x close

เวดดิ้งแพลนเนอร์เป็นเองก็ได้...ง่ายนิดเดียว

วางแผนแต่งงาน

เรียบเรียงข้อมูลโดยกระปุกดอทคอม

          "แต่งงาน" เป็นงานใหญ่ไม่เบา เพราะมีอะไรให้ต้องจัดการมากมาย แน่นอนว่าถ้าไม่มีการวางแผนให้ดี อาจเกิดงานล่มเอาได้ง่าย ๆ เอ...แล้วอย่างนั้นเราต้องจ้างเหล่า เวดดิ้งแพลนเนอร์ (Wedding Planner) หรือผู้รับจัดงานแต่งงานมาหรือเปล่านะ คำตอบคือถ้าคุณสบายใจที่จะจ้างมืออาชีพก็ดีค่ะ แต่ว่าถ้าอยากประหยัดงบประมาณ และคิดว่าสามารถจัดการด้วยตัวเองได้ ก็ลงมือเลย!

          วันนี้เราเลยเอาเคล็ดลับในการวางแผนงานแต่งงานมาฝากกัน อ้อ! ส่วนคนที่ตั้งใจจะจ้างเวดดิ้งแพลนเนอร์อยู่แล้ว ก็ลองมาอ่านไปด้วยกันได้ค่ะ จะได้รู้แนวทางที่จะดีลกับทางผู้รับจัดงานด้วย

1. ตั้งงบประมาณ

          เรื่องเงินนี่นับว่าเป็นเรื่องใหญ่เลยทีเดียว เพราะมันเป็นตัวกำหนดขอบเขตขนาดของงาน ว่าจะจัดงานให้เอิกเกริกหรือเอาแค่เล็ก ๆ เป็นส่วนตัว หลายคู่ ๆ ไม่ได้วางแผนเรื่องการใช้เงินไว้ตั้งแต่แรก จนทำให้เผลอใช้จ่ายมากเกินกว่าที่ควรจะเป็น ตั้งงบประมาณรวมของงานแต่งงานเอาไว้ แล้วเอาใจใส่คอยสำรวจเช็คดูว่า คุณจ่ายเงินไปกับส่วนไหนเท่าไหร่ และได้คุณภาพงานตามที่ต้องการหรือไม่

          การกำหนดงบประมาณจะเป็นตัวบังคับให้คุณเปรียบเทียบหาสินค้า หรือบริการที่คุ้มค่าที่สุด หลายรายมักคิดว่ายอมจ่ายแพง เพื่อแลกกับความเพอร์เฟ็คต์ แต่ที่จริงหากลองพยายามค้นหากสักนิด ก็จะได้งานที่คุณภาพใกล้เคียงกันในราคาที่เป็นมิตรกว่าได้ค่ะ

2. เตรียมการล่วงหน้าให้เร็วเท่าที่เป็นไปได้

          หลีกเลี่ยงความฉุกละหุก ประเภทลงมือทำหรือหามาได้ในนาทีสุดท้าย แม้ว่าจะทำได้สำเร็จแต่ความรู้สึกใจหายใจคว่ำ ลุ้นจนหน้าเสีย (แถมอารมณ์เสียด้วย) มันก็ไม่ดีใช่ไหมคะ แถมก็รับประกันความชัวร์ไม่ได้ด้วยว่าจะทำได้สำเร็จจริงหรือเปล่า เพราฉะนั้น ลงมือจัดเตรียมเสียตั้งแต่เนิ่น ๆ เตรียมไว้ล่วงหน้าก่อนยิ่งนานเท่าไหร่ยิ่งดี เพราะคุณจะมีเวลาเอาใจใส่กับรายละเอียดมากขึ้น ซึ่งแน่นอนว่าส่งผลให้งานที่ออกมาสมบูรณ์แบบมากขึ้นด้วย

3. เป็นตัวของตัวเอง

          ตัดสินใจเลือกรูปแบบการจัดงานแบบที่คุณอยากให้เป็น ก็นี่มันงานแต่งงานของคุณนี่นา อยากทำอะไรก็ลองดูเลยค่ะ คุณไม่จำเป็นต้องทำอะไรตามแบบเหมือนกับงานอื่น ๆ หรือยึแบบแผนสากลเป็นหลัก คุณคงไม่อยากรู้สึกประหลาด ๆ ตะขิดตะขวงใจในงานแต่งงานของตัวเองจริงไหมคะ

4. ทำเช็คลิสต์

          การทำเช็คลิตส์รายการที่ต้องทำเป็นเรื่องจำเป็นอย่างยิ่ง และขาดไม่ได้เด็ดขาด สำหรับการจัดการเรื่องราวมากมายในงานแต่งงาน ทั้งเบอร์โทรศัพท์ติดต่อที่จำเป็นอย่าง ร้านดอกไม้ ช่างแต่งหน้าทำผม ฯลฯ และรายการสิ่งที่ต้องจัดการให้เรียบร้อย ไม่ว่าจะเป็นสั่งอาหาร สั่งดอกไม้ รับเสื้อหลังจากแก้แล้ว ฯลฯ พยายามจดรายการที่ต้องทำอย่างละเอียด เพราะในงานแต่งงานมีรายละเอียดปลีกย่อยมากมาย หากคุณไม่โน้ตเอาไว้อยากจะหลงลืมไปได้ง่าย ๆ ทีเดียว

วางแผนแต่งงาน

5. ขอความช่วยเหลือจากเพื่อน

          งานใหญ่ขนาดนี้อาจจะเกินการรับมือของคุณเพียงคนเดียว แต่อย่าลืมนะว่าคุณก็ยังมีเพื่อน ๆ อยู่ ไม่ว่าจะเป็นเพื่อนเจ้าสาว เพื่อนสนิท หรือญาติพี่น้องคนรู้จักที่สนิทสนม อย่างน้อยเรื่องอย่างการการ์ดเชิญ การตกแต่งสถานที่ ที่คุณอาจบอกแนวความต้องการตัวเองไปแล้ว ขอความช่วยเหลือให้พวกเขาช่วยเป็นธุระให้การหาโรงพิมพ์ ร้านดอกไม้ รวมถึงช่วยติดตามงานให้ และบางทีคนรู้จักของคุณอาจมีความสามารถอย่างจัดดอกไม้ เป็นคนชอบฟังเพลง หรือมีฝีมือด้านการทำขนม ลองขอร้องให้เขาช่วยแสดงฝีมือในงานแต่งงานของคุณดูก็ได้ค่ะ

6. รับฟังคำแนะนำหลากหลาย

          นอกจากการเป็นตัวของตัวเอง ในการตัดสินใจเลือกจัดการงานแต่งงานแล้ว การรับฟังความคิดเห็นและคำแนะนำจากคนอื่น ก็ยังคงเป็นเรื่องดีที่มองข้ามไม่ได้เช่นกัน อย่างน้อยคนที่เข้ามาให้คำแนะนำคุณก็คงมีใจอยากจะช่วยเหลือ และปรารถนาดีจริง ๆ ยิ่งเป็นพวกผู้ใหญ่เขาย่อมมีประสบการณ์ในงานแต่งงานของตัวเองมาแล้ว คงมีคำแนะนำดี ๆ ว่าในตอนนั้นมีอะไรดี ๆ ที่ควรจะทำ หรืออะไรที่ทำแล้วดูพลาดไม่อยากให้เกิดในงานของคุณ ก็รับฟังไว้แล้วนำมาปรับใช้ในแบบของคุณค่ะ

7. ไม่เครียดกังวลเกินเหตุ

          ข้อสุดท้ายนี้เป็นเรื่องสำคัญที่สุด ไม่ว่างานแต่งงานของคุณจะเล็กหรือใหญ่ขนาดไหน คุณจะต้องคุมสติไม่ให้เครียดจนหัวฟูไปเสียก่อน ไม่แปลกหากคุณจะมีความเป็นกังวลถึงงานที่ใกล้เข้ามา แต่ก็ต้องไม่ลืมที่จะดูแลตัวเองด้วย จะได้ไม่โทรมหรือป่วยเสียก่อนที่จะถึงวันงาน ลองหาวิธีผ่อนคลายความเครียดด้วยการไปนวด ทำเล็บ หรือนอนแช่น้ำอุ่นในอ่าง ซึ่งนอกจากจะช่วยคลายเครียดได้แล้ว ยังเป็นการเสริมความงามเจ้าสาวไปในตัวด้วยค่ะ

          ท้ายที่สุดนี้ก็มีเรื่องจริงอีกเรื่องหนึ่ง ที่อยากจะฝากว่าที่เจ้าสาวทั้งหลายเอาไว้ คือในทุก ๆ งานไม่ว่าจะเตรียมการพร้อมเท่าไหร่ แต่พอถึงเวลาจริง ๆ ก็มักจะมีเรื่องพลาดไม่ตรงแผนอย่างน้อยสักเรื่องหนึ่งอยู่ดี เมื่อเวลานั้นอย่าตระหนกจนหน้าเสีย สูดหายใจลึก ๆ สักหนึ่งเฮือกแล้วสนุกไปกับมัน คิดเสียว่านี่เป็นมิสชั่นสนุก ๆ อย่างหนึ่งในการแต่งงาน บางทีคุณอาจจะรู้สึกว่ามันเป็นเรื่องใหญ่ไปเองคนเดียวก็ได้นะ

          เมื่อผ่านช่วงวิกฤตินี้ไปได้แล้วกลับมานึกย้อนดูอีกครั้ง มันจะทำให้คุณยิ้มออก และเรียกเสียงหัวเราะได้ไม่น้อยเลยทีเดียวล่ะ :) ... ขอให้โชคดีและมีความสุขในชีวิตคู่นะคะ





เรื่องที่คุณอาจสนใจ
เวดดิ้งแพลนเนอร์เป็นเองก็ได้...ง่ายนิดเดียว อัปเดตล่าสุด 21 กันยายน 2554 เวลา 15:07:26
TOP