x close

ไม่ได้ดั่งใจ


ไม่ได้ดั่งใจ

ไม่ได้ดั่งใจ (Women40plus)

เขียนโดย : น.พ.อัมพล สูอำพัน 

          ทำไมคุณจึงเป็นคนอย่างนั้น หรือ  ฉันเบื่อเหลือเกินที่เลือกคู่ผิด หรือ  ไม่คิดเลยว่าคุณจะเป็นอย่างนี้ ถ้ารู้ตั้งแต่ต้นก็ไม่ขอแต่งงานด้วย หรือ คุณนี่ชั่งทำอะไรไม่ได้ดังใจฉันเลย หรือ....อีกมากมาย ข้อความเหล่านี้ผุดขึ้นมาจากใจ จากห้วงความคิด หรือได้พรั่งพรูออกจากปากของท่านหรือไม่

          ถ้าใช่ก็ลองอ่านบทความนี้ต่อไปนะครับ คิดว่าน่าจะทำให้ความคิดที่รบกวนความสุขของคุณเหล่านี้คงจะค่อยๆ จางหายไปหรือหมดไป

          ความจริงความคิดเหล่านี้ไม่ค่อยจะเกิดขึ้นในคู่ชีวิตที่คบกันใหม่ ๆ ซึ่งทั้งคู่ต่างตกหลุมรักซึ่งกันและกัน เวลานั้นทั้งคู่ต่างขยายจิต ขยายใจและขอบเขตแดนของตน ไปล้อมคู่รักของตน ต่างคนต่างตกอยู่ในสภาพของความฝันและจินตนาการอันสวยหรู มองอะไร ๆ รอบตัวเป็นสิ่งที่สวยสดงดงามไปหมด และคิดว่าสิ่งที่ตนเองวาดฝันไว้นั้นต้องเป็นจริงได้ดังใจเสมอ แล้วปล่อยให้พลังของจิตใจดำเนินไปตามความฝัน และจินตนาการนั้นอย่างเต็มสุดกำลัง

          แน่นอนครับ ในเวลาอย่างนี้เรียกว่า จิตใจจะพิจารณาสถานการณ์ที่เกิดขึ้นเพียงด้านเดียวเท่านั้น แล้วรู้สึกว่าอะไรที่ชอบอะไรที่รักสิ่งนั้นเป็นถูกต้องเสมอ และอะไรที่ไม่ชอบก็รู้สึกว่าสิ่งนั้นผิด ความรู้สึกอย่างนี้ เป็นความรู้สึกที่ไม่ถูกต้อง และทำให้ตัดสินใจไม่ตรงกับความจริง เป็นผลทำให้เกิดความพลาดพลั้งผิดพลาดได้เสมอ

          เมื่อเวลาผ่านไป ความรักความชอบที่ร้อนแรงมาแต่ต้นนั้นก็จะคลายตัวลง จิตใจก็จะค่อย ๆ ตื่นจากสภาพของความฝันและภวังค์แล้วเริ่มมองตามความเป็นจริงมากขึ้น แต่เดิมที่คิดถึงแต่คนที่ตนรัก แต่เดิมที่ฝากใจไว้กับคนรัก ตอนนี้ก็จะถอนใจดึงกลับเข้ามาสู่ตนเองมากขึ้น และเป็นตัวของตัวเองในที่สุด

          ระยะนี้อะไร ๆ ที่เคยถูกใจตามสภาพของฝันและจินตนาการ ก็เริ่มรู้สึกว่า อันโน้นก็ไม่เหมาะสม อันนี้ก็ไม่น่าจะเป็น สิ่งที่คิดว่าพอรับได้ไม่ไเป็นอะไร ก็รู้สึกว่ารับไม่ค่อยจะได้ และสิ่งที่ทั้งคู่พยายามปรับ กลบเกลื่อนจุดอ่อนของตนเพื่อไม่ให้อีกฝ่ายหนึ่งทราบ ไม่ให้อีกฝ่ายหนึ่งรู้ ตอนนี้จะเริ่มปล่อยไม่ระมัดระวังหรือรู้สึกไม่จำเป็นต้องระมัดระวัง เมื่อเป็นอย่างนี้บุคคลิกเดิม ความคิดเดิม อุปนิสัยใจคอเดิม วาจาแบบเดิม ๆ กิริยามารยาทแบบเดิม ๆ ก็จะค่อย ๆ ปรากฎเด่นชัดขึ้น

          ตรงนี้ถ้าไม่รักกันจริง ไม่เข้าใจจิตใจและธรรมชาติของมนุษย์ และไม่เข้าใจปรัญชาของการใช้ชีวิตคู่ หรือไม่รู้ไม่ตระหนักมาก่อนว่าชีวิตก็เป็นอย่างนี้ หรือทั้งคู่ไม่มีความเป็นผู้ใหญ่พอแล้วละก็ เมื่อมีภาวะเครียดอะไรอื่นมากระทบ เช่น ปัญหาการเจ็บป่วย ปัญหาทางเศรษฐกิจ ปัญหาการงาน ปัญหาการเรียนของลูก ปัญหาความขัดแย้งกับญาติผู้ใหญ่ของแต่ละฝ่ายหรือปัญหาปลีกย่อยอื่นๆ อีกมากมาย เมื่อคู่สมรสคู่รักกระทบกับปัญหาเหล่านี้ โอกาสที่ทั้งคู่จะโทษซึ่งกันและกันจะมีสูงมากที่จะขุดคุ้ยรื้อฟื้น เพ่งเล็ง มองหาจุดบกพร่องของแต่ละฝ่ายมาอ้างอิงกล่าวโทษ ว่าเป็นสาเหตุหนึ่งหรือเป็นสาเหตุสำคัญที่ทำให้เกิดปัญหา

          จุดนี้เป็นจุดประกายของไฟร้อนในดวงใจ เป็นจุดที่มองคนที่เราเคยรักมาก่อนดังดวงชีวานั้น กลับกลายมาเป็นคนที่น่าเบื่อ น่ารำคาญ รู้สึกผิดหวัง ไม่อยากเข้าใกล้ รู้สึกตำหนิ รู้สึกโกรธ รู้สึกไม่ได้ดังใจ จะทำอะไร ๆ ก็รู้สึกไม่ถูกใจไปเสียทั้งหมด และรู้สึกอะไรต่อมิอะไรเกิดขึ้นอีกมากมาย

          ชีวิตคู่ ชีวิตครอบครัว และชีวิตที่ควรจะน่าสดใสของลูก ก็จะค่อย ๆ แปรเปลี่ยนไปเป็นชีวิตที่อึมครึม ไม่มีความสุข และเป็นจุดหักเหที่ทำให้เกิดปากเสียง และในที่สุดจำต้องร้างลาจากกันอย่างไม่น่าเกิดขึ้น อะไรทำให้เราต้องรู้สึกที่ไม่ดีๆ เกิดขึ้นมากมายเช่นนั้น

          เหตุการณ์ทั้งหมดนี้ ส่วนใหญ่เกิดเพราะเราไม่รู้ความจริงตามธรรมชาติของมนุษย์ รวมทั้งตัวของเราเองด้วย

 ความจริงอะไร ...

          ประการแรก เราไม่ค่อยรู้ความจริงในใจของเรา หรือรู้ก็รู้น้อยว่าเราเลือกคนที่มาเป็นคู่ของเราเพราะเราต้องการอะไร ความต้องการทางใจของเรานี้มีหลากหลาย ในเชิงจิตวิทยามีผู้วิจัยไว้ว่าคนเราอาจตัดสินใจเลือกคู่ เพราะความรัก เพราะความเหงา เพราะเชื่อว่าเขารวย หรือเป็นคนที่นำทางชีวิตได้ เป็นพ่อบ้านแม่เรือน เป็นผู้ที่ให้ความอบอุ่นมั่งคง เป็นคนดี เป็นคนโรแมนติก หรือมีบางคนคิดในเรื่องหวังว่าชีวิตคู่ของตนต้องเซ็กซี่และทำให้ความสุขทางเพศได้อย่างรื่นรมย์เป็นต้น

          ความต้องการทางใจเหล่านี้แฝง เกาะ ยึด เหนี่ยวจิตใจและเจตคติของเราอย่างไม่มีวันคลาย ซึ่งเมื่อชีวิตคู่ดำเนินไปแล้วไม่ตรงกับความต้องการทางใจเหล่านี้ ปัญหาจึงค่อย ๆ ก่อตัวขึ้น จนเป็นไฟที่ร้อนแรงในเวลาต่อ ๆ มาได้

          ความจริงประการที่สอง คือเราไม่รู้ความจริงว่า ชีวิตมนุษย์ที่เกิดมาแต่ละคนย่อมมีเอกลักษณ์เฉพาะตนเปลี่ยนได้ยาก ส่วนใหญ่อุปนิสัยใจคอ ความชอบ ความคิด อารมณ์ ทัศนคติ ความเชื่อเป็นมาอย่างไร ก็จะตกเป็นผลึกที่เหนี่ยวแน่นอย่างนั้น

          มีหลายคนบอกว่าไม่จริงหรอก บุคคลิกคนเราเปลี่ยนกันได้ ซึ่งในเชิงจิตวิทยาแล้วต้องขอบอกว่าเปลี่ยนได้ยากมาก แต่ปรับได้เรียนรู้เพื่อปรับปรุงตัวเองได้ แต่เปลี่ยนทั้งหมดได้ยาก เพราะธรรมชาติของมนุษย์ เมื่อเติบโตเป็นตัวตนแล้ว จะยึดทุกสิ่งทุกอย่างของตัวตนไว้ไม่ยอมปล่อย ยกเว้นจะได้ถูกขัดเกลาโดยการปฏิบัติธรรมอย่างถึงที่สุด หรือถึงแก่นจริง ๆ จึงจะเปลี่ยนได้

          การไม่รู้ความจริงประการที่สองนี้เอง ทำให้เราไม่ยอมรับในความเป็นเอกลักษณ์เฉพาะตนในคู่ของเรา ว่า "เขาก็เป็นของเขาอย่างนี้แหละ จะไปหวังให้เป็นดังใจเราทุกอย่าง เป็นไปไม่ได้ทั้งหมด หรือเป็นไปได้ยาก"

          และผมอยากให้ลองพิจารณาตัวเราเองดูก็ได้ครับ เราก็จะพบว่า "เราเองก็ทำอะไรให้กับตัวเองเพื่อสมหวังในตัวเองไม่ได้ทั้งหมด หรือได้ยากมาก นับประสาอะไรที่จะไปให้คนอื่นทำอะไรดังในเราได้"

          ผมอยากจะเสนอว่าในชีวิตเรา ตั้งความหวัง ได้ แต่อย่าคาดหวัง เพราะถ้าเราคาดหวังเราจะกระสับกระส่าย ตึงเครียด ผลักดัน ดิ้นรน และเป็นทุกข์อยู่ตลอดเวลา

          เมื่อเรารู้ความจริงว่าตัวเราต้องการอะไร เราก็ต้องหาให้ตรงที่สุดจริงที่สุด เมื่อหามาแล้วไม่ตรงไม่จริง จะไปโทษคนอื่นคงไม่แก้ไขอะไรได้

          และเมื่อรู้ความจริงว่ามนุษย์แต่ละคนย่อมมีเอกลักษณ์ของตนเอง เราก็ควรยอมรับความเป็นปัจเจกชนหรือความเป็นเอกลัษณ์ของคู่ของเรา เมื่อยอมรับได้ ก็จะเกิดความเข้าใจ และให้อภัยว่าเขาก็เป็นของเขาอย่างนี้ เราเป็นคนเลือกมาเองต่างหาก

          ทั้งหมดที่เขียนมานี้ ผมมิได้หมายความว่าให้จำทน จำฝืนที่จะต้องอยู่ด้วยกัน แต่เป็นเนื้อหาที่ทำให้เกิดความเข้าใจเพื่อนมนุษย์ เพื่อลดความทุกข์ในตัวของเรา ยอมรับ เข้าใจ แล้วจะเกิดความเมตตา กรุณาต่อกัน ซึ่งเป็นจุดเริ่มต้นที่จะพลิกกลับให้เหตุการณ์ดีขึ้นสุขขึ้น

          และเมื่อจัดองค์ประกอบอื่น ๆ ของชีวิตคู่ให้สมบูรณ์แล้ว คำว่า "ไม่ได้ดังใจ" จะลดน้อยลง แล้วความสุขจะมีมากขึ้น



ขอขอบคุณข้อมูลจาก




เรื่องที่คุณอาจสนใจ
ไม่ได้ดั่งใจ อัปเดตล่าสุด 22 กุมภาพันธ์ 2555 เวลา 13:51:48 2,887 อ่าน
TOP