x close

ลุคแบบไหนกันที่ส่อแวว ไฮซ้อ


ลุคแบบไหนกันที่ส่อแวว ไฮซ้อ


ลุคแบบไหนกันที่ส่อแวว ไฮซ้อ (Momypedia)
โดย: ลาวัณย์


          อายุอานามเข้า 40 แม้ยังแจ๋ว ทั้งยังงามสง่าน่านับถือก็จริงอยู่ แต่ก็ดูไม่สาวอีกต่อไป บางคนมีหน้ามีตาในสังคม มีความมั่นใจ แต่งหน้าแต่งตาเต็มที่ ผมต้องยีตีโป่งพอง ฉีดสเปรย์แข็งโป๊ก อาจเนื่องมาจากสาเหตุหลายประการ ที่ดิฉันรวบรวมได้จากการวิเคราะห์ (นินทา) กับเพื่อนฝูงได้ดังต่อไปนี้ (ท่านผู้อ่านต้องลองสังเกตและวิเคราะห์ไปด้วย หากมีข้อเสนอแนะเพิ่มเติม ช่วยเขียนมาบอกด้วย)

          1. ผมบางลง ต้องการให้มีวอลูมมากขึ้น เลยต้องยีผม

          2. ต้องการเพิ่มวอลูมผมให้สมส่วนกับขนาดของเอวที่หนาเพิ่มขึ้นตามกาลเวลาไม่งั้นจะกลายเป็นหัวหลิมเล็กไม่สมกับตัว

          3. ช่วยให้ใบหน้าดูเล็กลง

          4. ช่วยปกปิดหูกาง ประหยัดเงินกว่าการทำศัลยกรรมเป็นไหน ๆ

          5. คิด(เข้าข้างตนเอง) ว่าดูมีราศี เหมือนนางสิงห์เจ้าป่า ช่วยเพิ่มความมั่นใจ

          6. ดูเซ็กซี่ เป็นที่ดึงดูดสายตาให้คนมามอง ชายขับรถสปอร์ตมักควงสาวหัวโต

          7. แสดงถึงความยิ่งใหญ่ ทรงพลัง คนรอบข้างต้องเกรงใจ ไม่กล้าเทียบรัศมี

          8. ยิ่งผมสูงเท่าใดยิ่งใกล้สวรรค์มากเท่านั้น

          ตามหลักฐานทางประวัติศาสตร์ยุโรปราวศตวรรษที่ 18 แถว ๆ 1770 ทรงผมพองฟูนี้มิใช่ทำเฉพาะในหมู่ผู้หญิงเท่านั้น แต่ทำในหมู่ผู้ชายด้วย เรียกผมทรงนี้ว่า มะกะโรนี ตามอาหารอิตาเลียน (ใช่แล้ว มะกะโรนีที่เราผัดให้ลูกกินอยู่ทุกวันนี้แหละ) ช่วยให้ผมดูมากขึ้นดูการใส่วิก พอกแป้งแข็ง แล้วสวมหมวกเล็กกว่าปกติ เพื่อจะได้เน้นผมสูงยิ่งใหญ่

          ราว ๆ 1780 เพื่อให้ผมดูสูงส่งใกล้ท้องฟ้าท้องสวรรค์ขึ้นไปอีก พวกผู้หญิงต่างตกแต่งทรงผมด้วยเครื่องประดับ ทั้งขนนก ดอกไม้ดอกไร่ ผลไม้ โบ ผ้าลูกไม้ แม้แต่การตกแต่งจำลองสวน และกองทัพเรือน้อย ๆ ไปบนเรือนวิก จนเจ้าของบ้านต้องขยายความสูงและความกว้างของประตูเพื่อจะได้ต้อนรับแขกคน หรูได้อย่างสมเกียรติ โดยไม่ทำลายความงดงามของทรงผม

          เบื้องหลังการแต่งทรงผมอันอะร้าอร่ามมหัศจรรย์พันลึกนี้ วิเคราะห์โดยนักเศรษฐศาสตร์ชาวอเมริกัน (จำชื่อไม่ได้แล้ว) ว่าเป็นการแสดงฐานะทางสังคมและความร่ำรวยของสามี มากกว่าจะแต่งเพื่อตนเอง ในที่สุดแฟชั่นนี้ก็ถูกโค่นลงไปในช่วงการปฏิวัติฝรั่งเศส และกลับมาฮิตเป็นครั้งเป็นคราวตลอดช่วงระยะเวลา 200 ปีที่ผ่านมา

          ไม่ว่าจะเป็นดอริส เดย์ เอลิซาเบธ เทย์เลอร์ ดอลลี่ พาร์ตัน และแม้แต่นักร้องเพลงร็อกอเมริกันบางกลุ่ม เช่น เดอะ บี 52 บางครั้งเน้นการยีเป็นส่วนๆอย่างยีผมโป่งเฉพาะที่บริเวณกระหม่อม แฟชั่นที่ทำกันมานานมากกว่า 10 ปีในเมืองไทย และเหล่าหญิงคนดังที่เราเห็นกันตามนิตยสาร เป็นหลักฐานยืนยันได้เป็นอย่างดี ว่าผมยีโป่งนี้ยังคงมีอยู่แน่นอน

icon ชอบหรือไม่ชอบ

           ผู้ชายที่ขับรถสปอร์ต โฉบเฉี่ยว สีสันเตะตา เป็นฉันใด หญิงผู้ยีผมโป่งก็เป็นเช่นนั้น สำหรับชายที่ชอบผู้หญิงกับทรงผมสไตล์นี้เป็นเพราะเป็นการทำตัวให้เป็นที่ชวน มอง เหมือนการใส่ส้นสูงปริ๊ด เสื้อยกทรงเสริม และยิ่งมีหัวโตเท่าไหร่เป็นการป่าวประกาศกึกก้องให้โลกรู้ว่าเธอรักตัวเอง มากเพียงใด แล้วพวกเขาก็ชอบผู้หญิงที่รักตนเอง (เข้าทำนองพวกหลงตัวเอง หลงอายุ หลงทางยังไงยังงั้น)

           ส่วนพวกที่รังเกียจก็ย่อมมี เข้าทำนองคนรักเท้าผืนหนังคนชังเท่าผืนเสื่อ ชายส่วนมากคงหัวเราะกันครืนและมีความเห็นว่ามันดูน่าเกลียดเสียเต็มประดา บางคนว่ามันดูโบราณไม่เป็นธรรมชาติ บ้างก็ว่าใช่เพียงไม่กล้าจะจับ แต่ไม่กล้ามองเสียด้วยซ้ำ

icon เครื่องประดับเพชรพลอย

           สำหรับในโลกธุรกิจแล้ว เครื่องประดับเฉพาะเงิน ทอง ไข่มุกเท่านั้นที่เหมาะกับวันทำงาน (ที่ดูน่าเชื่อถือ) พวกเพชรพลอยสีต่างๆที่แพรวพราวนั้นเหมาะกับงานราตรีสโมสร (ที่ไม่ค่อยได้ไป) ส่วนเครื่องประดับพวกเชือก ลูกปัด ไม้ โบ พลาสติกต่างๆ ไม่เหมาะกับวันทำงานเป็นอย่างยิ่ง นอกจากคุณจะอยู่ในสายงานฝ่ายแฟชั่น

           บางคนแพ้พวกทองและโลหะแท้ ใส่แล้วเกิดความคัน ก็ดีไปอย่างประหยัดไปในตัว สาเหตุจากการแพ้นี้ (นอกจากความจนแล้ว) เนื่องจากมาจากระบบความเป็นกรดในร่างกาย ทำปฏิกิริยาทางเคมีกับโลหะบริสุทธิ์อย่างเงินและทอง อาจช่วยหลีกเลี่ยงได้ด้วยการลดอาหารที่เป็นกรดสูงอย่างพวกมะนาว มะเขือเทศ แนะนำให้ทานลูกแพร์เพียงอย่างเดียว (แพงเข้าไปอีก) ซึ่งเป็นผลไม้ที่มีความเป็นด่างสูงสัปดาห์ละ 3-4 มื้อ

           หากใครลองแล้วได้ผลก็สามารถนำคลังมหาสมบัติที่มีอยู่มาสวมใส่สบายใจเฉิบ ใครที่ปฏิบัติตามแล้วก็ยังแพ้อยู่ อาจจะเป็นความโชคดีที่ได้สวยอย่างธรรมชาติ ไม่ต้องพึ่งพาเครื่องประดับ

           ที่ทุกคนต้องสวมใส่ก็คือนาฬิกาเพื่อดูเวลา ซึ่งผู้คนส่วนใหญ่ใส่ใจสำรวจ สังเกตนาฬิกาของคนรอบข้าง โดยเฉพาะพวกผู้ชายนี่แหละที่คอยสังเกต หากสามารถหาซื้อนาฬิกาที่มีคุณภาพ และยี่ห้อดีๆ ก็จะทำให้มีความภาคภูมิใจมากขึ้นเมื่อสวมใส่ หากเงินน้อยก็สามารถหานาฬิกาสวย ๆ คุณภาพดี ราคาไม่แพงที่มีขายอยู่ทั่วไป คงไม่ต้องถึงขั้นแม่นยำเหมือนที่ใช้ในยานอวกาศ บนดวงจันทร์หรอก

           ในวันทำงาน เครื่องประดับที่ใส่แล้วเกิดเสียงกรุ๋งกริ๋งเป็นเสียงกระดิ่งเรียกร้องความ สนใจ ควรหลีกเลี่ยง เพราะไม่เหมาะอย่างยิ่งยวด นอกจากรบกวนสมาธิของตนเองและคนรอบข้างแล้ว ยังดูเป็นคนเหลาะแหละและไม่จริงจังอย่างที่สุด ลองหันมาสวมใส่เครื่องประดับเก๋ๆอย่างเข็มกลัด ซึ่งไม่จำเป็นต้องเข้าชุดกับตุ้มหู เพียงระวังให้สีสันและรูปร่างดูกลมกลืน ไม่ดูขัดตา

           สำหรับสายสร้อยนั้น ส่วนใหญ่ก็มักจะสวมสร้อยทองห้อยพระ บางครั้งสวมประจำติดตัวทุกวัน จึงไม่จำเป็นที่ต้องโชว์ออกมานอกเสื้อ (ชี้ช่องให้โจรมาจี้) เพราะคงไม่สามารถเข้ากับเสื้อผ้าทุกชุดที่สวมใส่ ยิ่งพวกที่มีคอยาวๆแล้วยังสวมสร้อยคอเส้นยาวๆ ยิ่งจะทำให้คอดูผอมยาวยิ่งขึ้น สำหรับคนตัวเล็กๆหากอยากสวมสร้อยคอยาวๆไม่ควรเกิน 4-5 นิ้ว วัดจากปุ่มคอลงมา ส่วนพวกแหวนนั้นยิ่งสวมมากลวงเท่าใดยิ่งสวยน้อยลงเท่านั้น เพราะจะไปบดบังความงามกันเองบนนิ้วมือ แย่ไปกว่านั้นเวลาเข้าห้องน้ำไปเผลอถอดล้างมือ สูญหายไปเสียอีก

           เครื่องประดับคือส่วนที่ดึงดูดสายตาให้มองดู ดังนั้น พวกที่มีอายุสูง ๆ ถึงชอบสวมเครื่องประดับ เนื่องจากเนื้อตัวก็เหี่ยวย่น ดึงสายตาจากเนื้อหนังมังสาให้มาตะลึงงุนงงกับสร้อยคอ อุบะเพชร ทับทิม มรกตเจ้าคุณปู่ 300 ล้านแทน

           ผู้ที่ใส่เครื่องประดับมาก ๆ จึงถือว่ามีอายุมากเข้าไปด้วย เพราะถ้าสวยจริงไม่ควรต้องมีเครื่องประดับมาบดบังความบดบังเนื้อหนังความ สวยงามตามธรรมชาติ พวกยีผมโป่ง พอกเครื่องสำอาง โปะเครื่องประดับก็เรียกได้ว่า ไฮซ้อลุค ไง



เรื่องที่คุณอาจสนใจ
ลุคแบบไหนกันที่ส่อแวว ไฮซ้อ อัปเดตล่าสุด 15 กรกฎาคม 2554 เวลา 15:52:02 6,409 อ่าน
TOP