บิณฑ์ บรรลือฤทธิ์ ยืนยันไม่คิดยักยอกเงินบริจาค หลังมีมิจฉาชีพปลอมเฟซบุ๊กจนถูกจับตามอง ย้ำที่ผ่านมาช่วยเหลือผู้เดือดร้อนด้วยความบริสุทธิ์ใจตลอด
กลายเป็นเรื่องราวใหญ่โต หลังมีมิจฉาชีพปลอมเฟซบุ๊กเป็น บิณฑ์ บรรลือฤทธิ์ เปิดรับบริจาคหลอกประชาชนให้โอนเงินเข้าบัญชี ซึ่งก็มีผู้หลงเชื่อเป็นจำนวนมาก ทำให้ช่วงหลังสังคมจับตามองคนดังกับการเปิดรับบริจาคมากขึ้น
อ่านข่าว : บิณฑ์ บรรลือฤทธิ์ ไม่ทน ! โร่แจ้งจับคนปลอมเฟซบุ๊ก หลอกคนโอนเงินเพียบ
อ่านข่าว : บิณฑ์ บรรลือฤทธิ์ ไม่ทน ! โร่แจ้งจับคนปลอมเฟซบุ๊ก หลอกคนโอนเงินเพียบ
ล่าสุด (21 กรกฎาคม 2563) บิณฑ์ บรรลือฤทธิ์ เปิดใจกับ ไนน์เอ็นเตอร์เทน ถึงเรื่องนี้ว่า ตนมีความบริสุทธิ์ใจในการเปิดรับบริจาคแน่นอน ส่วนช่วงโควิด 19 ที่ผ่านมา ตนนำเงินไปช่วยเหลือประชาชนที่เดือดร้อนกว่า 10 ล้านบาท ซึ่งเป็นเงินส่วนตัวที่ได้จากการทำงาน หลังมีบางคนมองว่าเอาเงินบริจาคมาใช้เพื่อช่วยเหลือคนอื่น
อย่างไรก็ตาม เมื่อปีก่อนที่มีการเปิดรับเงินช่วยเหลือน้ำท่วม มียอดเข้ามา 400 กว่าล้านบาท ตนก็สามารถชี้แจงการใช้เงินได้ทุกยอด และเคลียร์ไปหมดเรียบร้อย พร้อมยืนยันความบริสุทธิ์ใจ หากกรมสรรพากรจะทำการตรวจสอบการใช้เงินในบัญชีของตน
อย่างไรก็ตาม เมื่อปีก่อนที่มีการเปิดรับเงินช่วยเหลือน้ำท่วม มียอดเข้ามา 400 กว่าล้านบาท ตนก็สามารถชี้แจงการใช้เงินได้ทุกยอด และเคลียร์ไปหมดเรียบร้อย พร้อมยืนยันความบริสุทธิ์ใจ หากกรมสรรพากรจะทำการตรวจสอบการใช้เงินในบัญชีของตน
บิณฑ์ บรรลือฤทธิ์ กล่าวย้ำว่า ไม่เคยคิดที่จะยักยอกเงินบริจาคมาเป็นของตัวเอง ที่ผ่านมาถือว่าเป็นการพิสูจน์ให้สังคมได้เห็นว่าตนมีความซื่อสัตย์ เชื่อว่ากรรมจะตามทันคนที่โกงเงินบริจาค พร้อมกับบอกถึงหลักในการเปิดบริจาคที่ทำมาตลอดว่า การช่วยเหลือเคสต่าง ๆ จะเปิดบัญชีแยกกัน และหากการช่วยเหลือเสร็จสิ้นจะมีการปิดบัญชีทันที จึงง่ายกับการตรวจสอบ
ส่วนการช่วยเหลือผู้ที่เดือดร้อน ตอนนี้ยังคงช่วยสุดกำลังเหมือนที่ทำงานการกุศลมากว่า 30 ปี แต่ขอเน้นช่วยเหลือช้างที่มีเสียงขอความช่วยเหลือมาหลายจังหวัด โดยจากเดิมที่มีเงินในบัญชีช่วยเหลือช้างเป็นจำนวน 8 ล้านบาท ได้ใช้ไปแล้วจนเหลือเพียง 2 ล้านบาท แม้จะเป็นยอดเงินที่ไม่เพียงพอในการช่วยเหลือ แต่ก็ยังจะกัดฟันช่วยสัตว์คู่บ้านคู่เมืองต่อไป
ส่วนการช่วยเหลือผู้ที่เดือดร้อน ตอนนี้ยังคงช่วยสุดกำลังเหมือนที่ทำงานการกุศลมากว่า 30 ปี แต่ขอเน้นช่วยเหลือช้างที่มีเสียงขอความช่วยเหลือมาหลายจังหวัด โดยจากเดิมที่มีเงินในบัญชีช่วยเหลือช้างเป็นจำนวน 8 ล้านบาท ได้ใช้ไปแล้วจนเหลือเพียง 2 ล้านบาท แม้จะเป็นยอดเงินที่ไม่เพียงพอในการช่วยเหลือ แต่ก็ยังจะกัดฟันช่วยสัตว์คู่บ้านคู่เมืองต่อไป
ขอบคุณข้อมูลจาก ไนน์เอ็นเตอร์เทน