x close

4 วิธีสร้างสุขภาพดียามตั้งครรภ์



4 วิธีสร้างสุขภาพดียามตั้งครรภ์ (Mother & Care)

          “สุขภาพดี” สร้างได้ไม่เว้นแม้แต่เวลาตั้งครรภ์ คุณแม่ทุกคนสามารถเริ่มต้นได้จากตัวเอง โดยอาศัยกิจวัตรประจำวันทั้งการออกกำลังกาย การนอน การกิน และไม่ลืมที่จะดูแลจิตใจ เพื่อให้คุณแม่และลูกมีสุขภาพดีทั้งภายนอกและภายใน

          1.    ออกกำลังกาย

          วิธีที่ง่ายที่สุดในการมีสุขภาพดียามตั้งครรภ์ก็คือ การออกกำลังกายเพียงแค่คุณแม่ใช้เวลาวันละนิดก็สามารถออกกำลังกล้ามเนื้อส่วนต่างๆ ของร่างกายให้แข็งแรงได้

          ออกกำลังง่ายๆ : การออกกำลังกายในช่วงตั้งครรภ์ คุณแม่อาจจะต้องปรึกษากับสูติแพทย์ก่อนว่าสามารถทำได้มากน้อยเพียงใด เพราะร่างกายและการเผาผลาญพลังงานของคุณแม่แต่ละคนมีความแตกต่างกัน โดยเฉพาะคุณแม่ที่ เป็นเวิร์กกิ้งมัมอาจจะยากที่ จะหาเวลาไปออกกำลังกายตามสถานที่ต่างๆ ได้ วิธีง่ายๆ ที่คุณแม่ทุกคนสามารถทำได้คือใช้เวลาหลังมื้อเที่ยงออกไปเดินข้างนอกบ้างการเดินขึ้น-ลงบันไดแทนการใช้ลิฟท์ (ในกรณีที่ขึ้นลงชั้นเดียว) หรือแม้แต่การทำอาหารมื้อเย็นกินเอง ก็ทำให้คุณแม่ได้ออกกำลังแขนและขาแล้ว

          ออกกำลังอย่างสนุก : คุณแม่แต่ละท่านคงจะมีเวลาว่างมากน้อยไม่เท่ากัน แต่คุณแม่สามารถใช้วิธี ‘2 in 1’ ได้เพียงแค่ทำกิจกรรม 2 อย่างควบคู่กัน เช่นการนั่งดูโทรทัศน์เฉยๆ บนโซฟาเป็นเวลานาน อาจทำให้รู้สึกปวดหลังได้ ลองลุกขึ้นเดินบ้าง (ถ้ามีเครื่องออกกำลังกาย อาจเดินบนสายพานอย่างช้าๆ) หรือถ้าคุณแม่มีลูกแล้วก็สามารถทำให้การออกกำลังกายเป็นการเล่นสนุกที่ทำพร้อมกับลูกได้ เช่น การเปิดการ์ตูนหรือเพลงสนุกๆ ที่ลูกชอบแล้วชวนลูกขยับร่างกาย เต้นไปพร้อมๆ กับเสียงดนตรี ก็เท่ากับได้ออกกำลังกายและยังทำให้อารมณ์ดีด้วย

          2.    นอนหลับสบาย

          การนอนถือเป็นการพักผ่อนที่ดีที่สุด ถ้าได้นอนหลับเต็มที่ก็จะทำให้ร่างกายไม่รู้สึกอ่อนเพลีย คุณแม่ต้องนอนหลับพักผ่อนอย่างน้อยวันละ 8-9 ชั่วโมง ซึ่งช่วงเวลาที่ดีที่สุดสำหรับการนอนหลับคือตอนกลางคืน พยายามนอนให้ตรงเวลาและอย่านอนดึก ที่สำคัญคือก่อนนอนต้องทำจิตใจให้สบาย เพราะหากดูรายการที่ตื่นเต้นหรือเครียดก่อนจะเข้านอนก็จะทำให้นอนหลับไม่สนิทหรือนอนไม่หลับ และไม่ควรกินยานอนหลับในช่วงตั้งครรภ์เพราะหากกินติดต่อกันเป็นเวลานาน จะทำให้นอนหลับยากขึ้นและการเพิ่มขนาดยาจะส่งผลเสียต่อลูกในครรภ์ด้วย

          3.    กินเพื่อสุขภาพ

          อาหารทุกอย่างที่กินเข้าไปล้วนแต่มีผลต่อสุขภาพของคุณแม่ทั้งสิ้น แต่จะเป็นคุณค่ามากหรือน้อยก็ขึ้นอยู่กับว่าคุณแม่กินอาหารชนิดใด เช่น การกินเนื้อสัตว์จะได้พลังงานและเพิ่มกำลัง ส่วนการกินผลไม้จะทำให้รู้สึกสดชื่น ซึ่งการกินเพื่อสุขภาพไม่ได้หมายความว่าจะต้องเคร่งครัดกับการกินอาหารหมู่ใดหมู่หนึ่งมากจนเกินไปเพราะจะได้ประโยชน์น้อยกว่าการกินอาหารครบทุกหมู่อย่างสมดุล และปรับการกินอาหารให้เหมาะกับร่างกาย เช่น หากเป็นคนอ้วนง่ายแต่ชอบกินขนมหวานหลังอาหารทุกมื้อ ก็ลองปรับเป็นกินขนมหวานสลับมื้อกับกินผลไม้ก็ได้

          4.    ใจสบาย

          การมีจิตใจที่สงบและเบิกบานจะช่วยให้ร่างกายรู้สึกกระปรี้กระเปร่าไปด้วย แต่บางครั้งความเครียดจากการทำงานที่สะสมในแต่ละวันและร่างกายที่เปลี่ยนแปลงไปคงจะทำให้มีอารมณ์ที่แปรปรวนบ้าง เวลาที่รู้สึกอ่อนล้าเพียงแค่ใช้เวลา 1-2 นาที หลับตาและปล่อยร่างกายให้อยู่ในท่าที่สบาย หายใจเข้าออกช้าๆ ก็จะช่วยผ่อนคลายความเครียดและลดความเกร็งตัวของกล้ามเนื้อส่วนต่างๆ ได้

          นอกจากนี้ ในแต่ละวันควรมีเวลาอยู่กับตัวเองบ้าง การได้นั่งฟังเพลงโปรดพร้อมกับอ่านหนังสือที่ชอบในมุมสบาย หรือได้งีบหลับระหว่างวันก็สามารถลดความตึงเครียดลงได้ แต่ถ้าไม่ชอบอยู่คนเดียวก็ลองชวนสามีคุยเรื่องสนุกๆ ยิ้มหัวเราะด้วยกันก็สามารถเพิ่มความสดใสได้อย่างดี

          หลังคลอดลูก

          ถึงแม้จะคลอดลูกแล้ว เคล็ดลับที่ได้กล่าวไปก็ยังใช้ได้อยู่ แต่การเลี้ยงลูกไปด้วยอาจทำให้คุณแม่เหนื่อยกว่าเดิม เคล็ดลับเล็กๆ น้อยๆ เหล่านี้ คงจะพอช่วยให้คุณแม่คนเก่งผ่อนคลายร่างกายและใจได้

          จัดห้องในบ้านสักหนึ่งห้องให้เป็นมุมโปรดของคุณสำหรับผ่อนคลายตัวเอง

          ใช้ช่วงเวลาที่ลูกนอนหลับ พักผ่อนและงีบหลับพร้อมกับลูก

          ถ้ามีเพื่อนที่มีลูกรุ่นเดียวกัน อาจชวนเพื่อนมาเที่ยวที่บานเพื่อพูดคุยแลกเปลี่ยนเรื่องลูก

          ไม่คาดหวังกับตัวเองจนเกินไปและภูมิใจในเรื่องเล็กน้อยที่ทำได้ จะช่วยให้สนุกและมีความสุขกับการเลี้ยงลูกมากขึ้น อย่าให้ความกังวลและการกดดันตัวเองกลายเป็นความเครียดในการเลี้ยงลูกให้ดีที่สุด เพราะการเป็นแม่ก็คือการเรียนรู้และค้นหาประสบการณ์ใหม่ๆ อยู่ตลอดเวลา สู้คุณแม่ทำให้ตัวเองและลูกมีความสุขไปพร้อมๆ กันจะดีกว่าค่ะ

          สร้างได้ไม่เว้นแม้แต่เวลาตั้งครรภ์ คุณแม่ทุกคนสามารถเริ่มต้นได้จากตัวเอง โดยอาศัยกิจวัตรประจำวันทั้งการออกกำลังกาย การนอน การกิน และไม่ลืมที่จะดูแลจิตใจ เพื่อให้คุณแม่และลูกมีสุขภาพดีทั้งภายนอกและภายใน                    วิธีที่ง่ายที่สุดในการมีสุขภาพดียามตั้งครรภ์ก็คือ การออกกำลังกายเพียงแค่คุณแม่ใช้เวลาวันละนิดก็สามารถออกกำลังกล้ามเนื้อส่วนต่างๆ ของร่างกายให้แข็งแรงได้         การออกกำลังกายในช่วงตั้งครรภ์ คุณแม่อาจจะต้องปรึกษากับสูติแพทย์ก่อนว่าสามารถทำได้มากน้อยเพียงใด เพราะร่างกายและการเผาผลาญพลังงานของคุณแม่แต่ละคนมีความแตกต่างกัน โดยเฉพาะคุณแม่ที่ เป็นเวิร์กกิ้งมัมอาจจะยากที่ จะหาเวลาไปออกกำลังกายตามสถานที่ต่างๆ ได้ วิธีง่ายๆ ที่คุณแม่ทุกคนสามารถทำได้คือใช้เวลาหลังมื้อเที่ยงออกไปเดินข้างนอกบ้างการเดินขึ้น-ลงบันไดแทนการใช้ลิฟท์ (ในกรณีที่ขึ้นลงชั้นเดียว) หรือแม้แต่การทำอาหารมื้อเย็นกินเอง ก็ทำให้คุณแม่ได้ออกกำลังแขนและขาแล้ว          คุณแม่แต่ละท่านคงจะมีเวลาว่างมากน้อยไม่เท่ากัน แต่คุณแม่สามารถใช้วิธี ‘2 in 1’ ได้เพียงแค่ทำกิจกรรม 2 อย่างควบคู่กัน เช่นการนั่งดูโทรทัศน์เฉยๆ บนโซฟาเป็นเวลานาน อาจทำให้รู้สึกปวดหลังได้ ลองลุกขึ้นเดินบ้าง (ถ้ามีเครื่องออกกำลังกาย อาจเดินบนสายพานอย่างช้าๆ) หรือถ้าคุณแม่มีลูกแล้วก็สามารถทำให้การออกกำลังกายเป็นการเล่นสนุกที่ทำพร้อมกับลูกได้ เช่น การเปิดการ์ตูนหรือเพลงสนุกๆ ที่ลูกชอบแล้วชวนลูกขยับร่างกาย เต้นไปพร้อมๆ กับเสียงดนตรี ก็เท่ากับได้ออกกำลังกายและยังทำให้อารมณ์ดีด้วย                    การนอนถือเป็นการพักผ่อนที่ดีที่สุด ถ้าได้นอนหลับเต็มที่ก็จะทำให้ร่างกายไม่รู้สึกอ่อนเพลีย คุณแม่ต้องนอนหลับพักผ่อนอย่างน้อยวันละ 8-9 ชั่วโมง ซึ่งช่วงเวลาที่ดีที่สุดสำหรับการนอนหลับคือตอนกลางคืน พยายามนอนให้ตรงเวลาและอย่านอนดึก ที่สำคัญคือก่อนนอนต้องทำจิตใจให้สบาย เพราะหากดูรายการที่ตื่นเต้นหรือเครียดก่อนจะเข้านอนก็จะทำให้นอนหลับไม่สนิทหรือนอนไม่หลับ และไม่ควรกินยานอนหลับในช่วงตั้งครรภ์เพราะหากกินติดต่อกันเป็นเวลานาน จะทำให้นอนหลับยากขึ้นและการเพิ่มขนาดยาจะส่งผลเสียต่อลูกในครรภ์ด้วย                    อาหารทุกอย่างที่กินเข้าไปล้วนแต่มีผลต่อสุขภาพของคุณแม่ทั้งสิ้น แต่จะเป็นคุณค่ามากหรือน้อยก็ขึ้นอยู่กับว่าคุณแม่กินอาหารชนิดใด เช่น การกินเนื้อสัตว์จะได้พลังงานและเพิ่มกำลัง ส่วนการกินผลไม้จะทำให้รู้สึกสดชื่น ซึ่งการกินเพื่อสุขภาพไม่ได้หมายความว่าจะต้องเคร่งครัดกับการกินอาหารหมู่ใดหมู่หนึ่งมากจนเกินไปเพราะจะได้ประโยชน์น้อยกว่าการกินอาหารครบทุกหมู่อย่างสมดุล และปรับการกินอาหารให้เหมาะกับร่างกาย เช่น หากเป็นคนอ้วนง่ายแต่ชอบกินขนมหวานหลังอาหารทุกมื้อ ก็ลองปรับเป็นกินขนมหวานสลับมื้อกับกินผลไม้ก็ได้                    การมีจิตใจที่สงบและเบิกบานจะช่วยให้ร่างกายรู้สึกกระปรี้กระเปร่าไปด้วย แต่บางครั้งความเครียดจากการทำงานที่สะสมในแต่ละวันและร่างกายที่เปลี่ยนแปลงไปคงจะทำให้มีอารมณ์ที่แปรปรวนบ้าง เวลาที่รู้สึกอ่อนล้าเพียงแค่ใช้เวลา 1-2 นาที หลับตาและปล่อยร่างกายให้อยู่ในท่าที่สบาย หายใจเข้าออกช้าๆ ก็จะช่วยผ่อนคลายความเครียดและลดความเกร็งตัวของกล้ามเนื้อส่วนต่างๆ ได้          นอกจากนี้ ในแต่ละวันควรมีเวลาอยู่กับตัวเองบ้าง การได้นั่งฟังเพลงโปรดพร้อมกับอ่านหนังสือที่ชอบในมุมสบาย หรือได้งีบหลับระหว่างวันก็สามารถลดความตึงเครียดลงได้ แต่ถ้าไม่ชอบอยู่คนเดียวก็ลองชวนสามีคุยเรื่องสนุกๆ ยิ้มหัวเราะด้วยกันก็สามารถเพิ่มความสดใสได้อย่างดี                   ถึงแม้จะคลอดลูกแล้ว เคล็ดลับที่ได้กล่าวไปก็ยังใช้ได้อยู่ แต่การเลี้ยงลูกไปด้วยอาจทำให้คุณแม่เหนื่อยกว่าเดิม เคล็ดลับเล็กๆ น้อยๆ เหล่านี้ คงจะพอช่วยให้คุณแม่คนเก่งผ่อนคลายร่างกายและใจได้          จัดห้องในบ้านสักหนึ่งห้องให้เป็นมุมโปรดของคุณสำหรับผ่อนคลายตัวเอง          ใช้ช่วงเวลาที่ลูกนอนหลับ พักผ่อนและงีบหลับพร้อมกับลูก          ถ้ามีเพื่อนที่มีลูกรุ่นเดียวกัน อาจชวนเพื่อนมาเที่ยวที่บานเพื่อพูดคุยแลกเปลี่ยนเรื่องลูก          ไม่คาดหวังกับตัวเองจนเกินไปและภูมิใจในเรื่องเล็กน้อยที่ทำได้ จะช่วยให้สนุกและมีความสุขกับการเลี้ยงลูกมากขึ้น อย่าให้ความกังวลและการกดดันตัวเองกลายเป็นความเครียดในการเลี้ยงลูกให้ดีที่สุด เพราะการเป็นแม่ก็คือการเรียนรู้และค้นหาประสบการณ์ใหม่ๆ อยู่ตลอดเวลา สู้คุณแม่ทำให้ตัวเองและลูกมีความสุขไปพร้อมๆ กันจะดีกว่าค่ะ


เรื่องราวผู้หญิง ความสวยงาม แฟชั่น ความรัก มากมาย คลิกเลย

 คลิกอ่านความคิดเห็นของเพื่อนๆ ได้ที่นี่ค่ะ



ขอขอบคุณข้อมูลจาก

ฉบับเดือนกรกฎาคม 2552


เรื่องที่คุณอาจสนใจ
4 วิธีสร้างสุขภาพดียามตั้งครรภ์ อัปเดตล่าสุด 25 สิงหาคม 2552 เวลา 17:22:57
TOP