ต้องบอกว่าประเด็นเรื่องการเรียกร้องให้ดาราคนดังรวมไปถึงอินฟลูเอนเซอร์ต่าง ๆ ให้ออกมา Call Out เป็นกระบอกเสียงให้กับประชาชนในเรื่องการบริหารงานล้มเหลวของรัฐบาลนั้นเป็นเรื่องที่ถูกพูดถึงเป็นอย่างมาก ทั้งการเรียกร้องประชาธิปไตย การจัดการควบคุมโรคโควิด 19 การแก้ไขปัญหาเศรษฐกิจ ฯลฯ ซึ่งที่ผ่านมาก็มีดาราเริ่มออกมาพูดถึงเรื่องนี้กันบ้าง แต่ส่วนใหญ่ก็ยังเงียบ จนทำให้เกิดดราม่าแบนดาราขึ้น
รวมไปถึงนางเอกสาว ปู ไปรยา ซึ่งถือเป็นอีกหนึ่งคนดังที่ชาวเน็ตต่างเรียกร้องให้ออกมา Call Out เป็นจำนวนมาก เนื่องจากมีตำแหน่งทูตสันถวไมตรี UNHCR ซึ่งเป็นตำแหน่งเกี่ยวกับสิทธิของมนุษย์โดยตรง แต่เธอกลับเงียบกริบ โดยเฉพาะประเด็นผู้ลี้ภัยทางการเมืองที่ถูกอุ้มหายและการใช้ความรุนแรงของเจ้าหน้าที่กับประชาชนที่ออกมาชุมนุม
แต่ล่าสุด (19 กรกฎาคม 2564) ปู ไปรยา ก็ได้ออกมาเคลื่อนไหวถึงประเด็นนี้เป็นครั้งแรก โดยได้ร่ายยาวความอัดอั้นตันใจผ่านทางอินสตาแกรมส่วนตัวว่า อัดอั้นใจมาตลอดอยากแสดงความเห็นในสิ่งที่ปูรู้สึก แต่ต้องคำนึงถึงผลที่จะเกิดขึ้นตามมากับองค์กรที่ทำงานให้อย่างหลีกเลี่ยงไม่ได้
โดย ปู ระบุว่า "ตลอดเวลาที่ผ่านมา ปู เฝ้าติดตามสถานการณ์การแพร่ระบาดของโควิด 19 ในประเทศไทยมาโดยตลอด ภาพข่าวที่ปูได้เห็น คือประชาชนจำนวนมากไม่สามารถเข้าถึงการักษาพยาบาลได้อย่างเท่าเทียม จำนวนผู้เสียชีวิตคาบ้านเพิ่มขึ้นแต่ละวันอย่างน่าใจหาย หมอ-พยาบาลติดโควิดเพิ่มขึ้น วัคซีนไม่เพียงพอ ที่มีอยู่ก็ป้องกันสายพันธุ์เดลต้าได้ไม่ดี ต้องมีคนเสียชีวิตอีกเท่าไหร่ ประชาชนทนไม่ไหวออกมาเรียกร้องขอวัคซีนที่มีคุณภาพ
ที่ผ่านมา ปู อัดอั้นใจมาตลอด ปูอยากแสดงความเห็นในสิ่งที่ปูรู้สึก แต่ปูต้องคำนึงถึงผลที่จะเกิดขึ้นตามมากับองค์กรที่ปูทำงานให้อย่างหลีกเลี่ยงไม่ได้ วันนี้ปูได้แสดงความเห็นส่วนตัวบนพื้นที่ส่วนตัวนี้แล้ว
ปู หวังมาตลอดว่า รัฐบาลจะใช้หัวใจรับฟังเสียงข้อเรียกร้องของประชาชน เสียงร้องไห้ ความเจ็บปวดจากการสูญเสียบุคคลอันเป็นที่รัก แล้วแสดงความจริงใจยอมรับความผิดพลาด ขอโทษประชาชน เปิดเผยข้อมูลข้อเท็จจริงเกี่ยวกับการบริหารจัดการวัคซีน และรีบจัดการแก้ไขปัญหาอย่างเป็นรูปธรรมโดยเร็ว
ปู ไม่เห็นด้วยกับการใช้ความรุนแรงทุกรูปแบบและเชื่อโดยบริสุทธิ์ใจว่า มนุษย์ทุกคนมีสิทธิเสรีภาพที่จะเข้าถึงการรักษาพยาบาลและสวัสดิการของรัฐอย่างเท่าเทียม ประชาชนชนมีสิทธิเสรีภาพในการรับรู้ข้อมูลเกี่ยวกับการสาธารณสุข ประชาชนมีสิทธิเสรีภาพในการได้รับความคุ้มครองในสิ่งที่พวกเขาคิด พูด และแสดงความคิดเห็น และผู้บริหารประเทศควรเปิดใจรับฟัง และมีคำอธิบายดี ๆ ให้กับประชาชนโดยไม่ใช้ความรุนแรง"