เป็นมรสุมแตกหักต่อเนื่องที่ดูเหมือนจะยังไม่จบสักที สำหรับกรณีของ พชร์ อานนท์ กับ นิก คุณาธิป แต่ดูเหมือนจะมีสัญญาณที่ดีต่อกัน เมื่อหนุ่มนิก ออกมาโพสต์ขอโทษพร้อมกับแสดงความเสียใจในสิ่งที่พูดไปถึงพชร์ก่อนหน้านี้
อ่านข่าว : นิก คุณาธิป โพสต์ขอโทษ พชร์ อานนท์ หลังหลุดปากพูดแย่ ๆ วอนรับคำขอโทษ
ล่าสุด (18 มีนาคม 2563) พชร์ อานนท์ ก็ได้ออกมาชี้แจงเกี่ยวกับเรื่องดังกล่าวว่าเคยไกล่เกลี่ยและยื่นข้อเสนอไปแล้ว แต่อีกฝ่ายไม่ยอม เพราะฉะนั้นก็ให้เป็นตามกระบวนการของศาล โดยยืนยันว่าไม่ได้รังแกเด็ก
- เหมือนว่าน้องนิกอยากจะมาเคลียร์ใจกับพี่ ?
พชร์ อานนท์ : ไม่ใช่ ๆ เราบอกไปแล้วว่าเรื่องมันอยู่ในศาลแล้ว เขาเป็นคนเริ่มต้นเอาทนายความมาก่อน เราก็ต้องเอาทนายเข้าไปฟ้องกัน ซึ่งเราก็เคยไกล่เกลี่ยไปแล้วครั้งหนึ่งแต่ว่าเขาไม่ยอม เขาจะเอาสัญญาคืนอย่างเดียว ซึ่งทางศาลก็บอกว่าไม่ได้เกี่ยวกับสัญญา มันเป็นคดีฟ้องหมิ่นประมาทเรา ตอนแรกเราก็บอกว่าให้เขาขอโทษเราในทุกสื่อที่เขาลง แล้วก็จ่ายค่าทนายความมาเพราะว่าเราจ่ายค่าทนายความมาว่าความ 2 ข้อ เขาก็ไม่ไกล่เกลี่ย เขาก็บอกเขาไม่โอเค เขาบอกข้อที่สามก็ขอเอา คือเอาสัญญาคืน ซึ่งมันไม่เกี่ยวกับสัญญาเลย เราพยายามไกล่เกลี่ยแล้วแต่เขาไม่เอา ก็ต้องสู้กันในศาล
- แต่ที่เขาขอโทษเรา จะมีการไกล่เกลี่ยแล้วยอมไหม ?
พชร์ อานนท์ : น้องต้องไปอ่านข้อความใหม่ จริง ๆ แล้วขอโทษจริงหรือเปล่า หลายคนอ่านแล้วมันก็ไม่ใช่ เพราะว่าพี่รู้จักเขามา 7 ปี พี่รู้เขาเป็นยังไง
- พี่พชร์ก็คือไม่ยอมให้อภัย ?
พชร์ อานนท์ : ไม่ยอม ก็แล้วแต่ศาลตัดสินเลยครับ เพราะว่าเราไม่ได้เป็นคนเริ่ม เราใจดีมาตลอด เราไกล่เกลี่ยแล้วเขาไม่เอา เพราะฉะนั้นไม่เอาก็ไม่เป็นไร เราก็เลยมาพึ่งศาลเพราะเราก็ทำงานของเราอยู่ จู่ ๆ เขาก็มาว่าเราอย่างโน้นอย่างนี้ตามที่เป็นข่าว เสร็จแล้ววันหนึ่งเขาก็ไปถ่ายรูปคู่กับทนายเพื่อจะมาขู่เราเรื่องสัญญา เราก็เลยหาทนายความมาสู้คดี มาแก้ต่าง ซึ่งถ้าเขาบริสุทธิ์ใจจริง รู้ว่าเรามีพระคุณจริง ๆ รู้ว่าเราเป็นคนให้เขาเข้ามาในวงการและมีชื่อเสียงจริง ๆ เขาต้องไม่ทำตั้งแต่ทีแรกเลย เขาต้องไม่คิดจะด่าพี่ตั้งแต่ทีแรก ไม่คิดจะให้ไม่มีที่ยืนในวงการ ไม่คิดที่จะขายบ้าน ขายรถ เพื่อจะสู้คดี เขาจะไม่คิดอย่างนั้นเลย มันก็จะไม่มีเรื่องอะไรเกิดขึ้น สักวันหนึ่งเราก็คุยกันและทำงาน เรื่องสัญญามันก็คุยกันได้ แต่ในเมื่อเขาต้องการอย่างนั้นก็จัดให้
- เขามีโทร. มาส่วนตัวบ้างไหม ?
พชร์ อานนท์ : ไม่มีเลยครับ ตั้งแต่วันนัดจนถึงวันนี้ ตั้งแต่เดือนสิงหาคมจนถึงวันนี้ไม่มีโทรศัพท์หรือว่าข้อความฝากจากเขามาถึงเราเลย มีแต่เขาไปคุยกับลูกน้องเรา ว่าเราเสีย ๆ หาย ๆ ให้ลูกน้องเราฟัง
- ในชั้นศาลตอนนี้อยู่ในกระบวนการไหน ?
พชร์ อานนท์ : ไต่สวนข้อมูลไปแล้ว เขารับประทับฟ้องไปแล้ว ตอนนี้อยู่ในขั้นตอนของการประกันตัวสู้คดี ศาลอยากให้ไกล่เกลี่ยอีกครั้ง ซึ่งไม่ทราบวันไหน แต่พี่ได้ไกล่เกลี่ยไปแล้วอย่างที่บอก เพราะว่าพี่ไม่ได้ใจดำ แต่เขาไม่ยอมตามที่พี่ไกล่เกลี่ยเพราะฉะนั้นก็ต้องสู้กันต่อ
- จริง ๆ แล้วที่เขาโพสต์เขาอยากให้พี่พชร์ใจอ่อนหรือเปล่า ?
พชร์ อานนท์ : น้องไปอ่านดี ๆ เขาโพสต์ด่าพี่อีกครั้ง ไม่ได้เป็นการขอโทษ แต่เขาใช้คำพูดลึก ๆ มาว่าพี่ ลองอ่านดี ๆ
- เท่ากับว่าไม่ทันแล้ว ?
พชร์ อานนท์ : ไม่ทันแล้ว แล้วแต่ศาลตัดสิน
- หวั่นว่าจะยืดเยื้อไหม ?
พชร์ อานนท์ : มันก็ต้องยืดเยื้อครับ เพราะว่าเขาต้องการอย่างนั้นเอง เราไม่ได้เป็นคนหาเรื่อง เราเป็นผู้ใหญ่เราก็อยู่ของเรา จู่ ๆ เขาก็มาหาเรื่อง แล้วที่สำคัญทั้งหมดเรื่องที่เกิดขึ้นไม่ได้เกี่ยวกับสัญญาเลย เป็นคดีหมิ่นประมาทอย่างเดียว แต่เขาเอาไปพัวพันไปหมดว่าจะไกล่เกลี่ยเอาสัญญาคืน อะไรก็จะเอาสัญญาคืน ซึ่งบอกไปแล้วว่าค่าฉีกสัญญา 3 ล้านบาท เราพูดไปแล้ว
- ที่เขาโพสต์เขาอยากให้คนมองว่ากลายเป็นพี่พชร์รังแกเด็กหรือเปล่า ?
พชร์ อานนท์ : พี่ไม่เคยรังแกเด็กอยู่แล้ว แต่เราก็พูดความจริงว่าเราไกล่เกลี่ยไปแล้วแต่เขาไม่ยอม
ข้อมูลจาก สำนักข่าว INN