x close

เอกราช สุวรรณภูมิ น้ำตาตก ชีวิตเคยขึ้นสูงสุด จนตกมาต่ำสุด-ทำนาเลี้ยงชีพ

          เอกราช สุวรรณภูมิ เจ้าของเพลง กระเป๋าแบนแฟนทิ้ง เผยอดีตเคยโด่งดังขึ้นสู่จุดสูงสุด มีงานไม่ขาดสาย จนวันหนึ่งน้ำตาตก ชีวิตดำดิ่งลงมาต่ำสุด ต้องทำนาเลี้ยงชีพ
เอกราช สุวรรณภูมิ

          ถือเป็นนักร้องลูกทุ่งตัวพ่อ เอกราช สุวรรณภูมิ เจ้าของเพลงสุดฮิตอย่าง “กระเป๋าแบนแฟนทิ้ง” เผยชีวิตหลังโด่งดังมีเงินทองมากมาย แต่หลงผิดฟุ่มเฟือย ทำธุรกิจมีแต่ขาดทุนจนเกือบหมดตัว จากชีวิตที่เคยสุขสบายต้องกลับไปทำนา แถมยังมีประสบการณ์เหลือเชื่อเสี่ยงตายแต่ได้สิ่งศักดิ์สิทธิ์คุ้มครอง ล่าสุด เอกราช สุวรรณภูมิ ได้มาเปิดใจผ่านทางรายการ คุยแซ่บShow ทางช่อง One31 ที่มี ใบเฟิร์น พัสกร และ เบนซ์ พรชิตา เป็นพิธีกร

เปลี่ยนชื่อ ?

          เอกราช : ครับ เป็นเอกราช หนองงูเห่า เมื่อก่อนสนามบินสุวรรณภูมิ มันเป็น สนามบินหนองงูเห่า มาก่อนจะเป็นสุวรรณภูมิ เป็นที่เรียบร้อย ผมเกิดที่จังหวัดร้อยเอ็ด อำเภอสุวรรณภูมิ เป็นชื่อมาจากบ้านเกิดเราครับ

ตอนเพลง "กระเป๋าแบนแฟนทิ้ง" ดังสุด ๆ ไม่มีใครไม่รู้จัก ?

          เอกราช : สมัยเพลงนี้ขายได้ทะลุ 1.5-1.6 ล้านม้วน ถ้าเปรียบเสมือนยูทูบสมัยนี้น่าจะเป็นพันไลก์นะไม่ใช่ร้อย หลายล้านวิว

สมัยนั้นดังมาก ดังขนาดไหน ?

          เอกราช : ดังมาก ดังถึงขนาดไปโชว์ตัวเมืองนอกเลยดีกว่า ไปเมืองนอกบ่อย สวิตเซอร์แลนด์ เดนมาร์ก ฝรั่งเศส ออสเตรเลีย อเมริกา ไปหมดครับ เดินสายเลยครับ ถ้าไปเมืองนอกเขาจะเล่นศุกร์ เสาร์ อาทิตย์ ไปครั้งหนึ่งก็ 1 เดือน เดือนนึงก็ 12 งาน งานละ 200,000 ในสมัยโน้นนะครับ

มีฝรั่งวิ่งตามด้วย ?

          เอกราช : เมื่อสมัยกระเป๋าแบนฯ ดัง ๆ ผมไปโชว์ที่พัทยา เป็นร้านอาหารใหญ่ของพัทยา พอโชว์เสร็จปุ๊บ ขับรถออกมาติดไฟแดง ฝรั่งผู้ชายวิ่งออกมา เรียกผม เอกราช ๆ ๆ เคาะ มาขอลายเซ็น เขาพูดภาษาไทยได้ เขาก็พูดว่า กลับมาทำไม ฉันลืมเธอไปหมดแล้ว ผมต้องเซ็นให้เขา ไม่อย่างนั้นเขาก็เคาะอยู่อย่างนั้น แล้วแฟนเขาที่เป็นคนไทยก็มาจูงมือดึงออกไป เราภูมิใจนะครับเป็นคนไทยแล้วมีชื่อเสียงที่ต่างชาติชอบ และเขาก็ร้องเพลงเราได้

แม่ยกทุ่ม ขอเลี้ยง ขอดูแล ?

          เอกราช : คือจริง ๆ สมัยนู้นที่มีชื่อเสียงก็มีแบบนี้เข้ามา อยากให้บ้าน อยากให้รถ ตอนนั้นเราพอหาได้ วันนึงเราก็หาได้แล้วแสนสองแสน เราก็เอาของเขาแล้วมันจะมีปัญหา ช่วงนั้นชื่อเสียงเราพอมี เราพอหาเงินได้ เลี้ยงดูนี่คือเขาจะแบบดูแลไปเลย ไปอยู่กับเขาเลย ซึ่งมันไม่ใช่ เราก็ไม่ได้รับตรงนั้นไป 2-3 คน

ตอนโด่งดังมากชีวิตติดหรู ?

          เอกราช : ตอนนั้นเวลามีชื่อเสียงงานไม่ต่ำกว่า 2-3 งาน วันนึงหาได้ต่ำสุดคือ 200,000 บาท จนแบบเราไม่รับงาน ขอพัก เพราะว่าเสียงมันไม่ไหว แต่ตัวก็อยากได้ตังค์ เราเด็กบ้านนอกคนหนึ่งพอมีเงินล้านก็อยากได้ อยากทำนั่นนี่ อยากจะขี่รถคันแพง ๆ โดยที่ไม่คิด จะบอกว่าศิลปินถ้ามีเงินหรือดังทุกวันนี้ต้องระวังให้ดี ต้องเก็บ เพราะเราพลาดมาแล้ว ไม่อยากให้เจอเหมือนเราที่เราพลาดมา

เงินในบัญชียอดที่สูงที่สุด ?

          เอกราช : คือจริง ๆ แล้วเราเป็นเด็กบ้านนอกคนหนึ่ง พันนึงเมื่อสมัยก่อนเรายังไม่มีเลยนะ พอเรามีชื่อเสียง มีเงินเป็นหมื่น เป็นแสน เป็นล้าน เงินฝากนี่เป็นไม่รู้หลักหลายล้าน แล้วเราก็แบบจะทำอะไรดี ไปเปิดร้านอาหารไหม หรือจะปลูกมันสำปะหลัง แต่เราเอาไปซื้อรถ ผมเล่นรถมาแล้ว 30 คัน ซื้อเปลี่ยน ๆ เบนซ์ บีเอ็ม หลายยี่ห้อ แล้วเงินเราหมดกับรถทีล้าน ทีละ 4 แสน ทีละ 3 แสน ขับคนเดียวครับ เพราะผมเป็นคนชอบรถมาก
เอกราช สุวรรณภูมิ

ทำธุรกิจด้วย ?

          เอกราช : ครับ เอาไปปลูกมันสําปะหลัง ไปเช่าที่เขา 100 ไร่ แล้วเราก็เอาไปปลูกมันสําปะหลัง แรก ๆ ก็ได้กำไรดีครับ แสนสองแสน หลัง ๆ มามีแมลงกินบ้าง หน้าเศรษฐกิจบ้าง มันก็ขาดทุน เราไม่มีเวลาไปดูแลเองมันเสียตรงนี้ ถ้าเราทำอะไรแล้วเราเอาใจไปใส่ให้เขามันจะอยู่ตัวหรือได้กำไรแน่นอน แต่ถ้าเราไม่มีใจหรือไม่มีเวลาให้เขามันก็แบบนี้

ตอนปลูกมันสําปะหลังเรามีความรู้ในเรื่องตรงนี้บ้างไหม ?

          เอกราช : ไม่มีครับ มีแต่รู้จักเพื่อน ๆ มันมาจากแฟนเพลงแนะนำบ้างว่าทำไมไม่ไปทำมัน ปลูกมัน เขาทำมันกันรวย พอลองทำดูมันขาดทุนเป็นล้าน ทำประมาณปีกว่า 2 ปีครับ หยุดไปสักพัก ได้เงินมาอีกก็ไปเปิดร้านอาหาร

ร้านอาหาร ?

          เอกราช : ครับ เป็นร้านอาหารอีสาน-ไทย เปิดอยู่ที่ทาวน์อินทาวน์ บูมมากครับช่วง 2-3 ปี แต่พอเข้าปีที่ 4 เรื่อยมาขาดทุนทุกเดือน ไม่มีเวลาไปดูทุกวัน เดือนนึงเข้า 2 ครั้ง แต่ให้พี่น้องดู ขาดทุนไปเรื่อย ๆ หมดไป 2 ล้านกว่าก็ต้องปิดไป

มีธุรกิจอื่นอีก ?

          เอกราช : ปลาร้าสับ ของพี่จะไม่ใส่สารกันบูด ทานได้แค่ 2 เดือน พอเข้าเดือนที่ 3 มันขึ้นราแล้ว ลงทุนไปประมาณ 4-5 แสน ทำไปสักเกือบปี พอเดือนที่ 3-4 แฟนคลับก็มาบอกว่าปลาร้าขึ้นรานะ เพราะว่าเราไม่ใส่สารกันบูด ตอนแรกมันก็ดีแต่มันก็มีข่าวโน่นข่าวนี่ ปลาร้ามีพยาธิ ข่าวปลาร้ามีตัวจี๊ด สารพัดอะไรขึ้นมา มันก็หายเงียบถอยไป หมดไปกับปลาร้าประมาณ 7 แสน

ธุรกิจยังมีอีก ?

          เอกราช : มีครับ ช่วงนั้นผมหายไป 3 ปี ผมไปซุ่มทำเอง ลงทุนเอง

ช่วงที่ทำธุรกิจแล้วไม่รุ่ง ช่วงนั้นยังมีคอนเสิร์ตไหม ?

          เอกราช : มีครับ แต่เริ่มบาง เพลงเราก็เงียบ ๆ ไปในช่วงฟองสบู่แตก งานเงียบหมดทุกอย่าง เพลงก็เงียบ เป็นช่วงที่ตกต่ำเกือบสุด ผมก็ไปอยู่บ้าน ไปทำนา พ่อกับแม่มีนาให้ ทำประมาณ 6-7 เดือน เหนื่อยมาก เปลี่ยนชีวิตเลย ด้วยเศรษฐกิจเราไม่มีเพลงออก ฟองสบู่แตกด้วย บริษัทเพลงก็ปิดตัวไปหลายบริษัท

ตอนนั้นตังค์หมดไหม ?

          เอกราช : ไม่หมด แต่ว่าไม่เหลือหลักล้าน เรากลับไปอยู่บ้านสัก 2-3 ปี ไปทำนา 6 เดือน ไม่ไหวแสบหลัง ร้อน หน้าขึ้นฝ้าเลย คิดถึงตอนร้องเพลงขึ้นมาเลย

จากนักร้องดังได้วันละเยอะต้องกลับไปอยู่บ้าน ?

          เอกราช : ตอนเด็กเราเป็นนักร้องมาเลย เราไม่เคยเหนื่อย เราไม่เคยทำนา เราไม่เคยแบกหาม เรามีชื่อเสียงปุ๊บมันก็สบายมาตลอด พอเรากลับไปทำตรงนั้นมันรู้สึกทรมานมาก เหนื่อยตากแดดตากลม แบบขนาดนี้เลยเหรอ จน 3 ปีที่ทนมา ผมยังเหลือทุนอยู่นิดหนึ่ง ก็เลยมาร้องเพลงอีกรอบ ทำเองเลยคราวนี้

เป็นนักร้องดังกลับมาใช้ชีวิตแบบทำนา ?

          เอกราช : ทุกอย่างเราลงทุนหมด ไม่เคยได้กำไรมีแต่ขาดทุน หาเงินได้มาแสนสองแสนไม่ได้หาง่าย ๆ ต้องเสี่ยงขับรถตะลอน ๆ ตามท้องถนนกว่าจะได้มา กลับดึกดื่น พักผ่อนไม่เพียงพอ มันเหนื่อย มันล้า มันท้อ ช่วงนั้นบริษัทเพลงก็ปิดตัวไปหลายที่ เพลงลูกทุ่งก็หายไปพักหนึ่ง พี่ก็ไปอยู่บ้านนอก ไปอยู่กับพ่อแม่ก็ทำนาปลูกผัก

เคยร้องไห้ไหม ?

          เอกราช : เราเป็นลูกผู้ชายก็จริง แต่น้ำตามันจะอยู่ข้างในมากกว่า มันจะไม่ร้องให้ใครเห็น แต่ถ้าคนเดียวร้อง เราบอกกับตัวเองว่าคนเราเป็นแบบนี้เหรอ ขึ้นจนสุดแล้วตกจนสุดเลยเหรอ แต่เราก็คิดว่าเรามีพ่อมีแม่พี่น้องที่ให้กำลังแรงใจ พี่น้องทั้งหมด 12 คน แล้วช่วงที่ผมมีชื่อเสียงพี่น้องผมช่วยแทบทุกคน ผมดูแลพ่อกับแม่จนพ่อกับแม่ไม่อยู่ ต้องพามาหมอที่รามคำแหงแทบทุกเดือน เราก็ยังมีบุญวาสนา เราเลยกลับขึ้นมาอีกรอบหนึ่ง มาเป็นนักร้องอีกรอบหนึ่ง

กัดฟันสู้อีกรอบหนึ่ง ?

          เอกราช : พ่อกับแม่ให้พรสวรรค์มาแล้ว เพื่อนที่อยู่บ้านนอกบอกจะทำนาทำไมเสียงขนาดนี้ ขึ้นมากรุงเทพฯ เลย เราก็บอกเขายังมาไม่ได้หรอก เราบอกเขาทุกอย่าง เพราะหลายอย่างลูกทุ่งมันหายไป บริษัทก็ปิดตัวไปหลายที่แล้ว ก็เลยรอสักพักหนึ่ง

การใช้ชีวิตเปลี่ยนไปเลยเมื่อรายได้ลดลง ?

          เอกราช : ผมรู้สึกว่าเราขึ้นมากรุงเทพฯ เราก็มาแต่ตัว ในเมื่อเราไม่มีอะไรก็ไม่เป็นไร ในเมื่อเรามาแต่ตัวอยู่แล้ว พอกลับเราก็กลับแต่ตัว แต่ในความรู้สึกของเราเป็นนักร้องที่มีชื่อเสียง แล้วทุกคนมีบ้าน มีที่ทำกิน แล้วเราจะท้อทำไม เราต้องสู้อีกรอบหนึ่งเพื่อให้เงินที่เราสูญเสียไปกลับมา พอเรากลับมาก็ทำอัลบั้มชุด เจียละออ เป็นภาษาเขมร เป็นเพลงที่มีคุณภาพ เป็นเพลงหัวกะทิของครูบาอาจารย์ที่โด่งดังมา นำเพลงเก่า ๆ มาร้อง

หลังจากกลับบ้านแล้วฮึดสู้อีกรอบ ?

          เอกราช : ผมมีรถคันหนึ่งเป็นบีเอ็ม ซีรีส์ 5 เอารถไปเข้าไฟแนนซ์เลย ผมก็ทำเพลงน้ำพริกถ้วยเก่า เป็นเพลงลูกทุ่ง แต่กระแสเพราะยุคสมัยมันเปลี่ยน เปลี่ยนการฟัง ทุกวันนี้ฟังอีสานอินดี้ เป็นเพื่อชีวิตนิด ๆ สนุก ๆ แต่เราร้องไม่ได้ เราก็เป็นแนวเรา แต่ถือว่าไม่ขาดทุน ยังมีแผ่นซีดีเอาไปขายตามคอนเสิร์ต ขายได้เฉพาะรุ่นพ่อรุ่นแม่ ไม่มีวัยรุ่น
เอกราช สุวรรณภูมิ

มีเพลงเขมรด้วย ?

          เอกราช : เป็นเพลงเก่าเมื่อ 40-50 ปี ก็นำมาขับร้องทำดนตรีใหม่ อันนี้จะมีครูเพลงมาสอนภาษา บริษัทที่ผมอยู่เขาลองเอาเพลงไทยมาแปลเป็นภาษาเขมร ก็สร้างชื่อเสียงกลับมาอีกรอบหนึ่ง ทุกวันนี้ผมได้กินได้มีงานกับอัลบั้มเจียละออ ทั้งหมด 10 ชุดแล้ว

วันที่กระเป๋าแบนจริง ๆ ครอบครัวไม่ได้ทิ้งไปไหน ?

          เอกราช : คือไม่ได้ทิ้งก็อยู่ด้วยกันมา คนเราลำบากด้วยกัน รวยด้วยกัน ก็อยู่ด้วยกัน รักจริงก็ต้องอยู่ด้วยกัน กำลังใจมันอยู่รอบตัวรอบข้าง ไม่ว่าจะเป็นแฟนหรือครอบครัวอยู่ด้วยกันหมด ให้กำลังใจเรา เราต้องสู้ด้วย เพราะเราเป็นคนไม่ท้อสำคัญที่สุด

ไปขอลูกที่วัดแขก สีลม ?

          เอกราช : ผมนับถือพระพิฆเนศอยู่แล้วก่อนมาเป็นนักร้อง ก็ไปที่นั่นไปขอลูกท่าน สมัยนั้นช่วงกำลังโปรโมตเพลงกระเป๋าแบน ฯ ไปขออยากได้ลูกชายก็ท้อง เพลงกำลังดังมาก ยิ่งลูกคลอดออกมาดังมากเลย ตอนไปขอก็ฝันนะ ว่าพระพิฆเนศเป็นเด็กมีเศียรช้างมากอด บอกพ่อมาแล้ว ๆ ไปอยู่กับพ่อ ชีวิตก็ดีขึ้นเรื่อย ๆ ดังมาก

ตอนรู้ว่าภรรยาท้อง ?

          เอกราช : คือหลังจากนั้นวัน 2 วันเราก็ฝัน เราเลยคิดว่าใช่ ก็แบบเราดีใจบุญวาสนา ท่านศักดิ์สิทธิ์มาก ตอนไปขอลมพายุแรงมาก ผมเอาผ้าส่าหรีสีแดงไปถวาย เขาออกมาตัวใหญ่เหมือนพระพิฆเนศปางเสวยสุขเลย ยิ่งโตขึ้นยิ่งเหมือน ปัจจุบันอายุ 10 กว่าแล้วครับ

เฉียดตาย แต่สิ่งศักดิ์สิทธิ์ช่วย ?

          เอกราช : ช่วงนั้นที่กระเป๋าแบนฯ ดัง ๆ คืนนึง 2-3 งาน หน้าฝนก็ยังมี 2 งาน รีบขับรถ ร้องเพลงที่กรุงเทพฯ ขับรถไปกาญจนบุรี มีรถกระบะเบรกกะทันหัน ผมวิ่งประมาณ 140 กลัวไม่ทันงาน เจ้าของงานก็โทร. ตาม ผมหักหลบไปลงข้างทาง ข้างทางเป็นหญ้าเบรกเอาไม่อยู่ซัดเสาไฟฟ้า เสาไฟฟ้าหัก ฝากระโปรงรถเปิดแต่ไม่ทิ่มเข้ามาในรถ งัดขึ้นเหมือนคนเปิดให้ พระพิฆเนศที่ผมแขวนอยู่กระเด็นหลุดออกจากสร้อยเลยฟาดใส่กระจกหน้า แต่เราไม่เป็นไรเลย ไม่เจ็บ แต่มีแค่ขาเราที่เบรกแรงแล้วลื่นเป็นแผลนิดเดียว รถต้องยกเครื่องใหม่พังหมด

มีอีกเหตุการณ์หนึ่ง ?

          เอกราช : ไปชุดใหญ่แดนเซอร์ทั้งวงในรถตู้ ผมไปงานภูเก็ต เล่นเสร็จประมาณเที่ยงคืน ผมขับรถมาเจอหมอกควันขาวมาก เลยเปิดไฟสูง หมอกเป็นรูปร่างผู้หญิงขาว ผมยาว เลยหักหลบเกือบลงข้างทาง หักกลับอีกรถหมุน อันนี้เป็นผู้จัดการขับ ไม่ถึงสองวิรถตู้เบรกแล้วชน ผมเลยไปดูว่ารถเป็นไร พอไปถึงรถชนต้นไม้ แดนเซอร์แขนหัก พอถามคนขับหัวแตกแต่คุยได้ ถามเขาว่าเห็นหมอกขาว ๆ เป็นผู้หญิงเหมือนเราเห็นเลย แต่เราไม่เป็นไร ตอนเราหักหลบเราพ้น แต่รถตู้หักหลบไม่พ้น

          ติดตามรายการ คุยแซ่บShow ได้ทุกวันจันทร์-ศุกร์ เวลา 13.30-14.30 น. ทางช่อง One31 Facebook Page : คุยแซ่บShow รับชมย้อนหลังได้ที่ YouTube Channel : Orange Mama

เรื่องที่คุณอาจสนใจ
เอกราช สุวรรณภูมิ น้ำตาตก ชีวิตเคยขึ้นสูงสุด จนตกมาต่ำสุด-ทำนาเลี้ยงชีพ อัปเดตล่าสุด 9 มกราคม 2563 เวลา 11:42:56 11,880 อ่าน
TOP