บShow ได้ทุกวันจันทร์-ศุกร์ เวลา 14.00-15.00 น. ทางช่อง One31 Facebook Page : คุยแซ่บShow รับชมย้อนหลังได้ที่ Youtube Channel : Orange Mama