x close

เปิดโลกวัยเบบี๋ 6 เรื่องน่าตื่นใจ



เปิดโลกวัยเบบี๋ 6 เรื่องน่าตื่นใจ (momypedia)
โดย: เซเฮราซาด

            พร้อมแล้วที่จะเรียนรู้สู่โลกกว้างอย่างสร้างสรรค์สำหรับ ลูกวัยขวบแรกแล้ว โลกใบใหญ่ที่แสนจะธรรมดา (และน่าเบื่อเป็นบางครั้ง) ในสายตาของผู้ใหญ่อย่างเรา กลับเต็มไปด้วยเรื่องอัศจรรย์น่ารู้มากมายไปหมด แบบที่ฝรั่งเรียกกันว่า "brand new" คราวนี้เราจะไปตามติดเรื่องน่าตื่นตาตื่นใจที่จะช่วยพัฒนาการเรียนรู้โลกของลูกน้อยกันค่ะ

            ตั้งแต่แรกเกิดเด็กทารกกระหายที่จะมีประสบการณ์เกี่ยวกับประสาทสัมผัสด้านต่าง ๆ ไม่ว่าจะเป็นการสัมผัส การรับรส การมองเห็น หรือการได้ยินเสียง การกระตุ้นประสาทสัมผัสเหล่านี้จะทำให้หนูน้อยได้เรียนรู้ด้านกายภาพ อารมณ์ และสังคม พ่อแม่จึงควรให้การส่งเสริมและกระตุ้นลูกน้อยในเรื่องนี้อย่างเหมาะสม

แล้วอย่างไรล่ะจึงจะเรียกว่าเหมาะสม ?

            เทคนิคที่ดีที่สุดก็คือใช้พฤติกรรมของลูกเรานั่นเองค่ะเป็นตัวตั้ง ดูว่าลูกของเราชอบอะไร เพราะเด็ก ๆ แต่ละคนมีลักษณะของการรับรู้ที่แตกต่างกัน บางสิ่งที่จับใจเด็กคนหนึ่งเหลือเกิน อาจจะทำให้เด็กอีกคนหนึ่งกลัวก็ได้ และนอกจากนี้บ่อยครั้งสิ่งที่เด็กน้อยให้ความสนใจมักจะเป็นสิ่งง่าย ๆ เช่น น้ำที่กำลังไหลรินออกจากถ้วย หรือเงาใบไม้ไหวบนกำแพง เด็กทารกจะสังเกตสิ่งเล็ก ๆ น้อย ๆ ที่ผู้ใหญ่มองข้าม ทั้งนี้เพราะเด็กทารกยังไม่รู้ว่าสิ่งต่าง ๆ รอบตัวคืออะไร หรือสิ่งนั้นจะดำเนินต่อไปอย่างไร ฉะนั้นทุกอย่างที่พวกเขาประสบพบเห็นจึงเป็นสิ่งใหม่และน่าตื่นตาตื่นใจไปหมด

สิ่งที่ลูกน้อยวัยขวบแรกชื่นชอบมากที่สุดมักจะแบ่งออกได้ดังนี้ค่ะ

ลูกชอบมองสิ่งที่เคลื่อนไหว

            ถ้าลูกน้อยแสดงความสนใจต่อสิ่งใดก็ตามที่กำลังเคลื่อนไหว เราสามารถนำสิ่งที่ลูกชอบนั้นมาเล่นหรือทำให้ลูกดูได้จนกว่าแกจะเบื่อ โดยเฉพาะถ้าการเคลื่อนไหวนั้นทำให้เกิดเสียงด้วย เช่น กุญแจตกสู่พื้น ใช้ค้อนไม้เล็ก ๆ ตีลงไปบนกลองเด็กเล่น หรือแม้กระทั่งแค่การตบมือ เป็นธรรมชาติของเด็กที่จะมีปฏิกิริยาตอบสนองต่อการเคลื่อนไหวของสิ่งต่าง ๆ ด้วยอาการชื่นชมและสนใจค่ะ

            การที่ลูกสนใจและสังเกตการเคลื่อนไหว ของสิ่งต่าง ๆ นี้จะช่วยไปกระตุ้นสมองของลูกให้เกิดการพัฒนา ยิ่งลูกเรียนรู้ว่าสิ่งต่าง ๆ เคลื่อนไหวไปอย่างไร ลูกจะยิ่งสามารถแยกแยะและเข้าใจว่าสิ่งนั้นคืออะไรและใช้ทำอะไร เป็นการพัฒนาประสาทสัมผัสในการรับรู้ของลูกไงคะ

แค่นี้เราก็คงเข้าใจแล้วว่าทำไมหนูน้อยจึงชอบมากที่จะมองดูคน สัตว์ และสิ่งต่าง ๆ ที่เคลื่อนที่ได้ เคยสังเกตบ้างไหมคะว่าเพียงแค่ได้เห็นน้ำหมุนวนลงไปในชักโครก เด็กบางคนก็หัวเราะชอบใจแล้ว หรือการพาลูกไปเล่นกับกระจก เด็กจะชอบใจที่ได้เห็นภาพตัวเอง หรือภาพพ่อแม่เคลื่อนไหวในกระจกด้วย

"ของแปลกใหม่" โดนใจหนูที่สุด

            เด็กทารกชอบมองดูสิ่งของที่แปลกใหม่ ไม่เคยเห็นมาก่อน ทั้งยังมองได้นานและอย่างพินิจพิเคราะห์มากกว่าสิ่งของที่คุ้นเคย

            ดังนั้นจึงไม่แปลกที่เด็กจะชอบจ้องมองดูคนแปลกหน้า โดยเฉพาะถ้าคนคนนั้นมีหนวด ใส่แว่น ใส่เหล็กดัดฟันอยู่ในปาก หรือมีอะไรที่แตกต่างจากคนที่เขาคุ้นเคย เด็กบางคนกล้าหาญกระทั่งเอื้อมมือไปลูบคลำหนวดของคุณลุงที่เพิ่งพบกันครั้ง แรก แบบว่า "ขอลองจับดูหน่อยนะว่านี่อะไร"

            เมื่อชื่นชอบความแปลกใหม่เช่นนี้จึงเป็นเรื่องธรรมดาที่ลูกน้อยจะขี้เบื่อ ถึงแม้จะได้ของเล่นชิ้นใหม่มา แต่พอเล่นไปได้สักพักก็มักจะพานเบื่อ หันไปสนใจอย่างอื่นแทนเสียแล้ว และไม่ต้องแปลกใจหรอกค่ะถ้าลูกน้อยรู้สึกตื่นเต้นมาก เมื่อได้พบกับคนที่เขาไม่ได้พบเจอบ่อยนัก เช่น คนส่งของ หรือคุณป้า คุณน้าที่พบกันครั้งแรก

            ดังนั้นถ้าว่าง ๆ คุณพ่อคุณแม่อาจจะพาลูกไปเยี่ยมคุณปู่คุณย่าหรือญาติ ๆ ที่ไม่ได้พบกันบ่อยนักบ้างก็ได้ หนูน้อยจะได้เรียนรู้เกี่ยวกับคนใหม่ ๆ เป็นการบริหารเซลล์ประสาทส่วนต่าง ๆ ไปในตัว แถมยังได้สานสายสัมพันธ์ในครอบครัวด้วยนะ

สีตัดกัน หนูช้อบชอบ

            เคยสังเกตบ้างไหมคะว่า เด็กจะชอบมองแนวเส้นผมของผู้ใหญ่ หรือชอบมองดูตาของเรา นั่นเพราะทารกชอบมองสิ่งของที่มีสีขาวกับดำตัดกันค่ะ

            และถ้าพาเด็กน้อยออกไปเดินเล่นนอกบ้าน เด็กก็จะจ้องมองเงาของใบไม้ที่เคลื่อนไหวอยู่บนกำแพง ซึ่งทำให้ได้เรียนรู้ทั้งเรื่องสีตัดกันและเรื่องการเคลื่อนไหว หรือคุณพ่อคุณแม่อาจจะชี้ชวนให้ลูกมองดูลำแสงที่ส่องเข้ามาในห้องมืด ๆ เด็กก็สนใจไม่แพ้กันค่ะ บางคนอาจจะพยายามเอื้อมมือไปจับด้วยซ้ำ เพราะอยากรู้ว่าแสงสว่างเป็นลำที่ตัดกันกับความมืดในห้องนั้นคืออะไร หรือทุกสิ่งทุกอย่างในชีวิตประจำวัน เช่น เน็คไทด์สีน้ำเงินตัดกับเสื้อเชิ๊ตสีขาวของคุณพ่อ ปกเสื้อสูทสีดำที่สีตัดกันกับเสื้อตัวในของคุณแม่ หรือใบหน้าขาวนวลสว่างไสวของแม่ที่ตัดกับเรือนผมสีดำสามารถเป็นของเล่นดึง ดูดตาดึงดูดใจของลูกได้ทั้งนั้น

            เรียกว่าไม่ว่าจะเป็นสิ่งใด หรือสถานที่ใดก็ตามที่มีสีขาวกับดำหรือสีต่างๆ มาตัดกัน หรือทุก ๆ ที่ที่แสงสว่างกับความมืดเดินทางมาบรรจบกัน จะเรียกความสนใจของเด็ก ๆ ได้เสมอค่ะ

            การที่เด็กทารกชอบสิ่งที่มีสีตัดกันมากนั้น เป็นเพราะช่วงเดือนแรก ๆ เด็กสามารถมองเห็นได้ไกลเพียงแค่ประมาณ 12 นิ้ว ดังนั้น ดวงตาของเด็กจึงมักมองไปที่สิ่งของหรือที่ที่มีสีตัดกัน เพราะในบริเวณที่มีสีตัดกันนั้นเด็กจะสามารถมองเห็นได้ดีกว่า และดึงดูดสายตาเด็กได้มากกว่า การมองสีตัดกันของเด็กยังจะเป็นการกระตุ้นประสาทสัมผัสเกี่ยวกับการมองเห็น ในสมองของลูกให้เกิดการพัฒนาขึ้นไปเรื่อยๆ ด้วย

ตอบสนองหนูหน่อย หนูคอยเรียนรู้

            เด็ก ๆ ชอบได้รับการตอบสนอง เวลาที่พวกเขาทำอะไรแล้วเกิดผลตามมา เด็ก ๆ จะชอบมาก เช่น แค่พวกเขาสั่นกระดิ่งแล้วมีเสียง หรือเขย่าของเล่นแล้วมีเสียง นอกจากได้เรียนรู้เรื่องเหตุและผลแล้ว เด็ก ๆ ยังชอบความรู้สึกที่ว่าพวกเขามีผลกระทบกับโลกรอบตัวของพวกเขา เด็ก ๆ จึงสนใจทุกสิ่งทุกอย่างที่แสดงผลตอบกลับได้

            เด็ก ๆ จะอ่อนไหวต่อเหตุและผลของสิ่งต่างๆ มาก แม้กระทั่งในเด็กอายุแค่ 1 เดือนยังรู้สึกอารมณ์เสียได้ถ้าสิ่งที่พวกเขาคาดหวังว่าจะให้เกิดกลับไม่ เกิดขึ้นตามที่หวัง เช่น เคยมีการทดลองโดยให้ผู้ใหญ่คนหนึ่งไปอยู่ต่อหน้าเด็กในระยะใกล้ชิด แต่ไม่แสดงสีหน้าใด ๆ ที่แสดงว่าสนใจในสิ่งที่เด็กทำเลย ทารกน้อยจะพยายามเรียกร้องความสนใจอยู่พักหนึ่ง แต่ทำอย่างไรผู้ใหญ่ก็ไม่แสดงสีหน้าอะไรออกมาเลย สักพักประมาณ 45 นาที เด็กจะร้องไห้

            ความต้องการการตอบสนองทำให้เด็กชอบมองสีหน้าของผู้ คน โดยเฉพาะสีหน้าของแม่ที่เป็นใบหน้าแรกที่พวกเขาเห็นตั้งแต่เกิด ที่เป็นเช่นนั้นเพราะนอกจากใบหน้าที่แสดงอารมณ์ต่าง ๆ จะตอบสนองต่อเด็ก ๆ แล้ว บนใบหน้ายังมีทั้งการเคลื่อนไหว มีความแปลกใหม่ มีแสงเงาที่ตัดกัน และมีเสียงด้วย ซึ่งล้วนเป็นการกระตุ้นประสาทสัมผัสที่เด็กๆ ชอบทั้งนั้น ดังนั้นทั้งคุณพ่อคุณแม่ควรเล่นกับลูกด้วยสีหน้าท่าทางในแบบต่าง ๆ อยู่เสมอนะคะ

            นอกจากใบหน้าของผู้ใหญ่แล้ว ลูกน้อยยังชอบมองดูหน้าของทารกคนอื่น รวมทั้งใบหน้าของตัวเองในกระจกด้วย เด็กๆ จะมองใบหน้าของเด็กอื่น ซึ่งมีสีหน้าที่แตกต่างกันไป สังเกตดูก็ได้ค่ะว่า เวลาที่เด็ก ๆ มาเจอหน้ากัน พอคนหนึ่งหัวเราะ อีกคนก็จะหัวเราะด้วย พออีกคนร้องไห้ เด็กอีกคนก็จะร้องไห้ด้วย ถ้ามีโอกาสก็พาเด็ก ๆ ไปเล่นกับเพื่อนๆ วัยทารกด้วยกันบ้าง นอกจากหนูน้อยจะสนุกสนานกับเพื่อนเด็กด้วยกัน แล้วยังเป็นการกระตุ้นประสาทสัมผัสด้านต่าง ๆ ของลูกอีกด้วยค่ะ

หนูมี "จังหวะ" และ "ดนตรี" อยู่ในหัวใจ

            เด็ก ๆ ร้อยทั้งร้อยชอบจังหวะและเสียงดนตรี ไม่ว่าจะเป็นเพลงกล่อมเด็ก เพลงโปรดที่คุณแม่ชอบร้องบ่อยๆ หรือเสียงตบเก้าอี้ เคาะโต๊ะของตัวเองเด็กๆ ก็ชอบ ที่เป็นเช่นนี้ก็เพราะลูกน่ะคุ้นเคยและรู้สึกสบายกับ "จังหวะ" การเต้นของหัวใจแม่ และ "เสียง" พูดของแม่มาตั้งแต่ยังอยู่ในท้องแล้วล่ะ

            เด็กทารกส่วนใหญ่ชอบเล่นกับเสียง ไม่ว่าจะเป็นการส่งเสียงอ้อแอ้ การตบมือ ชอบฟังเสียงร้องเพลงและเสียงพูดของคนอื่น หรือแม้กระทั่งเสียงของตัวเองก็ยังชอบฟัง เพราะฉะนั้นไม่ต้องแปลกใจเลยถ้าเด็กจะส่งเสียงอ้อแอ้เหมือนกำลังพูดคุยกับใคร

            เมื่อการสื่อสารด้วยเสียงเป็นสิ่งที่น่าตื่นเต้นสำหรับเด็กน้อยมาก เช่นนี้ พ่อแม่จึงควรร้องเพลง เล่านิทาน หรือพูดคุยกับลูกเสมอ ส่งเสียงตอบกลับเมื่อลูกส่งเสียงอ้อแอ้คุยด้วย หรือทำเสียงสัตว์ต่าง ๆ เล่นกับลูก รับรองว่าหนูน้อยจะหัวเราะชอบใจและแสนจะอบอุ่นใจเมื่อได้ยินเสียงอันสนุก สนานและคุ้นเคยจากพ่อแม่ค่ะ

เรื่องราวผู้หญิง ความสวยงาม แฟชั่น ความรัก มากมาย คลิกเลย

คลิกอ่านความคิดเห็นของเพื่อนๆ ได้ที่นี่ค่ะ



ขอขอบคุณข้อมูลจาก


เรื่องที่คุณอาจสนใจ
เปิดโลกวัยเบบี๋ 6 เรื่องน่าตื่นใจ อัปเดตล่าสุด 12 กุมภาพันธ์ 2553 เวลา 14:58:53
TOP