x close

7 กิจวัตร...ศัตรูความสวย


7 กิจวัตร...ศัตรูความสวย (Modern Mom)
โดย: จิงเกอร์เบลล์
คอลัมน์ Lady Tips


          ลำพังแค่จะดูแลตัวเองให้ความสวยในตัวไม่ให้ ถูกกาลเวลาขโมยไปก็จะแย่อยู่แล้ว แต่นี่ถ้าตัวเองเผลอไผลร่วมมือด้วยความเข้าใจผิดดูแลตัวเองไม่ถูกวิธีนี่ สิ... ยิ่งแย่เข้าไปใหญ่เลย เพื่อไม่ให้ Mom ทั้งหลายพลาดพลั้งโดยไม่รู้ตัว จิงเกอร์เบลล์ก็เลยรวบรวมกิจวัตรที่เป็นศัตรูกับความสวยของผู้หญิงเรามาฝาก


ล้างหน้าด้วยน้ำอุ่น

          สาวๆ หลายคนชอบล้างหน้าด้วยน้ำอุ่นเพราะรู้สึกว่าล้างแล้วหน้าสะอาดเกลี้ยงเกลา สบายหน้าดีออก

          ความจริง: น้ำอุ่นโดยเฉพาะน้ำอุ่นจัดๆ จะล้างเอาน้ำมันตามธรรมชาติที่เคลือบผิวให้ชุ่มชื้นออกจากผิวหน้าไปด้วย ส่งผลให้ผิวแห้งและเกิดการระคายเคืองได้ง่าย

          ข้อแนะนำ: ควรล้างหน้าด้วยน้ำอุณหภูมิปกติกับสบู่หรือเจลที่เหมาะกับสภาพผิว หากจำเป็นต้องใช้น้ำอุ่นก็อย่าให้ร้อนจัดเกินไปนัก


ชอบสัมผัส-เช็ด-ถู ใบหน้า

          บางคนเคยตัวกับการใช้มือจับที่หน้า ขยี้ตา รวมถึงลืมตัวเช็ดหน้าแรงๆ ด้วยความเผลอตัวและคิดว่าไม่น่าจะมีผลอะไร

          ความจริง: ผิวที่ใบหน้าของเรา โดยเฉพาะบริเวณรอบดวงตา เป็นส่วนที่บอบบางและเกิดริ้วรอยง่าย หากถูกเช็ดถูแรงๆ ก็อาจเกิดการระคายเคืองรวมถึงอาจทำให้เกิดสิวขึ้นได้ หากมือหรือผ้าที่ใช้ไม่สะอาดพอ

          ข้อแนะนำ: หลีกเลี่ยงการใช้มือสัมผัสหรือถูที่บริเวณใบหน้าโดยไม่จำเป็น หลังการล้างหน้าควรซับหน้าเบาๆ ด้วยผ้าเนื้อนุ่ม


ล้าง Make up ไม่หมด

          สำหรับ Modern Mom ที่เติมสีสันบนใบหน้า พอกลับบ้านยุ่งๆ ไหนจะลูกไหนจะงานบ้านที่ต้องดูแล จากที่เคยล้างแบบหมดจดพิถีพิถันก็อาจจะเหลือแค่ล้างด้วยโฟมสัก 2 รอบ แบบนี้ก็น่าจะสะอาดพอแล้วล่ะ

          ความจริง: Make up หลากสีที่เติมบนดวงตา แก้ม ปาก หากปล่อยให้เหลือค้างบนใบหน้าส่งผลทำให้ผิวไม่ได้พักอย่างเต็มที่ในเวลาค่ำ คืน จึงทำให้รูขุมขนอุดตันและเกิดอักเสบที่ผิวและดวงตาได้ นอกจากนั้นสีลิปสติกที่ตกค้างบนริมฝีปากจะทำให้สีปากดำคล้ำได้

          ข้อแนะนำ: ก่อน เข้านอนไม่ว่าจะดึกดื่นแค่ไหน ต้องล้างหน้าให้สะอาดเกลี้ยงเกลา ด้วยครีม น้ำนมหรือออยล์สำหรับล้างหน้าที่เหมาะกับสภาพผิวของคุณ รวมถึงอย่าลืมเช็ดริมฝีปากและรอบดวงตา (อย่างเบามือ) ด้วยผลิตภัณฑ์เฉพาะ อย่าง eye - lips cleanser หรือจะใช้เบบี้ออยล์แทนก็ได้ค่ะ


ใช้ครีมกันแดดเฉพาะช่วงหน้าร้อน

          วัน ไหนเห็นฟ้าครึ้มๆ ไม่มีแดดมาถูกผิว จึงมีหลายๆ คนคิดว่าจะทาครีมกันแแดดไปทำไมให้สิ้นเปลืองและวุ่นวายอีก ก็เลยข้ามขั้นตอนนี้ไปซะจะได้ประหยัดเวลาแต่งหน้าไปด้วยในตัว

          ความจริง: ถึงจะไม่เห็นแสงแดดจ้าแต่ความจริงแล้วแสงอ่อนๆ นั้นก็มีรังสียูวีออกมาด้วย แล้วรังสียูวีในแสงแดดนี่แหละเป็นตัวการสำคัญที่ทำให้ผิวเกิดริ้วรอยหมอง คล้ำได้ เนื่องจากแสงแดดจะทำให้เกิดการเปลี่ยนแปลงของใยคลอลาเจนในบริเวณผิวชั้นใน จึงทำให้ให้เกิดริ้วรอยขึ้น นอกจากนั้นรังสียูวียังทำให้เกิดฝ้ากระและจุดด่างดำบนใบหน้าได้อีกด้วย

          ข้อแนะนำ: ควรใช้ครีมกันแดดหรือครีมบำรุงผิวที่มีส่วนผสมของครีมกันแดดที่มีค่า SPF 15 เป็นอย่างต่ำโดยใช้เป็นประจำสม่ำเสมอตลอดปี


ใช้เครื่องสำอางร่วมกับคนอื่น

          เห็นลิปสติก บลัชออนหรืออายชาโดว์สีสวยๆ ตามเคาน์เตอร์ก็อยากจะไปลองทาลองใช้ หรือบางทีก็แบ่งเครื่องสำอางใช้กับเพื่อนๆ กันอย่างสนุกสนาน มีก็แลกกันใช้จะหวงไปทำไมล่ะ

          ความจริง: การใช้เครื่องสำอางปะปนกับคนอื่นเป็นสาเหตุของการถ่ายทอดโรคติดเชื้อ โรคผิวหนังต่างๆ ถึงกันได้ เช่น โรคเริม

          ข้อแนะนำ: ไม่ควรยืมหรือแชร์เครื่องสำอางซึ่งเป็นของใช้ส่วนตัวกับคนอื่น รวมถึงไม่ควรไปทดลองใช้เครื่องสำอางตามเคาน์เตอร์ต่างๆ โดยไม่ระวัง ยิ่งเป็นเครื่องสำอางที่การใช้งานมีการสัมผัสกับผิวโดยตรง เช่น ลิปสติก ถ้าจำเป็นต้องทดลองใช้ให้หลีกเลี่ยงการไปสัมผัสกับเครื่องสำอางโดยตรง แต่ควรเช็ดผิวบนออกก่อนแล้วใช้ค็อตตั้นบัดทาแทนพู่กัน เป็นต้น


ลืมระวัง....ความสะอาด

          ไม่ ว่าจะเรื่องของการปิดฝาไม่สนิทแน่นหนา ความสะอาดของมือเวลาไปสัมผัสเครื่องสำอางเพราะคิดว่าเรื่องเล็กๆ น้อยๆ อย่างนี้ไม่น่าก่อให้เกิดปัญหาอะไรได้

          ความจริง: การไม่ล้างมือให้สะอาดก่อนบำรุงผิวและแต่งหน้า รวมถึงการปิดฝาเครื่องสำอางไม่สนิท ล้วนเป็นการเปิดโอกาสให้เชื้อโรคต่างๆ ไปเติบโตในกระปุกเครื่องสำอางราคาแพงของคุณได้ ซึ่งจะทำให้เครื่องสำอางเสียก่อนเวลาอันควรและเมื่อใช้แล้วทำให้เกิดผื่นแพ้ ที่ผิวได้

          ข้อแนะนำ: ล้างมือทุกครั้งก่อนแต่งหน้าและใช้ที่ตักครีมแทนการใช้นิ้วสัมผัสครีมโดยตรง รวมถึงการเก็บเครื่องสำอางในที่ไม่มีฝุ่นและไม่ถูกแสงแดดก็จะช่วยให้เครื่อง สำอางคงคุณภาพใช้ได้อย่างปลอดภัยสบายใจ


ตุนเครื่องสำอาง

          เห็นแล้วชอบ เจอตอนเซลล์ลดราคากระหน่ำก็ดีอกดีใจขนซื้อมาเสียยกใหญ่ กะว่าจะเก็บไว้ใช้เรื่อยๆ ได้นานหลายปีเลย

          ความจริง: อายุเครื่องสำอางส่วนใหญ่หลังผลิตแล้วหากยังไม่ได้เปิดใช้จะอยู่ได้ประมาณ 3-4 ปี แต่ถ้าเปิดใช้แล้วอายุการใช้งานก็จะสั้นลงไปอีกเพราะถูกอากาศ ปนเปื้อนเชื้อโรคต่างๆ ไปแล้วนั่นเอง

          ข้อแนะนำ: ก่อนซื้อเครื่องสำอางอย่าลืมเช็ควันเดือนปีที่ผลิตว่าจะหมดอายุหรือยัง ซื้อไปจะใช้ทันหรือเปล่า และถ้ายังไม่คิดจะใช้ทันทีก็ไม่ควรเปิดใช้เพราะนั่นจะเป็นการลดอายุเครื่อง สำอางให้สั้นลงไปอีกโดยไม่จำเป็นค่ะ


          เป็นไงบ้างคะ จิงเกอร์เบลล์เองก็ต้องเลิกนิสัยที่มาลดทอนความสวย (ที่ไม่ค่อยจะมีอยู่เท่าไร) ของตัวเองตั้งหลายอย่างเชียวคะ เฮ้อ เพิ่งรู้ว่าที่งามกับเขาไม่เต็มที่ก็เพราะฝีมือตัวเองแท้ๆ เศร้าเลยเรา...




เรื่องราวผู้หญิง ความสวยงาม แฟชั่น ความรัก มากมาย คลิกเลย

คลิกอ่านความคิดเห็นของเพื่อนๆ ได้ที่นี่ค่ะ




ขอขอบคุณข้อมูลจาก


เรื่องที่คุณอาจสนใจ
7 กิจวัตร...ศัตรูความสวย อัปเดตล่าสุด 21 ตุลาคม 2552 เวลา 10:01:55
TOP