เรียกได้ว่าเป็นรายแรก ๆ ก็ว่าได้ที่ออกมายอมรับว่าตัวเองนั้นป่วยติดเชื้อไวรัสโคโรนา สำหรับหนุ่มแมทธิว ดีน และภรรยาสาว ลีเดีย ศรัณย์รัชต์ ซึ่งขณะนี้ทั้ง 2 คน ยังคงพักรักษาตัวจากอาการป่วย covid 19 อยู่ที่โรงพยาบาล เนื่องจากอาการยังไม่หายเป็นปกติ
ล่าสุด (10 เมษายน 2563) ทั้งคู่ได้อัดคลิปวิดีโอ โพสต์ลงไอจีส่วนตัวของแมทธิว เพื่ออัปเดตอาการป่วยของทั้งคู่ และได้มีการเปิดเผยเรื่องที่ซึ่งถือเป็นคำเตือนและคำแนะนำดี ๆ เกี่ยวกับโควิด 19 โดยช่วงแรกทั้งคู่ตอบข้อสงสัยที่ว่าสาเหตุที่ยังหายสักที เป็นเพราะทั้งคู่มาอยู่ด้วยกัน ทำให้เชื้อไม่ไปไหนหรือไม่นั้น
แมทธิวและลีเดีย ระบุว่า ตอนแรกก็คิดแบบนั้นเช่นกัน จึงมีการสอบถามกับคุณหมอ จึงได้รับคำตอบว่า คุณหมอยืนยันว่าการติดเชื้อครั้งนี้ติดจากแมทธิวไปสู่ลีเดีย ซึ่งเป็นเชื้อตัวเดียวกัน มีต้นตอเดียวกัน เพราะฉะนั้นจะเป็นแล้วเป็นเลย จะไม่มีการส่งกลับกันไปมา
โดยขั้นตอนการรักษาของทั้งคู่ เรียกได้ว่าผ่านช่วงวิกฤตมาแล้ว ตอนนี้อยู่ในขั้นตอนการฟื้นฟูร่างกายและผลิตภูมิคุ้มกันเพื่อที่จะขจัดตัวไวรัสออกไปจากร่างกาย ซึ่งจากที่ตรวจเลือดไป ภูมิคุ้มกันเราจะค่อย ๆ เพิ่มมาเรื่อย ๆ ค่อย ๆ ขับไล่ไวรัสออกจากร่างกาย ตอนแรกที่ตรวจระดับภูมิคุ้มกันจะระดับไม่มาก แต่พอตรวจครั้งต่อไปจะเห็นได้เลยว่าภูมิคุ้มกันมันขึ้นมาเรื่อย ๆ แต่ยังไม่รู้ว่าภูมิคุ้มกันต้องเยอะระดับไหนถึงจะขับไล่ไวรัสออกจากร่างกายได้ แต่แน่นอนว่าภูมิคุ้มกันยิ่งเยอะยิ่งดี
ทั้งนี้ ทั้งคู่เปิดเผยว่า เรื่องที่อยากจะเตือนได้แก่ เรื่องอุจจาระ หมอเตือนว่าเชื้ออยู่ในอุจจาระจำนวนมาก สำหรับการกดชักโครก ควรปิดฝาก่อนกด ไม่เช่นนั้นเชื้ออาจจะฟุ้งขึ้นมาได้ การปิดฝาก่อนกดน้ำเป็นการป้องกันการกระจายของเชื้อได้ รวมถึงการแปรงฟันและสั่งน้ำมูกตรงอ่างล้างหน้าก็ต้องระวังมากเป็นพิเศษ สำหรับคนที่หายแล้ว หรือกำลังกักตัว ควรแยกห้องน้ำจากคนอื่นเลย
คุณหมอยกตัวอย่างว่า การตรวจโรคโควิดจากภายในลำคอ และจมูก บางครั้งอาจไม่พบ แต่พอตรวจจากอุจจาระ ผลปรากฏว่าเจอเชื้ออีกระยะหนึ่งเลย
แมธทิวและลีเดีย ทิ้งท้ายว่า โรคนี้เป็นโรคใหม่ที่ยังมีข้อมูลไม่เยอะมาก จึงไม่รู้ว่าทำไมเชื้อถึงอยู่กับทั้งคู่นานกว่าคนอื่น หรือมันมีหลายสายพันธุ์หรือเปล่า หรือมันอยู่ที่พันธุกรรม กรุ๊ปเลือด หรือเชื้อสายอะไรหรือไม่ ที่ตัดสินใจยังอยู่โรงพยาบาลเพราะอยากให้หาย 100 เปอร์เซ็นต์ ไม่อยากกลับบ้านแล้วเอาเชื้อไปแพร่ให้ครอบครัว
ในวันที่ 13 เมษายน นี้ ทั้งคู่มีนัดตรวจอีกครั้ง ก็ต้องรอลุ้นว่าจะยังบวกอยู่ หรือเป็นลบแล้ว
>> อ่านข้อมูลและติดตามสถานการณ์ COVID-19 << ได้ที่นี่